ครม.สัญจร เคาะ 'Easy E-Receipt' ซื้อสินค้าคืนภาษี 5 หมื่นบาท เริ่ม 1 ม.ค. 67
ครม.สัญจร เคาะแล้ว มาตรการ ‘Easy E-Receipt’ ซื้อสินค้าตั้งแต่ 1 ม.ค.- ก.พ. 67 ขอใบลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาทต่อคน ระบุซื้อเหล้า-เบียร์ ซื้อรถ ค่าน้ำมัน ค่าสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา นำมาหักลดหย่อนไม่ได้
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)สัญจร นัดแรกที่จังหวัดหนองบัวลำภู มีมติเห็นชอบมาตรการ Easy E-Receipt หรือ e-Refund เดิม ซึ่งเป็นการให้นำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้า หรือค่าบริการ จากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2567 ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร มาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามมาตรการได้
ทั้งนี้ตามมาตรการมีการกำหนดสินค้าและบริการที่ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามมาตรการได้ ทั้งสิ้น 6 รายการด้วยกัน ประกอบด้วย
- ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่าซื้อยาสูบ
- ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 ม.ค. 67 หรือสิ้นสุดหลังวันที่ 15 ก.พ. 67 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2567 ก็ตาม
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
อย่างไรก็ตาม มีสินค้าและบริการที่สามารถใช้สิทธิได้จำนวน 3 รายการ ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่
- ค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
- ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
- ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
ทั้งนี้กรณีซื้อสินค้า หรือ รับบริการดังกล่าวจากผู้มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องได้รับใบรับในรูปแบบใบรับอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง