ร้อง 'ดีเอสไอ' ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ ไม่โปร่งใส

 

นายอิทธิฤทธิ์ จันทรฤทธิ์ อาชีพทนายความ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 โดยอ้างว่าในฐานะประชาชนขอร้องเรียนการปฏิบัติงานของนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการท่าเรือแห่งประเทศไทย ว่ามีพฤติกรรมไม่โปร่งใส 5 เรื่อง 

 

เรื่องร้องเรียน ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ ประกอบด้วย 1) จ้างบุคคลโดยไม่มีระเบียบรองรับเพื่อเข้าปฏิบัติงานในการท่าเรือฯ ในตำแหน่งลูกจ้างสัญญาจ้างประจำโครงการจัดตั้งสถาบันด้านการขนส่งทางน้ำ และโลจิสต์ติก MLI 

 

 

สำหรับการจ้างงานดังกล่าวนายอิทธิฤทธิ์ ระบุว่า มี 3 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเงินเดือน 1 แสนบาท ตำแหน่งนักวิจัย เงินเดือน 5 หมื่นบาท และตำแหน่งพนักงานธุรการ เงินเดือน 2.5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นอัตราเงินเดือนที่สูงกว่าอัตราจ้างตามที่รัฐวิสาหกิจกำหนด

 

 

2) สั่งการให้มีการแก้ไขวิธีการจัดซื้อจัดจ้างตู้ตัดตอนไฟฟ้าสถานีย่อยที่ 3 และ 5 ซึ่งทำให้การท่าเรือฯ เสียประโยชน์ และไม่เป็นไปตามระเบียบพัสดุโดยมีเจตนาส่อไปในทางทุจริต เนื่องจากมีการแก้ไขวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง ทำให้การท่าเรือฯ เสียประโยชน์และไม่เป็นไปตามระเบียบพัสดุ

 

 

3) ใช้อำนาจโดยมิชอบกลั่นแกล้งบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่ชนะการประมูลหรือการประกวดราคา และเรียกร้องผลประโยชน์ 4) ใช้อำนาจจัดซื้อจัดจ้างโครงการจ้างที่ปรึกษาตรวจสอบทางด้านวิศวกรรมสร้างปั้นจั่นยกตู้สินค้าชนิดเดินบนรางขนาดยกน้ำหนักไม่น้อยกว่า 40 เมตริกตัน จำนวน 2 คน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง

 

 

และ 5) สั่งการให้จัดอบรมสัมมนา และงานเลี้ยงต่างๆ โดยหลีกเลี่ยงกระบวนการทางพัสดุโดยใช้เงินจำนวนมาก เช่น จัดเลี้ยงโต๊ะจีนในการจัดงานครบรอบ 72 ปี โต๊ะละ 5,000 บาท โดยไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน

 

 

นายนายอิทธิฤทธิ์ กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างข้างต้นจึงได้ยื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรับเรื่องไว้พิจารณาตรวจสอบพฤติกรรม และการกระทำดังกล่าวทั้งหมดตามร้อง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอระบุว่า จะแจ้งผลการพิจารณาว่าจะรับเรื่องเพื่อตรวจสอบหรือไม่ภายใน 15 วัน 

 

ผู้บริหารการท่าเรือฯ เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ ยินดีให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติงานภายใน เพราะที่ผ่านมามีการดำเนินการตามระเบียบที่กำหนดไว้ แต่เป็นธรรมดาที่จะมีกลุ่มผู้เสียประโยชน์จากการปฏิบัติงาน และอาจเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง จึงอาจมีเจตนาดิสเครดิตผู้อำนวยการการท่าเรือฯ ก็เป็นได้