ข่าว

'ลงทะเบียนรับสิทธิ ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ' ผู้ผ่านเกณฑ์ บัตรคนจน คลิกที่นี่ 15 มี.ค.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ลงทะเบียนรับสิทธิ ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ' ผู้ผ่านเกณฑ์ 'บัตรคนจน' 15 มี.ค.2566 เช็กวิธี-ขั้นตอน คลิกลงทะเบียน ได้ที่นี่ ย้ำ ต้องลงใหม่ทุกคน

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ และ ยืนยันตัวตน สำเร็จ เตรียมตัว “ลงทะเบียนรับสิทธิ ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ” ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการ การจัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่ ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.พ.2566 

 

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการบรรเทาภาระ “ค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำประปา” (มาตรการบรรเทาฯ) เป็นหนึ่งในมาตรการการจัดสรรประชารัฐสวัสดิการใหม่ สำหรับผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (ผู้มีบัตรฯ) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาภาระ “ค่าน้ำ-ค่าไฟ” ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. สวัสดิการค่าไฟฟ้าและค่าประปา

 

  • สวัสดิการค่าไฟฟ้า ปัจจุบันประชาชนทั่วไปจะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าจากมาตรการของรัฐบาล โดยการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีเงื่อนไขว่า หากประชาชนใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี ดังนั้น ภายใต้มาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จะเป็นกรณีที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน โดยจะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน แต่หากมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าด้วยตนเองทั้งหมด
  • สวัสดิการค่าน้ำประปา สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยในกรณีที่ผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือนด้วยตนเอง แต่หากผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ ต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาด้วยตนเองทั้งหมด

 

2. ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าประปา

 

โครงการฯ ปี 2565 ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้า และ/หรือค่าน้ำประปา สำหรับผู้มีบัตรฯ จากเดิมที่ผู้มี “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 ต้องสำรองเงินจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าประปา ให้แก่ผู้ให้บริการล่วงหน้าก่อน โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะได้รับเงินสนับสนุนคืนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายหลัง

 

สำหรับมาตรการบรรเทาฯ ในครั้งนี้ จะมีการเปลี่ยนเป็นภาครัฐ โดยกระทรวงการคลังจะสนับสนุนค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าประปา ให้แก่ผู้ให้บริการโดยตรงตามมูลค่าที่ผู้มีบัตรฯ ใช้สิทธิตามเงื่อนไขมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนด โดยวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายนี้ จะทำให้ผู้มีบัตรฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าบริการไปก่อน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้มีบัตรฯ 

 

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงการคลัง ย้ำว่า ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติตามโครงการ “ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565” ที่ประสงค์รับสิทธิมาตรการบรรเทาฯ จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน

 

ช่องทาง ลงทะเบียนรับสิทธิ ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ

 

สิทธิค่าไฟฟ้า

 

  1. สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) คลิกลงทะเบียนที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1130
  2. สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) คลิกลงทะเบียนที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1129 
  3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) คลิกลงทะเบียนที่นี่ เบอร์ติดต่อ 086-8481284

 

สิทธิค่าน้ำประปา 

 

1. สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) คลิกลงทะเบียนที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1125

2. สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) คลิกลงทะเบียนที่นี่ เบอร์ติดต่อ 1662

 

โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ และได้ยืนยันตัวตนสำเร็จ เพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว สามารถ "ลงทะเบียนรับสิทธิ ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ" ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้มีบัตรฯ รับบริการอยู่

 

เงื่อนไขรับสิทธิลดค่าน้ำ-ค่าไฟ

 

  1. หากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ “ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566”
  2. สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนภายหลังวันและเวลาดังกล่าว เมื่อลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จ ภายในวันที่ 20 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน จะสามารถได้รับสิทธิสำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการในเดือนถัดไป (ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)

 

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนมีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้าย โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566

 

โฆษกกระทรวงการคลังย้ำว่า ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 สามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าน้ำประปา ที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน

 

ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่เว็บไซต์ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ