‘ชาติพัฒนากล้า’ หวั่น สิ้นสุดมาตรการลดภาษี ‘ดีเซล’ อาจราคาพุ่งถึง 5 บาท

ดร.อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า(ชพก.) กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย. 2566) ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลขึ้นเป็น 3.3 บาทแล้ว รวมถึงค่าการตลาดน้ำมันทุกชนิดจากดีเซลถึงเบนซินประเภทต่างๆ ก็ขึ้นกว่า 3 บาททุกตัว

ทั้งที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 2 บาท/ลิตร เมื่อ 14 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา

“ผมอยากรู้มันเกิดอะไรกับกระทรวงพลังงาน ท่านนิ่งเฉยต่อการทำหน้าที่ ปล่อยให้บริษัทน้ำมันขึ้นค่าการตลาดตามใจชอบ ขัดกับมติ กบง.ได้อย่างไร"

รวมถึง ปตท. ในฐานะบริษัทขายน้ำมันใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่อยู่ สามารถชี้นำค่าการตลาดให้เป็นไปตามมติ กบง. ได้ไม่ยาก เพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 69-70 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้ว 

ฉะนั้นราคาน้ำมันปัจจุบันสามารถลดลงได้ทันที จึงขอให้กระทรวงพลังงานรีบแก้ไขด่วน ตอนนี้ กบง.เองก็ยังประชุมได้ ทำงานได้ กบง.ทั้ง 12 คน มีข้าราชการฝ่ายการเมืองแค่ท่านเดียวคือ รัฐมนตรีพลังงาน ส่วน 11 ท่านที่เหลือเป็นข้าราชการประจำทั้งหมด

ดร.อรรถวิชช์ ย้ำว่า เรื่องที่ตนเสนอไปนั้น ไม่ได้ขัดกับหน้าที่รัฐบาลรักษาการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169(1) เรื่องกระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เพราะการกำหนดเพดานค่าการตลาดของบริษัทน้ำมัน เป็นงานปกติทั่วไปในการกำกับดูแลราคาน้ำมันอยู่แล้ว 

“ไม่มีภาระการเงินหรือประโยชน์ใดที่จะเสีย หากแก้ไขค่าการตลาดไม่ได้ ปัญหาจะหนักกว่าเดิมเพราะ 20 ก.ค.นี้ จะสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตแล้ว ดีเซลอาจขึ้นกระชากถึง 5 บาท”ดร.อรรถวิชช์ กล่าวสรุป