ข่าว

รัฐแนะเอกชนไทยรุกส่งออก 'ชานมไข่มุก' ยกนิ้ว อิตาลี เติบโตสูง สะพัด 1.5 พันล.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ข้อมูลการเติบโตของเครื่องดื่ม "ชานมไข่มุก" ที่ประเทศอิตาลี พบขยายตัวอย่างน่าสนใจ นำหน้ายุโรป ทั้งยังมีแนวโน้มโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนะภาคเอกชนไทย หันมาบุกตลาดทางด้านนี้แบบเต็มสูบ อาศัยจังหวะที่ยังไม่มีใครกุมตลาดเบ็ดเสร็จ รุกเข้ามา

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการเติบโตของตลาด "ชานมไข่มุก" ในประเทศอิตาลี ในปี 2565  พบว่ามีมูลค่าการค้าถึง 42 ล้านยูโร   หรือ  1,500 ล้านบาท  หรือมากกว่า 15% ของตลาดยุโรป และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยที่ 18% ต่อปี และจะมีมูลค่าถึง 98 ล้านยูโร   หรือ  3,600 ล้านบาท ภายในปี 2570  จากบรรยากาศดังกล่าว  เชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยและร้านอาหารไทย ขยายตลาดชาไทย และวัตถุดิบสำหรับทำชานมไข่มุก  ที่จะสร้างโอกาสในการพัฒนาธุรกิจทางด้านนี้   โดยมีเป้าหมายคือประเทศอิตาลี

 

 

 

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี รายงานผลการเติบโตของตลาด "ชานมไข่มุก"  พบว่า ในปี 2565   ด้วยการเติบโตทำให้ร้านชานมไข่มุกส่วนใหญ่ กระจายอยู่ในเมืองใหญ่ของอิตาลี ประมาณ 30 เมือง ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีร้านชานมไข่มุก เพิ่มจำนวนเป็น 236 ร้าน  ในเดือนมีนาคม  อย่างไรก็ตาม ตลาดชานมไข่มุกในอิตาลียังคงไม่มีผู้นำที่โดดเด่น

จึงเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยและร้านอาหารไทย ที่จะขยายตลาดชาไทยและวัตถุดิบสำหรับทำชานมไข่มุก เนื่องจากไทยมีศักยภาพและมีตลาดชานมไข่มุกจำนวนมาก รวมทั้ง เว็บไซต์ tasteatlas ยังได้จัดอันดับให้ชาไทย หรือชานมเย็นของไทย (Thai Iced Tea) เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลก ในอันดับ 7 จากทั้งหมด 100 อันดับ ถือเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคในอิตาลีได้รู้จักชาไทยมากขึ้น  สามารถนำเข้าชาและส่วนผสมชานมไข่มุกจากไทย รวมทั้งอาจสอดแทรกเป็นเมนูเครื่องดื่ม   รวมทั้งอาจนำสมุนไพรและผลไม้มาผสมในสูตรเพื่อเสนอเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

 

 

 

ตลาดชานมไข่มุกในอิตาลียังเติบโตได้อีกมาก คาดการณ์ว่า ภายในปี 2570 มูลค่าตลาดโต ถึง 98 ล้านยูโร หรือ 3,600 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยที่ 18% ต่อปี ซึ่งถือเป็นโอกาสผู้ประกอบการไทย ในการร่วมลงทุนธุรกิจเครื่องดื่ม โดยนำวัตถุดิบที่มีคุณภาพของไทยไปนำเสนอ เช่น ชาไทยที่มีกลิ่นหอม ชาเขียว ชามะลิ หรือชากลิ่นผลไม้ใหม่ ๆ เช่น มะพร้าวน้ำหอม มะม่วง ทุเรียน เสาวรส เผือก เป็นต้น

 

 

 

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นในศักยภาพและคุณภาพ ของผู้ประกอบการ และสินค้าไทย และเชื่อในการทำงานผ่านแนวทางการประเมินความนิยม กระแสตลาด และพิจารณาโอกาสที่เหมาะสมกับสินค้าไทย การประเมินผลการเติบโตของตลาดในต่างประเทศ เป็นโอกาส และช่องทางสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบไทยได้นำเสนอสินค้าส่งออกได้เหมาะสม   ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมบูรณาการการทำงานให้การสนับสนุนสินค้าไทยในต่างประเทศ และเชื่อว่าจะสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจไทย"  นายอนุชา ระบุ

 

รัฐแนะเอกชนไทยรุกส่งออก 'ชานมไข่มุก' ยกนิ้ว อิตาลี เติบโตสูง สะพัด 1.5 พันล.

การเติบโตของตลาด "ชานมไข่มุก" ในประเทศอิตาลี  รอบปี 2565  ซึ่งพบว่ามีมูลค่าการค้าถึง 42 ล้านยูโร   หรือ  1,500 ล้านบาท  หรือมากกว่า 15% ของตลาดยุโรป และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยที่ 18% ต่อปี

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ