ข่าว

‘ไทยสร้างไทย’ เสนอรัฐบาล เพิ่มวงเงิน ‘ชะลอการขายข้าว’ เป็น 30,000 ล้านบาท

06 พ.ย. 2566

สส.ชัชวาล แพทยาไทย ‘ไทยสร้างไทย’ เสนอรับาลเพิ่มวงเงิน 'ชะลอการขายข้าวง เป็น 30,000 ล้านบาท พร้อมเพิ่มสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้สถาบันการเกษตร ไว้เป็นทุนรับซื้อข้าวชาวนา ป้องกันพ่อค้าคนกลางกดราคา มั่นใจช่วยชาวนาให้มีชีวิตดีขึ้น ไม่ต้องแบกหนี้สิน

ที่รัฐสภา นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอ 2 มาตรการ “ชะลอการขายข้าว” เพื่อรักษาเสถียรภาพข้าวเปลือก ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ว่า ทุกวันนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ทำนาปีละ 1 ครั้งเนื่องจากน้ำน้อยโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน โดยข้าวเปลือกจะออกในห้วงเวลาเดียวกัน เก็บเกี่ยวพร้อมกันในลักษณะที่เป็นข้าวสดมีความชื้นสูง ส่วนใหญ่จะนำไปขายสด บางส่วนตากไว้เพื่อทำพันธุ์ และรอให้ราคาดี

 

นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย

อย่างไรก็ตาม เมื่อข้าวเปลือกถูกนำออกมาขาย ในห้วงเดียวกันจะทำให้ถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ทำให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ดังนั้นตนขอเสนอไปยังรัฐบาลว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/2566 ดอกเบี้ยร้อยละ1 ซึ่งเกษตรกรและสถาบันการเกษตรที่มีข้าวเปลือกเก็บไว้ในยุ้งฉาง โดยเก็บข้าวเปลือกเป็นแก้มลิง แล้วนำข้าวไปเข้าโครงการชะลอการขาย ซึ่งจะได้เงินสดตามราคาประกันและได้ค่าเก็บรักษาตันละ 1,500 บาท เมื่อราคาดีค่อยทยอยนำข้าวเปลือกออกขาย ก็จะทำให้ราคาข้าวเปลือกไม่ตกต่ำ 

 

 

ตนจึงเห็นสมควรว่ารัฐจะต้องเพิ่มวงเงินในส่วนของโครงการนี้ เป็น 30,000 ล้านบาท จากเดิมที่ได้ในปรการผลิตที่ผ่านมา 25,590 ล้านบาท แต่ถูกปรับลดเหลือเพียง 10,601 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกันจำเป็นต้องให้สถาบันการเกษตรหรือสหกรณ์การเกษตร ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ เข้ามารวบรวมข้าวเปลือกจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก และเกษตรกรทั่วไป เพื่อป้องกันการกดราคา และป้องกันราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ซึ่งรัฐจำเป็นต้องมีสินเชื่อหรือเงินทุนให้กับสถาบันการเกษตรเหล่านั้น เพื่อเข้าไปรับซื้อข้าวโดยให้ สินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ มีธกส.เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้กับสถาบันการเกษตรนั้น

 

 

ซึ่งตนมองว่า รัฐสมควรที่จะเพิ่มวงเงินสำหรับโครงการนี้เป็น 20,000 ล้านบาท จากเดิมที่เคยได้ในปีการผลิตที่ผ่านมา 10,000 ล้านบาท แต่ถูกลดลงมาจนเหลือเพียง 481 ล้านบาทเท่านั้น 

 

 

พรรคไทยสร้างไทยขอตั้งข้อสังเกตว่า งบประมาณในส่วนดังกล่าว หายไปไหน ทั้งที่โครงการดังกล่าวไม่ได้เป็น เงินที่ให้ขาด แต่เป็นเงินที่ให้สถาบันการเกษตรไว้กู้ยืม และรัฐบาลจะได้คืนอย่างแน่นอนเมื่อมีการขายข้าว

 

 

นายชัชวาล กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ ตนขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจเร่งพิจารณา เพื่อให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว โดยเฉพาะทั้งสองโครงการที่กล่าวมา ถือเป็นโครงการที่ดีและรัฐสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้โดยจะเป็นไปตามจำนวนข้าวเปลือกของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ และที่สำคัญจะช่วยให้เกษตรกรมีเงินทุนไว้หมุนเวียน และใช้จ่ายโดยไม่เดือดร้อน จะทำให้เกษตรกร มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องแบกภาระหนี้สินหรือทำนาแล้วขาดทุนเหมือนที่ผ่านมา 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ก่อนหน้านั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์  เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 7 พ.ย. 2566 เพื่อขอให้ “ชะลอการขายข้าว” เพื่อช่วยเหลือชาวนาและเกษตรกรผู้ปลูกข้าว