ข่าว

โต้แย้ง กปน. จัดจ้างก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ 6.5 พันล้านไม่เป็นธรรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เอกชนโต้แย้ง กปน. ลงนามสัญญาจ้างโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ มูลค่า 6,500 ล้าน ไม่เป็นธรรมกับบริษัทผู้เสนอราคาต่ำสุด ทั้งที่ยื่นเอกสารผลงานครบ รวมทั้งคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ระบุอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น แต่กลับไปลงนามจ้างบริษัทที่เสนอราคาสูงกว่า

 

โครงการก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มูลค่ากว่า 6,526 ล้านบาท ของการประปานครหลวง (กปน.) ซึ่งประกวดราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปเมื่อช่วงปลายปี 2564 มีการลงนามในสัญญาจ้าง โดยไม่รับฟังผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ที่มีหนังสือแจ้ง กปน.ว่าอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น 

 

ก่อนจะมีการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างกับบริษัทผู้เสนอราคาสูงกว่า มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ของบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด และบริษัท ชิโน-ไทย เอนจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ที่ลงนามโดยอธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 3 พ.ค. 2565 ระบุว่า กรณีผู้อุทธรณ์ทั้ง 2 ราย ยื่นข้อเสนอประกวดราคาเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์แล้ว (มีหนังสือรับรองผลงานที่มีกำลังการผลิต Nominal Capacity 100,000 ลบ.ม.ต่อวัน) ข้อกล่าวอ้างของผู้อุทธรณ์จึงฟังขึ้น และมีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีนัยสำคัญ 

 

 

ตามหนังสือฉบับดังกล่าว ให้ กปน.กลับไปดำเนินการในขั้นตอนการพิจารณาผลการเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องต่อไป ตามนัยมาตรา 119 วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

 

 

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาแทนที่ทาง กปน.จะพิจารณาตามผลอุทธรณ์และขั้นตอนด้วยการพิจารณาคัดเลือกจากบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดซึ่งได้ยื่นรายละเอียดคุณสมบัติเพิ่มเติมตามที่ กปน.กำหนดแล้ว แต่กลับไปดำเนินการลงนามในสัญญากับบริษัท ITA Consotium เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 

 

 

แม้ต่อมาบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ได้ยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง แต่ กปน.ไม่ได้ส่งเรื่องการยื่นอุทธรณ์การจัดซื้อจัดจ้างงานฯ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง พิจารณา ซึ่งการกระทำของ กปน.ดังกล่าว เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

 

สำหรับการขอตรวจสอบผลงานของบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ในประเด็นขนาดกำลังผลิตน้ำไม่ถึง 100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ตามที่ทางคณะกรรมการฯ ของ กปน.ให้บริษัทฯ ชี้แจงเพิ่มเติมหลังจากไม่ผ่านคุณสมบัติในรอบแรกนั้น ทางบริษัทฯ ได้ยื่นเอกสารรับรองผลงานก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีผลงานครบถ้วนตามเงื่อนไข TOR และสอดคล้องกับผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ที่แจ้งว่าอุทธรณ์ฟังขึ้น

 

 

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยถึงกรณีนี้ตอนหนึ่งว่า ที่มีผู้ยื่นอุทธรณ์การประกาศผลจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างขยายกำลังผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์นั้น คณะกรรมการประกวดราคาฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 ประกอบตามมาตรา 65 ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอตามมาตรา 55(1) หรือ (2) ที่ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการ โดยพิจารณาถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ และวัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นสำคัญ 

 

 

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวนี้ถูกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร สอบข้อเท็จจริง โดยเนื้อหาผลสอบสรุปตอนหนึ่งระบุว่า หากไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง จะลงนามในสัญญายังไม่ได้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดฐานละเว้นหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 และมาตรา 121 และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา 

 

 

ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูง กปน. กับพวก ที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาเรื่องนี้กลับไม่ปฏิบัติตามความเห็นของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ที่กำหนดให้การวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เป็นที่สุด 

 

 

ดังนั้น กปน.จึงมีหน้าที่เพียงกลับไปดำเนินการในขั้นตอนพิจารณาผลการเสนอราคาเท่านั้น แต่ กปน.กลับไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว กลับไปประวิงเวลาในการประกาศผู้ชนะการประกวดราคา การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดกับระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 53 และมาตรา 67 วรรคหนึ่ง (3) ซึ่งการยกเลิกสัญญาได้ต่อเมื่อการจัดซื้อจัดจ้างต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะหรือไม่อย่างไร 

 

 

แต่กรณีนี้เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฎว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง มีคุณสมบัติผ่านตามข้อสัญญาทุกข้อ และเป็นบริษัทผู้เสนอราคาต่ำสุด หาก กปน.ประกาศให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง เป็นผู้ชนะการประกวดราคาก็ทำให้ภาครัฐได้รับประโยชน์มากที่สุด แม้ กปน.จะยังไม่ประกาศว่าการประกวดราคาครั้งนี้บริษัทใดชนะการประกวดราคาตามระเบียบก็ตาม (ประกาศผู้ชนะการประกวดราคา 24 มี.ค. 66) แต่การที่ กปน. ประวิงการประกาศผู้ชนะและมีพฤติการณ์ต่างๆ ที่แสดงว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมายก็ทำให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าวแล้ว

 

 

พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าวของผู้บริหารระดับสูงของ กปน. กับพวก เข้าข่ายความผิดฐานต่อตำแหน่งหน้าที่ ละเว้นหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 120 และมาตรา 121 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 

 

 

ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ คือให้ส่งเรื่องพฤติการณ์ทั้งหมดนี้ไปยังประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาไต่สวนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาโครงการนี้ จำนวน 10 ราย อีกทั้งให้ส่งเรื่องไปยังปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย และแจ้งประธานสภาผู้แทนราษฎร ทราบต่อไป อย่างไรก็ตาม ต่อมาบริษัทวงษ์สยามก่อสร้างได้ยื่นฟ้องศาลปกครอง 

 

 

และในช่วงบ่ายของวันที่ 24 มี.ค. 2566 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามประกาศการประปานครหลวง ลงวันที่ 7 มี.ค. 2566 เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง ตามที่ กปน.ประกาศให้ ITA Consortium เป็นผู้ชนะการเสนอราคาไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่ กปน.ก็อ้างว่าได้ลงนามในสัญญาไปก่อนศาลปกครองกลางจะมีคำสั่ง

 

 

สำหรับโครงการดังกล่าวนี้ มีผู้ยื่นเสนอราคา 5 ราย ประกอบด้วย ดังนี้ 1) บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ยื่นเสนอราคาต่ำสุดที่ 6,150,000,000 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 376,973,718.58 ล้านบาท 2) บริษัท ชิโน-ไทย เอนจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ยื่นเสนอ 6,195,300,000 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 331,673,718.58 ล้านบาท

 

 

3) บริษัท ITA Consortium ยื่นเสนอ 6,460,560,000 ล้านบาท (กิจการร่วมค้าระหว่างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด กับบริษัท อควาไทย จำกัด) ต่ำกว่าราคากลาง 66,413,718.58 ล้านบาท 4) บริษัท ช.การช่าง ยื่นเสนอ 6,523,800,000 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 3,173,718.58 ล้านบาท และ 5) กิจการร่วมค้า สี่แสงเอสจี 6,525,000,000 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 1,973,718.58 ล้านบาท

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ