เปิดสถิติวัยรุ่น Gen X และ Gen Y นิยม 'ผ่อนทอง' ขยายตลาดเปิดผ่อน 24 ชม.

บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ผนึกห้างทองเยาวราชกรุงเทพ เป็นพันธมิตร ขยายตลาดสินเชื่อผ่อนทอง CLICK2GOLD ชูจุดเด่นแพลตฟอร์มออนไลน์บริการ "ผ่อนทอง" ผ่าน LINE ตลอด 24 ชม. ไม่ต้องใช้เงินก้อน ไม่จำกัดอาชีพ ไม่ต้องมีบัตรเครดิต ผ่อนครบรับทองทันทีที่ห้างทองเยาวราชกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ เผยตลาด "ผ่อนทอง"  ยังมีดีมานด์ ผู้บริโภคทุกเจเนอเรชันนิยมผ่อนทอง พบคน Gen X นิยมผ่อนทองมากที่สุด รองลงมาคือ Gen Y เป้าหมายเพื่อสะสมทรัพย์ สำรองการเงินยามฉุกเฉิน และซื้อเป็นของขวัญ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ จัดเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” ในทุกยุค และเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ชี้ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กับทั้ง 2 บริษัท และช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงช่องทางผ่อนทองที่ง่ายและน่าเชื่อถือมากกว่าบน LINE แพลตฟอร์มยอดฮิตขวัญใจคนยุคใหม่ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 54 ล้านคนทั่วประเทศตั้งเป้ามีผู้ "ผ่อนทอง" เพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท ภายในปี 2566 นี้ 

นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)  ผู้ให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัว CLICK2GOLD  บริการผ่อนทองรูปพรรณออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. บนแพลตฟอร์ม LINE OA @sgcapital ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าเพิ่มเพื่อน รับข้อมูลข่าวสารบนแพลตฟอร์มกว่า 400,000 คน ขณะเดียวกันสินเชื่อ CLICK2GOLD ซึ่งนับเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักที่สามารถกระตุ้นจำนวนผู้สมัครขอสินเชื่อ "ผ่อนทอง" ออนไลน์เพิ่มมากขึ้นตลอดระยะเวลาช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้การตอบรับจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงการผ่อนทองเพื่อสะสมทรัพย์ได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่มีขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ไม่ได้ทำงานประจำ เช่น กลุ่มอาชีพรับจ้าง พ่อค้า แม่ค้า อาชีพอิสระฟรีแลนซ์ แม่บ้าน และนักเรียน นักศึกษาที่รู้จักการวางแผนเก็บออมสะสมทรัพย์ เนื่องจากคนไทยนิยมซื้อทองเพื่อสวมใส่เป็นเครื่องประดับ และซื้อเป็นของขวัญเนื่องจากมีมูลค่า อีกทั้งยังนิยมใช้เป็นการสะสมทรัพย์ เป็นทรัพย์สินหมุนเวียนยามฉุกเฉิน โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจที่มีความผันผวนในปัจจุบัน ทองคำถือเป็นทรัพย์สินปลอดภัยที่คนเลือกลงทุนมากที่สุด จากการเก็บข้อมูลพบสถิติคน Gen X กลุ่มคนที่มีอายุระหว่าง 38-53 ปี  นิยมผ่อนทองมากที่สุด รองลงมาเป็นกลุ่ม Gen Y อายุระหว่าง 21-37 ปี 

ล่าสุด บริษัทฯ ได้พาร์ทเนอร์ธุรกิจร้านทองรายใหญ่ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ร้านทองคุณภาพชั้นนำของประเทศที่มีมากกว่า 300 สาขา มาร่วมให้บริการผ่อนทอง CLICK2GOLD และขยายฐานลูกค้าระหว่างกัน ให้ผู้ใช้บริการสามารถ "ผ่อนทอง" รูปพรรณออนไลน์ได้ตลอด 24 ชม. โดยการลงทะเบียนผ่าน LINE OA @sgcapital  เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการสะสมทรัพย์สินรูปแบบทองได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการผ่อนแบบไม่มีบัตรเครดิต ไม่ต้องใช้เงินก้อน ไม่จำกัดอาชีพก็สามารถสมัครสินเชื่อผ่อนทอง และเป็นเจ้าของทองได้ง่าย ๆ โดยเพียงผู้สมัครมีอายุครบ 20 ปีขึ้นไป ใช้บัตรประชาชนใบเดียว มีระยะเวลาในการเลือกผ่อนชำระตั้งแต่ 6 - 12 เดือน ดาวน์เริ่มต้น 700 บาท ผ่อนทองน้ำหนักตั้งแต่ 1 สลึง - 1 บาท และเมื่อผ่อนครบสามารถรับทองได้ที่ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ คาดว่าภายในปี 2566 นี้จะมีผู้สมัครสินเชื่อผ่อนทอง CLICK2GOLD  ผ่าน LINE OA @sgcapital  มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท 

นายสันต์ สินธุฉัตร ประธานกรรมการบริหาร ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ เปิดเผยว่า ทองรูปพรรณ ยังเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการสำหรับคนไทยในทุกยุคทุกสมัย ไม่จำกัดเฉพาะคนสูงอายุ หรือวัยกลางคน ปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ก็นิยมสวมใส่และสะสมทรัพย์เป็นทองรูปพรรณเช่นกัน เนื่องจากทองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา มีความเสี่ยงต่ำ เทียบกับการสะสมทรัพย์หรือลงทุนในรูปแบบอื่นที่มีความเสี่ยงสูงและผันผวน ในยุคเศรษฐกิจผันผวน เงินเฟ้อสูง ทั้งยังสามารถนำมาขายใช้เป็นเงินทุนสำรองในยามฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันห้างทองเยาวราชกรุงเทพ มีฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านราย และมีจำนวนสาขากว่า 300 สาขาทั่วประเทศ การเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์บน CLICK2GOLD บริการผ่อนทองผ่านไลน์ ได้ตลอด 24 ชม. เป็นช่องทางการผ่อนทองที่สะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้นผ่าน LINE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของคนไทย โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ LINE ในประเทศไทยจำนวน 54 ล้านคน นับเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสและทางเลือกให้กับลูกค้าเข้าถึงบริการผ่อนทองของร้านได้มากและง่ายขึ้น ทั้งยังอาจสามารถช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ไปยังกลุ่มผู้ใช้บริการ CLICK2GOLD ได้อีกด้วย

“ปัจจัยที่ทำให้ทองรูปพรรณยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในใจคนไทย คือ สามารถใช้แทนการเก็บเงิน สำรองการเงินในยามฉุกเฉิน ไว้ใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย ใช้เป็นทุนในการทำธุรกิจ ใช้เป็นของขวัญเนื่องในวันพิเศษและโอกาสสำคัญ ถือเป็นทรัพย์สินทางเลือกเพื่อกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน รวมทั้งการลงทุนในทองคำเป็นการสู้กับเงินเฟ้อ จากสถิติที่ผ่านมาค่าเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ราคาทองคำก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน” นายสันต์ กล่าวทิ้งท้าย