ข่าว

'เศรษฐกิจ​ไทย'​ ครึ่งปีหลังชะลอตัว เงินเฟ้อ​ยังแก้ไม่ได้​ ลุ้นจีนเปิดตลาด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'อมรเทพ'  วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังยังชะลอตัว​ ภาพรวมกระจายตัวไม่ดี​ การท่องเที่ยวอุ้มฟื้นตัวเร็ว ลุ้นจีนเปิดตลาด​ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง

การล้มลงของธนาคารซิลิคอนแวลลีย์ หรือ SVB (Silicon Valley Bank) ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายในระบบตลาดการเงินโลก ส่งผลให้ธนาคารหลายแห่งล้มตามมา รวมถึง ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse) สถาบันการเงินรายใหญ่อันดับสองของสมาพันธรัฐสวิส (สวิตเซอร์แลนด์)​ แรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก​ รวมถึงประเทศไทย​ 

 

ดร.อมรเทพ จาวะลา นักเศรษฐศาสตร์​  สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์

 

ดร.อมรเทพ จาวะลา นักเศรษฐศาสตร์​  สมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์​ วิเคราะห์ทิศทาง​ "เศรษฐกิจ" ​ประเทศในงานสัมมนาเศรษฐกิจประจำปี​ 2566​ จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ หัวข้อ​ “ถึงเวลา! ก้าวสู่ทรงใหม่ไทยแลนด์ ”  ว่า​ วิกฤตธนาคารสหรัฐ​ และยุโรปล้ม​ ภาคอุตสาหกรรมตั้งคำถามแน่นอนว่า​ "ลามหรือไม่"  ตอบได้เลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาเฉพาะจุด​ เฉพาะอย่าง ไม่เหมือนปี 2008 ที่เลห์แมนล้ม ตอนนั้นคือปัญหาความเสี่ยงด้านเครดิตจากการลงทุนในอนุพันธ์ด้านอสังหาริมทรัพย์

​แต่ตอนนี้คือความเสี่ยงด้านตลาดหรือสภาพคล่อง จากดอกเบี้ยขาขึ้น  จึงไม่ลามกระทบเศรษฐกิจไทย​

 

การส่งออกทางน้ำ

 

ด้วยธนาคารพาณิชย์มีความเข้มแข็ง​ แต่ภาพรวมเศรษฐกิจยังชะลอตัวไปจนถึงปลายปี​ การกระจายตัวไม่ค่อยดี ประเทศจีนจึงเป็นความหวังของไทย เพราะถ้าจีนเปิดตลาด​ ไทยก็สามารถส่งออกสินค้าได้​

 

อย่างไรก็ตาม​ ยังมีภาคการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวได้ ซึ่งรายได้ตรงนี้จะอุ้ม​เศรษฐกิจ​ไทยฟื้นตัวเร็วขึ้น​ ขณะเดียวกันต้องแบ่งใช้หนี้ประเทศ​ด้วย ส่วนค่าเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว​ลงแล้ว​ ช่วงปลายปีค่าเงินบาทจะแข็งค่า​

 

สถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ​ ในประเทศไทย​

 

คำถาม​ต่อไปคือสามารถลงทุนได้เลยหรือไม่ ดร.อมรเทพ​ บอกว่า​ ถ้าหากฟังข่าวที่นักเศรษฐศาสตร์​วิเคราะห์ทุกวัน​ เชื่อว่าคงไม่มีใครกล้าลงทุน​ เพราะความไม่แน่นอนทาง​เศรษฐกิจ​ และความไม่แน่นอนในสถานการณ์การเงินโลก​ แต่กำลังการซื้อ  การใช้จ่ายภาคเอกชน​ กลุ่มระดับกลางในเขตเมืองยังมีกำลังซื้อปกติ​

 

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)  เสริมด้วยว่า​ เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังแม้ว่าจีนเปิดตลาด​ มีโอกาสเริ่มฟื้นตัว​ แต่ฟื้นแบบน่าเป็นห่วงสถานการณ์ยังต้องพยุง​ รัฐบาลต้องมีเครื่องมืออัดฉีดสภาพคล่อง​ ขยายการประกันเงินฝาก​ เพื่อสร้างความมั่นคง​

 

ส่วนเรื่องเงินเฟ้อยังไม่สามารถแก้ปัญหา​ได้​ ตอนนี้เราอยู่ในโลกความไม่แน่นอนมากขึ้น​  ฉะนั้นต้องเชื่อนักเศรฐศาสตร์​ ความเปลี่ยนแปลง​มีความเสี่ยง​ ต้องบริหารความเสี่ยงให้ดี

 

ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย​ ​น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์​ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ได้ออกยืนยันว่า​ การล้มของธนาคารสหรัฐและยุโรปมั่นใจไม่กระทบระบบการเงินไทย เพราะธนาคารและกองทุนมีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องค่อนข้างต่ำ

 

ข้อมูล ปี 2565 ระบบ ธพ.ไทย มีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) 19.4% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดที่ 8.5% โดยส่วนใหญ่เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Common Equity Tier 1: CET1)

 

นอกจากนี้ สินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต (Liquidity Coverage Ratio: LCR) ยังอยู่ในระดับสูงที่ 197.3% และมีหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL Ratio) ในระดับต่ำที่ 2.73%

 

ขณะที่เงินสำรองต่อหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL Coverage Ratio) สูงถึง 171.9% ซึ่งถือเป็นสถานะที่ดีกว่าช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2551 นอกจากนี้ ยังมีฐานลูกค้าทั้งในฝั่งสินเชื่อและเงินรับฝากที่กระจายตัวไปในกลุ่มรายย่อย ภาคธุรกิจ และ SMEs

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ