ข่าว

'วิธีคำนวณภาษี 2566' สรุปขั้นตอนง่ายๆ ก่อน ยื่นภาษี ไม่อยากพลาด ต้องอ่าน

09 มี.ค. 2566

ใกล้สิ้นสุด ยื่นภาษี แล้ว เช็ก 'วิธีคำนวณภาษี 2566' สรุปขั้นตอนง่ายๆ พร้อม โปรแกรมคำนวณภาษี ก่อนยื่น ไม่อยากพลาด ต้องอ่าน

ใกล้หมดเขต “ยื่นภาษี 2566” (รายได้ปี 2565) ที่ทางกรมสรรพากร เปิดให้มีการยื่นภาษี สำหรับผู้มีรายได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ มีหน้าที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ 1 ม.ค.- 31 มี.ค. 2566 ซึ่งเมื่อถึงเวลาต้องยื่นภาษีแล้ว การวางแผน ลดหย่อนภาษี การคำนวณภาษี เพื่อรักษาสิทธิ เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด

 

คมชัดลึก รวบรวม “วิธีคำนวณภาษี 2566” ก่อนยื่นภาษีอย่างเป็นทางการ เพราะถ้าหากยื่นไปแล้ว เกิดมีการคำนวณผิดพลาด สิทธิลดหย่อนภาษี ก็ไม่สามารถเอาคืนได้ มีวิธีอย่างไรไปอ่านรายละเอียดกันได้เลย

ใครบ้างที่ต้องยื่นภาษี

 

  • คนโสด มีรายได้จากเงินเดือนปีละ 120,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่นๆ ปีละ 60,000 บาทขึ้นไป
  • คนมีคู่ มีรายได้จากเงินเดือนปีละ 220,000 บาทขึ้นไป หรือรายได้อื่นๆ ปีละ 120,000 บาทขึ้นไป

 

วิธีคำนวณภาษี 2566 

 

  • เงินได้สุทธิ 0 – 150,000 บาท (อัตราภาษี 0% หรือได้รับการยกเว้นภาษี) ...
  • เงินได้สุทธิ 150,000 – 300,000 บาท (อัตราภาษี 5%) ...
  • เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 บาท (อัตราภาษี 10%) ...
  • เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท (อัตราภาษี 15%) ...
  • เงินได้สุทธิ 750,001 – 1 ล้านบาท (อัตราภาษี 20%)

วิธีคำนวณภาษี

วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

  • ขั้นตอนที่ 1 คำนวณเงินได้สุทธิ

 

คำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีก่อน โดยสามารถหาได้จากการนำรายได้ทั้งปีมารวมกัน แล้วหักด้วยค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน ตามสูตร

 

รายได้ทั้งปี - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ

 

ซึ่งเราสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนค่าลดหย่อน จะมีอยู่หลายอย่างที่สามารถนำมาลดหย่อนได้ แต่ที่เราสามารถนำมาลดหย่อนได้ทันทีเลย คือ ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าประกันสังคมสูงสุด 9,000 บาท แต่ในปีภาษี 2565 รัฐบาลมีการลดอัตราเงินสมทบประกันสังคม มาตรา 33 ลง 2 ครั้ง ในรอบเดือน พ.ค. - ก.ค. และ ต.ค. - ธ.ค. เหลือเพียง 6,300 บาท

 

  • ขั้นตอนที่ 2 เทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

ต่อมาให้นำเงินได้สุทธิมาเทียบกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบขั้นบันได โดยนำเงินได้สุทธิคูณกับอัตราภาษีแต่ละขั้น เพื่อหาว่าเราต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ ตามสูตร

 

ภาษีที่ต้องจ่าย = (เงินได้สุทธิ - เงินได้สุทธิสูงสุดของขั้นก่อนหน้า) x อัตราภาษี + ภาษีขั้นบันไดก่อนหน้าสูงสุด

 

ตัวอย่าง วิธีคำนวณภาษี 2566

 

มีรายได้จากเงินเดือน 50,000 บาท รวมทั้งปี 600,000 บาท จะสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 100,000 บาท ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าลดหย่อนจากประกันสังคม 6,300 บาท

 

จะได้เงินได้สุทธิ 600,000 - 100,000 - 60,000 - 6,300 = 433,700 บาท จากนั้นให้นำเงินได้สุทธิ 433,700 บาท ไปเทียบอัตราภาษีแบบขั้นบันได ซึ่งจะอยู่ระหว่างฐาน 300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%

 

ดังนั้น จากตัวอย่าง จะต้องเสียภาษี (433,700 - 300,000) 10% + 7,500 = 20,870 บาท

 

คลิกอ่าน วิธีลดหย่อนภาษี

คลิก โปรแกรมคำนวณภาษี 2566

 

หากคำนวณภาษี และยื่นภาษีเสร็จสิ้นแล้ว มีเงินภาษีคืน หลังจากลดหย่อนภาษีแล้ว อยากตรวจสอบการขอคืนภาษีมีขั้นตอนอย่างไร ทำตามนี้

 

ตรวจสอบ ขอคืนภาษี 2566

 

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร คลิกที่นี่
  2. คลิกที่สอบถามการคืนภาษี (E-Refund)
  3. กรอกข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี, ชื่อผู้เสียภาษี (แบบไม่ต้องระบุคำนำหน้า), ชื่อสกุล (นามสกุล) และคลิกสอบถาม
  4. เช็คสถานะการสอบถามข้อมูลของเงินคืนภาษี
  5. ช่องทางการรับคืนเงินภาษี

 

ช่องทางรับเงินคืนภาษี

 

  • พร้อมเพย์ที่ผูกกับบัญชีธนาคารออนไลน์, 
  • รับเงินคืนภาษีเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย หรือ ธ.ก.ส.,
  • รับเงินคืนภาษีเข้าบัตร e-Money หรือ e-Wallet (แอปฯ เป๋าตัง) เฉพาะธนาคารกรุงไทย 

 

สำหรับ การยื่นภาษีออนไลน์ 2566 กรมสรรพากร กำหนดไว้ยื่นภาษี ภายในวันที่ 10 เม.ย. 2566