'ทุนจีนสีเทา' มหากาพย์ ตู้ห่าว ทัวร์ศูนย์เหรียญ-อั้งยี่ สู่ อุ้มท้องซื้อพ่อ

การเข้ามาของกลุ่ม “ทุนจีนสีเทา” ที่อาศัยใช้ประเทศไทย เป็นฐานการกระทำผิด ฝังรากลึก แทรกซึมทุกวงการ มาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นมหากาพย์ ที่แก้ไม่ได้ เพราะหลายคนรู้ดีว่า มีผู้บังคับใช้กฎหมาย รู้เห็นเป็นใจเสียเอง ทำให้อาชญากรข้ามชาติเหล่านี้ เจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ

 

 

 

นับตั้งแต่ คดีตู้ห่าว หรือ ชัยนัฐร์ กรชายานันท์ เป็นชนวนเริ่มต้น ที่ทำให้ชื่อของ “ทุนจีนสีเทา” เป็นที่รู้จัก หลังชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เปิดประเด็น การทลายผับจินหลิง สถานบันเทิงที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ และ ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะมีส่วนช่วยให้ตู้ห่าว ยังคงทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทยอยู่ได้

ชำแหละ "ทุนจีนสีเทา"

 

ต้นตอปัญหา “ทุนจีนสีเทา” เข้ามาอาศัยแผ่นดินไทย กระทำความผิด ถูกเปิดโปง เมื่อพบว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ประตูด่านแรกรับ มีการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์จำนวนมหาศาล อำนวยความสะดวกในการต่อวีซ่า หรือเปลี่ยนชนิดวีซ่า จัดตั้งมูลนิธิ สมาคม โรงเรียนสอนภาษา เป็นฉากบังหน้าแสวงหาประโยชน์ ลำพังคนจีนทำไม่ได้แน่นอน ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐช่วย

 

 

หลังจากนั้น ทุนจีนสีเทา ยังคงแทรกซึมอยู่เรื่อยๆ โดยพบว่า มีการกว้านซื้อที่ดิน บ้านจัดสรร ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดยนายนนท์ หิรัญเชรษฐ์สกุล นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ จ.เชียงใหม่ ภาคเหนือ บอกว่า กระแสทุนจีนเข้ามาซื้อบ้าน ใน จ.เชียงใหม่ มีมานานกว่า 10 ปีแล้ว จนถึงปัจจุบันนี้ คาดว่าน่าจะมีชาวจีนเป็นเจ้าของบ้านจัดสรรมากกว่า 1,000 ยูนิต ราคาขั้นต่ำยูนิตละ 3 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าไม่น่าจะต่ำกว่า 3,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกับคอนโดมิเนียมอีกนับพันยูนิต ที่ถูกชาวจีนซื้อไปแล้วจำนวนมาก

 

แต่ที่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ เพราะการซื้อขายทั้งหมด ชาวจีนจะใช้วิธีการชำระเงินที่ต้นทาง ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่ได้นำเงินมาชำระในประเทศไทย โดยนิยมซื้อผ่านโบรกเกอร์ชาวจีนทางออนไลน์ ไม่ต้องเดินทางเข้ามาดูโครงการ ซึ่งที่ผ่านมา มักจะมีการซื้อขายผ่านรูปแบบต่างๆ ทั้งนอมินีที่เป็นคนไทยที่ไว้ใจได้, นายหน้าอสังหาริมทรัพย์, การทำธุรกิจลงทุนในประเทศไทยเกิน 40 ล้านบาท, การจัดตั้งบริษัท และผ่านการจดทะเบียนสมรสกับคนไทย

 

 

นับตั้งแต่นั้นมา ข่าวการจับ ทุนจีนสีเทา ผุดขึ้นรายวัน ไม่ว่าจะเป็น หยู ซินฉี ประธานสมาคมจีนจื้อกงแห่งอาเซียน, ประธานสมาคมมณฑลส่านซีแห่งประเทศไทย ที่ผ่านการเปิดโปงจากชูวิทย์เจ้าเดิม หยูซินยีอาศัยอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 30 ปี ผ่านแฟลตฟอร์มเดิม เมื่อเข้ามาไทย พยายามต่อสายสัมพันธ์ถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ ทหาร นักการเมือง ร่วมถ่ายรูปในเฟรมเดียวกัน สร้างบารมีให้กับตัวเอง แล้วนำไปแอบอ้างตั้งสมาคม มูลนิธิต่างๆ เพราะพื้นฐานคนจีนแล้ว เชื่อว่าใครที่สามารถตั้งสมาคมได้ คือคนที่น่ายอมรับ จึงอาศัยช่องทางนี้ชักชวนคนจีนเข้าร่วมลงทุน คนจีนที่จะเดินทางเข้าไทย หรือต้องการวีซ่าต้องผ่านสมาคม อาศัยแผ่นดินไทยก่ออาชญากรรมกันเป็นขบวนการ

 

 

ขบวนการอุ้มท้องซื้อสัญชาติ

 

การจับกุม นวพร ขบวนการอุ้มบุญรายใหญ่ เครือข่ายทุนจีนสีเทา ปลอมแปลงเอกสาร สวมบัตรประชาชนคนไทย ทำให้เกิดการตีแผ่ขบวนการ “อุ้มท้องซื้อสัญชาติ” หรือ อุ้มท้องซื้อพ่อ อีกครั้ง

 

 

"บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า การได้มาซึ่งสัญชาติไทยของ นวพร เป็นการวางแผนมายาวนาน เริ่มจากการแต่งงานกับชายชาวไทย ตั้งแต่ปี 2531-2532 เพื่อให้มีสิทธิยื่นขอสัญชาติไทย จนปี 2534 จึงจดทะเบียนหย่ากับสามีชาวไทย ก่อนมาได้สัญชาติไทยในปี 2535 จากนั้น จึงเริ่มมีลูกและต่อมาได้แต่งงานกับชายชาวจีน ทำให้ชัดเจนว่า ลูกทั้งหมดไม่ได้เกิดกับสามีคนไทย แต่กลับได้สัญชาติไทยทั้งหมด และถือครองทรัพย์สิน ที่ดิน รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท

 

        

 

สอดรับกับข้อมูลของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่แฉวิธีการของ นวพร ว่า นวพร แต่งงานกับชายไทยพอเป็นพิธี แล้วทำเป็นเลิกรา จนได้สัญชาติไทย เพราะจ้างสามีไทยแต่งงานด้วยเงินแค่หลักไม่กี่หมื่น แต่ความจริงสามีเป็นชาวจีน เมื่อท้อง ก็ไปฝากท้องกับโรงพยาบาลไทย เอาสามีไทยรับจ้างมายืนยัน ไปแจ้งเกิดที่อำเภอ ก็ได้ลูกสัญชาติไทย ตั้งตัวเป็น “เอเย่นต์” กว้านซื้อทรัพย์สิน ที่ดิน บ้านหลายหลังในย่านสีลม บางรัก มูลค่าหลายร้อยล้านบาท จากการฟอกเงินของ ทุนจีนสีเทา 

 

ส่วนพ่อชาวจีน ก็สามารถแจ้งขอต่อวีซ่าเพื่อเลี้ยงดูลูกได้ ยาวไปจนกว่าเด็กจะบรรลุนิติภาวะ พอพ่อจีนอายุเกิน 50 ปี ขอแปลงเป็น “วีซ่าเกษียณอายุ” ได้อีก คราวนี้อยู่ไทยได้ทั้งชีวิต มีทั้งหญิงไทยรับจ้างอุ้มท้องเป็นแม่ และชายไทยรับจ้างเป็นพ่อ นี่คือขบวนการ “อุ้มท้องซื้อสัญชาติ”

 

 

นิยาม ทุนจีนสีเทา

 

ทุนจีนสีเทา คือทุนของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ที่เกาะนโยบายแผ่ขยายอำนาจทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยมีรัฐบาลจีนซ่อนตัวอยู่ในนั้น

 

และการจะเข้าใจ “ทุนจีนสีเทา” ต้องเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ตั้งแต่ยาเสพติด ค้ามนุษย์ หรือค้าสัตว์ป่า ซึ่งมักจะใช้ธุรกิจประเภทอื่นบังหน้าและฟอกเงิน เช่น คาสิโน และธุรกิจท่องเที่ยว 

 

อย่างไรก็ตาม ขบวนการกลืนชาติไทย ด้วย ทุนจีนสีเทา ที่คืบคลานเข้ามาฝังรากลึก ซุกอยู่ใต้พรม มานานหลายปี สะท้อนอะไรของประเทศไทย?