ข่าว

ย้อนตำแหน่ง 'ขุนคลัง' เก้าอี้ร้อน ที่มี เศรษฐกิจประเทศ เป็นเดิมพัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เดิมพันร้อน ย้อนตำแหน่ง 'ขุนคลัง' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เก้าอี้ที่มีผลต่อการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจ ในมือ 'เศรษฐา ทวีสิน'

“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” หรือ ขุนคลัง หนึ่งในตำแหน่งที่มีผลต่อการกำหนดทิศทางทางเศรษฐกิจ และความเป็นไปของประเทศ ซึ่งตามธรรมเนียมแล้ว โควตาตำแหน่ง “ขุนคลัง” ก็มักจะอยู่กับพรรคแกนนำรัฐบาล เพราะถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ที่เป็นผู้ควบคุมการเบิกจ่ายอนุมัติงบประมาณทั้งหมด จึงถือเป็นตำแหน่ง ที่หาตัวคนลงยาก เพราะพลาดนิดเดียว นั่นหมายความถึง เอาประเทศเป็นเดิมพัน

เศรษฐา ทวีสิน

ก่อนหน้านี้ที่ พรรคก้าวไกล จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เก้าอี้นี้ถูกคาดหมายว่า จะตกเป็นของ ไหม “ศิริกัญญา ตันสกุล” ว่าที่ขุนคลังหญิงคนแรก แม้ดูจากพรรษาทางการเมืองน้อย แต่ดูจากโปรไฟล์ด้านการศึกษา และงานด้านเศรษฐกิจ ก็ถือว่าน่าจะเหมาะสมที่สุดในห้วงเวลานั้น แต่สุดท้าย ประวัติศาสตร์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหญิงคนแรกของประเทศไทย ก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้

 

 

หากจะย้อนดูในหน้าประวัติศาสตร์ขุนคลังของไทย เคยมีรัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลัง มาแล้วถึง 54 คน โดยปัจจุบัน คือ “อาคม เต็มพิทยาไพสิฐ” ที่กำลังจะหมดวาระลงอีกไม่นาน...ตำแหน่งขุนคลัง จากอดีตถึงปัจจุบัน ใครเป็นใครบ้าง คมชัดลึก จะหยิบยกบุคคลที่โดดเด่น บางส่วนมาให้รู้จัก

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ

ทนง พิทยะ รัฐมนตรีคลัง คนที่ 39

 

 

ทนง พิทยะ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในช่วงวิกฤตการณ์การเงินในเอเชียปี 2540 ต่อมาในปี 2548 ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” หลังจากได้รับตำแหน่งดังกล่าวเพียง 6 เดือน จึงย้ายมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สลับกันกับ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”

ทนง พิทยะ

 

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีคลัง คนที่ 41

 

 

ได้ชื่อว่าเป็น “ขุนพลเศรษฐกิจ” คนสำคัญของรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” โดยเป็นผู้ผลักดันนโยบายประชานิยมต่างๆ ให้สำเร็จ เช่น โครงการ OTOP โครงการกองทุนหมู่บ้าน และโครงการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) หลังรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย แต่ด้วยความสามารถทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้ถูกเชิญไปนั่งเป็นที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจในอีกหลายรัฐบาล เช่น รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

 

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยังนับได้ว่าเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในฐานะแกนนำกลุ่ม สส. ซึ่งสื่อมวลชนให้ชื่อกลุ่มแกนนำนี้ว่า “8ส.+ส.พิเศษ” อันประกอบด้วย สมศักดิ์ เทพสุทิน, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล, สุวิทย์ คุณกิตติ, สุวัจน์ ลิปตพัลลภ, สุรนันทน์ เวชชาชีวะ, สนธยา คุณปลื้ม และ สรอรรถ กลิ่นประทุม ส่วน ส.พิเศษ คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

 

วีรพงษ์ รามางกูร รัฐมนตรีคลัง คนที่ 32

 

 

ดร.โกร่ง อีกหนึ่งรัฐมนตรีประวัติเด่น ในช่วงรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ ผู้ถูกเชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจในอีกหลายรัฐบาล เช่น รัฐบาลเปรม ติณสูลานนท์, รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนได้ฉายาว่า “กุนซือเศรษฐกิจ 7 รัฐบาล” โดย ดร.โกร่ง ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2564 อายุได้ 78 ปี ด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว

 

วีรพงษ์ รามางกูร

 

“นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี” รัฐมนตรีคลัง คนที่ 45

 

 

หมอเลี้ยบ เป็นรัฐมนตรีคลัง ภายใต้รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ก่อนที่จะโดนศาลวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมืองภายในปีเดียวกันกับที่รับตำแหน่ง แต่หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นของ ‘นพ.สุรพงศ์’ กลับเป็นผลงานที่เกิดขึ้นช่วงดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร นั่นคือ การร่วมขับเคลื่อน ‘โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค’ กับ ‘นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์’

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี

 

และในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน (ว่าที่) นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โผ ครม. ล่าสุด เศรษฐา จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่มีนโยบาย เงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นเดิมพัน ความฝันของประชาชน ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ