'อยู่เจริญเอสเตทส' มั่นใจ 'อสังหาฯ' กลับมาเติบโต ผุดโครงการพันล้าน สวนกระแสงานวิจัย 'หนี้ครัวเรือน' สูง กำลังซื้อทรงและหดตัว
สถานการณ์โควิด19 เริ่มคลี่คลาย ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มขยับตัว แม้ช่วงเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยชะลอซื้อ บวกกับงานวิจัยของกสิกรระบุว่า ทิศทางเศรษฐกิจไม่แน่นอน กำลังซื้อทรงและหดตัว หนี้ครัวเรือนก็สูงขึ้น ทว่า “อยู่เจริญเอสเตทส์” กลับมั่นใจว่า อสังหาริมทรัพย์กลับมาขยายตัวดีขึ้นแน่นอน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกมาเปิดเผยผลสำรวจกำลังการซื้อขายที่อยู่อาศัยปี 2566 โดยคาดว่า การซื้อขายที่อยู่อาศัยยังทรงถึงหดตัว จากความไม่แน่นอนทิศทางเศรษฐกิจ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกู้ยืม และหนี้ครัวเรือนสูง เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อแผนการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค จึงมองว่า ยอดจองซื้อที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลปี 2566 จะมีจำนวนราว 0.95 – 1.01 แสนหน่วย หรือหดตัวร้อยละ 2.8 ถึงขยายตัวร้อยละ 3.4
ส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.80 – 1.88 แสนหน่วย หดตัวร้อยละ 7.7 ถึงหดตัวร้อยละ 3.5 จากปี 2565
ด้านนายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย บอกว่า ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ทั้งประเทศยังชะลอตัว บ้างกลุ่มปรับตัวดีขึ้น จากกำลังซื้อดี ตลาดบางแห่งเติบโตดีมาก ซึ่งมองว่าปัจจัยที่จะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้น คืออำนาจการซื้อของผู้บริโภค ถ้ามองในอนาคต ต้องดูกำลังซื้อ การสนับสนุนจากภาครัฐในระยะสั้นๆ ที่จะช่วยให้ภาคประชาชนสามารถมีการจับจ่ายใช้สอยได้มากน้อยเพียงใด
สอดคล้องกับความเห็นของ ดร.ชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อยู่เจริญเอสเตทส จํากัด บอกว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสัญญาณเริ่มดีขึ้น มีประชาชนสนใจอสังหาริมทรัพย์จำนวนไม่น้อย เห็นชัดเจนจากโครงการ “บ้านอยู่เจริญ อีสต์วิลล์” (Baan U Charoen EastVille) มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 4 ไร่ ย่านลาดพร้าว มีบ้านแฝดกับพื้นที่ 431 ตร.ม และทาวน์โฮมบนพื้นที่ 437 ตร.ม จำนวนทั้งสิ้น 28 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท แต่กลับพบว่าประชาชนให้ความสนใจเข้ามาดูมาบ้านตัวอย่างและตัดสินใจซื้อ แต่เป็นที่น่าเสียใจเพราะยื่นกู้สินเชื่อไม่ผ่านถึงร้อยละ 50 จึงอยากให้รัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือผู้อยู่อาศัย เช่น แหล่งเงินทุนเพื่อกู้ซื้อที่อยู่อาศัย
ดร.ชนฐนพค์ บอกอีกว่า แม้ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ยังไม่ฟื้นตัว แต่มั่นใจว่าจะกลับมามีทิศทางการขยายตัวที่ดีขึ้น เพราะโครงการมีทั้งหมด 28 ยูนิต แต่มีผู้จองแล้ว 2 ยูนิตในระยะเริ่มโครงการ และคาดการณ์ว่ากลางปีหน้าจะสามารถปิดการขายได้ ด้วยจุดเด่นของโครงการคือ ออกแบบตอบโจทย์โลกอนาคต มีที่ชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การเปิด-ปิดไฟผ่านแอปพลิเคชั่นมือถือ ตั้งอยู่บนทำเลที่โดดเด่น ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ เพียง 300 เมตร การเดินทางคมนาคมมีความสะดวก สามารถเข้าสู่ถนนหลักและทางด่วนได้ง่าย พื้นที่ส่วนกลาง เช่น คลับเฮ้าส์ ห้องประชุม พื้นที่สำหรับสันทนาการและพักผ่อน สถานที่ออกกำลังกายในร่ม พื้นที่ออกกำลังกายภายนอก และสระว่ายน้ำระบบเกลือ เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมโครงการได้ที่ Sales Gallery โครงการ “บ้านอยู่เจริญ อีสต์วิลล์” ถนนนาคนิวาส ซอย 6 รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ucharoenestate.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง