ข่าว

อัดรัฐบาลดัน 'หวย' แบบใหม่ L6 และ N3 เข้า ครม. ชี้เป็นยุคที่เพิ่มสลากมากที่สุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ภาคประชาชนอัดรัฐลักไก่ ทิ้งทวนเตรียมดัน 'หวย' รูปแบบใหม่เข้า ครม.ไม่สนเสียงค้าน นักวิชาการชี้ไม่ควรออกสลากตัวใหม่ หวั่นซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจ ระบุรัฐบาลชุดนี้เพิ่มสูงมากกว่ายุคอื่นถึง 3 เท่า

ต่อกรณีข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเตรียมเสนอต่อที่ ประชุมครม.ในวันอังคารที่ 14 มี.ค. 66 เพื่อขอความเห็นชอบในการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือ หวย รูปแบบใหม่ L6 และ N3   รศ.ดร.นวลน้อย  ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน แสดงความเห็นว่า

 

 

ต้องถามก่อนว่ารัฐบาลต้องการอะไรจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ "หวย" ตัวใหม่ เพื่อหารายได้เพิ่มหรือเพื่อแก้ปัญหา สลากเกินราคา  หากเป็นประเด็นการหารายได้เพิ่ม ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีการเพิ่มสลากจาก 36 ล้านฉบับเป็น 100 ล้านฉบับ เพิ่มเป็น 3 เท่า  ทำให้รัฐบาลมีรายได้จากสลากเพิ่มขึ้นเยอะมากจากการซื้อสลากของประชาชน   ประเทศไทยไม่เคยมีสลากมากเท่านี้มาก่อน

สำหรับสลาก หรือ "หวย" ตัวใหม่ L6 และ N3 ไม่แน่ใจว่าโครงสร้างของราคาจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้าออกมาคล้าย ๆ เดิม  เท่ากับรัฐบาลจะมีส่วนแบ่งด้วย ซึ่งเป็นรายได้ที่รัฐบาลได้มาจากผู้มีรายได้น้อย  ถามต่อว่าในลักษณะแบบนี้มันไปกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ คำตอบคือไม่กระตุ้น เพราะกิจการจำหน่วย "หวย" ของรัฐบาล เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีห่วงโซ่การผลิตสั้นมาก จึงไม่ได้ก่อให้เกิดผลต่อวัฏจักรการผลิตสักเท่าไหร่   แต่จะมีผลต่อการบริโภคมากกว่า

 

รศ.ดร.นวลน้อย กล่าวต่อว่า  หากลองคิดง่าย ๆ สลาก 1 ชุด มี 1 ล้านใบ เป็นเงินรางวัล 60% มีผู้ถูกรางวัลเพียง 14,168 รางวัล และคนถูกรางวัลใหญ่จะนำเงินมาใช้ไม่มาก สลากจึงเป็นกิจกรรมที่แย่งชิงตลาดการบริโภคสินค้าอื่นๆ ดึงเงินออกจากระบบเศรษฐกิจจริง การที่ประชาชนซื้อสลากงวดละ 100 ล้านใบ ๆ ละ 80 บาท คิดเป็นเงิน 8,000 ล้านบาทต่องวด หรือปีละ 192,000 ล้านบาท แทนที่ประชาชนจะนำเงินจำนวนนี้ไปใช้เพื่อการบริโภคสินค้าและบริการอื่นๆ  การเพิ่มสลากทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริโภคในลักษณะที่ไม่เป็นผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม

 

รศ.ดร.นวลน้อย  ตรีรัตน์

 

“ส่วนการออกผลิตภัณท์ หวย ตัวใหม่เพื่อสู้กับ หวยใต้ดิน นั้นต้องถามว่าจะสู้อย่างไร เพราะถ้าไปดูบทเรียนสมัยที่ออกหวยเขียน 2 ตัว 3 ตัว ทำได้แค่ดึงส่วนแบ่งมาบางส่วน บางส่วนก็ดึงไม่ได้  ในขณะนี้เศรษฐกิจไทยก็ไม่ค่อยจะดี รัฐบาลก็ยังคิดจะหารายได้จากการออกผลิตภัณฑ์หวยเพิ่มขึ้น ก็รู้สึกเป็นกังวลว่า หวยใต้ดิน ก็ยังอยู่ และจะมี หวย อื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีก  ส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยเพราะไม่อยากให้เพิ่มการพนันในสังคม ” รศ.นวลน้อยกล่าว

 

 

​ด้านนายธนากร  คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า  การแก้ปัญหาสลากแพงด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ เป็นวิธีการที่ล้มเหลวซ้ำซาก ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 11 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธตั้งแต่สมัยคสช. มีการพิมพ์สลากเพิ่มทั้งหมด 11 ครั้ง ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นวิธีที่ไม่ได้ผล   

 

นายธนากร  คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน

 

ขณะที่การเปลี่ยนผ่านการจำหน่ายสลากใบมาสู่การจำหน่ายผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง แสดงให้เห็นผลว่าทำให้สามารถจำหน่าย สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ในราคา 80 บาทจริง เพียงแต่ว่ายังเป็นสลากส่วนน้อยเท่านั้น จึงยังดึงราคาสลากทั้งตลาดลงมาไม่ได้  สิ่งที่ควรทำต่อคือ การเพิ่มจำนวนสลากเข้าสู่ระบบดิจิทัลให้มากพอ  อย่างน้อย 50% ของสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งหมด หรือ 50 ล้านใบ  ก็น่าจะมีผลทำให้ราคา สลากกินแบ่งรัฐบาล ลงมาที่ 80 บาทได้  

 

เรื่องนี้สำนักงานสลากฯ ควรทำโดยเร็ว แต่ก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไรถึงเพิ่มจำนวนสลากฯเข้าระบบได้ช้ามาก  ทั้งที่เดินมาถูกทางแล้ว และก็ยังไม่เห็นความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องออกสลาก L6 มาซ้ำซ้อนกับสลากใบที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน และดูมีแนวโน้มจะเกิดการตีกินเติมจำนวนสลากเพิ่มเข้ามาอีก นอกเหนือจาก สลากกินแบ่งรัฐบาล 100 ล้านใบเดิม

 

อย่างไรก็ตามในช่วงปลายรัฐบาลอย่างนี้ หากครม.มีมติที่ดูเป็นการทิ้งทวนเพื่อหวังผลประโยชน์บางอย่าง จะทำให้รัฐบาลถูกครหาได้ กลายเป็นการจบที่ไม่สวยของรัฐบาลนี้  อีกทั้งเป็นการตอกย้ำว่าที่เคยสัญญาว่าจะแก้ปัญหาสลากแพง 8 ปีผ่านไปยังทำไม่สำเร็จ และกลายเป็นยุคที่ทำให้หวยเฟื่องฟูมากที่สุด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ