ย้อนปม ซุกหุ้น 'ศักดิ์สยาม' ทำหลุดเก้าอี้ รัฐมนตรี
ย้อนปม ซุกหุ้น บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น 'ศักดิ์สยาม ชิดชอบ' ทำหลุดเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี
ปมซุกหุ้น บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น จนทำศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" ยุติบทบาท การทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566 จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย และ 17 ม.ค. 2567 จึงเป็นวันชี้ชะตา คมชัดลึก ไล่เรียงเส้นทางของผู้ชายที่ชื่อ ศักดิ์สยาม กับปมซุกหุ้น
ย้อนเส้นทาง
ศักดิ์สยาม ชิดชอบ มีชื่อเล่นว่า โอ๋ เกิดเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2505 ที่ จ.สุรินทร์ ปัจจุบันอายุ 60 ปี เป็นลูกชายคนเล็กของนายชัย ชิดชอบ หรือ ปู่ชัยนักการเมืองอาวุโสในตำนาน กับนางละออง ชิดชอบ และที่สำคัญ เขาเป็นน้องชายของนายเนวิน ชิดชอบ และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรียกได้ว่าเติบโตมาบนเส้นทางการเมือง ตั้งแต่พ่อและพี่ชาย
เส้นทางการศึกษา
ระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย , สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (พ.ศ. 2531), รัฐศาสตรบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (พ.ศ. 2527)
เส้นทางการเมือง
ก่อนที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ จะเข้ามาสู่เส้นทางการเมือง เคยรับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอ สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย คนส่วนใหญ่จึงคุ้นเคยกันในชื่อ "ปลัดโอ๋" ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้าย ก่อนที่จะลาออกมาลงสนามการเลือกตั้ง ในปี 2544 และได้เป็น สส.สมัยแรกในปี 2548 เข้าสู่การดำรงตำแหน่งทางการเมือง ด้วยการเข้ามาเป็นประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (สมัย พล.ต.อ.เอกโกวิท วัฒนะ) จึงรู้งาน รู้คน ในสายงานปกครองเป็นอย่างดี ต่อมาในปี 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมืองปี 2549
เส้นทางบริหารพรรคภูมิใจไทย
แต่ถึงแม้ว่าจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง จากการที่เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายศักดิ์สยาม เข้ามามีทบาทสำคัญในตำแหน่งเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นแม่บ้านพรรคในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค ครั้งนั้นพรรคตัดสินใจส่งผู้สมัครครบทุกเขตเลือกตั้ง (350 เขต) และแบบบัญชีรายชื่อ (150 คน) รวมส่งผู้สมัครทั้งสิ้น 500 คน ผลการเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทย ได้ สส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 39 คน และ สส. แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 12 คน รวมทั้งสิ้น 51 คน ซึ่งก่อนหน้านั้น เนวิน ชิดชอบ พี่ชาย ได้ประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว
จากนั้น ได้เข้าร่วมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยได้รับตำแหน่งสำคัญ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
บัญชีทรัพย์สินของ"ศักดิ์สยาม ชิดชอบ"
จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข้อมูลบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน สส. ในปี 2564 พบว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งทรัพย์สินรวมคู่สมรส 115,760,030 บาท ไม่มีหนี้สิน
ย้อนปมซุกหุ้น
ทั้งนี้หากย้อนไทม์ไลน์คดีดังกล่าว จะพบว่า เรื่องนี้ถูกตรวจสอบพบในปี 2564 ซึ่ง “สำนักข่าวอิศรา” ได้เปิดเผยข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กับ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยพบว่า บริษัทดังกล่าว ใช้ที่อยู่ของนายศักดิ์สยาม เป็นที่ตั้งบริษัท ก่อนที่จะมีการแจ้งย้ายที่ตั้งก่อนนายศักดิ์สยาม รับตำแหน่ง รมว.คมนาคม
วันที่ 19 ก.ค. 2565 นายศักดิ์สยาม ถูก นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายกล่าวหาว่า นายศักดิ์สยาม ปกปิดทรัพย์สินในส่วนที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น โดยใช้ลูกจ้างเป็นนอมินี และว่าในปี 2561 มีการโอนหุ้นให้นอมินี ก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี เพียง 23 วัน อีกทั้ง มีการ นำ หจก.บุรีเจริญฯ เป็นคู่สัญญากับรัฐ รับงานในกระทรวงคมนาคมที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรี เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
จากนั้นวันที่ 20 ก.ค. 2565 นายศักดิ์สยาม ชี้แจงในสภาฯว่า มีการซื้อขายหุ้นจริง ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2561 มีการโอนเงินและมีหลักฐานการโอนเงิน 3 ครั้ง รวม 119,500,000 บาท และจดเปลี่ยนหนังสือรับรอง เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2561 และยังยืนยันว่า หลังจากนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญฯ อีก ส่วนข้อสงสัยที่ว่าการซื้อขายหุ้นดังกล่าวไม่แจ้งไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายศักดิ์สยามแจ้งว่า เพราะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือกรณีที่ต้องยื่น มีเรื่องเดียวคือมีการเพิ่มเงินลงทุนหรือจดใหม่ กรณีโอนหุ้นไม่ต้องยื่น
จนวันที่ 3 มี.ค. 2566 ศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั่งรับคําร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และสั่งให้นายศักดิ์สยาม หยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย กรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่
งานรับเหมาที่ "บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น" ถืออยู่ในมือตั้งแต่ปี 2558 -2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ ศักดิ์สยาม กลับมาถือหุ้นใหญ่ และเปลี่ยนไปใช้ที่อยู่ตัวเองเป็นที่ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด และช่วงที่ ออกจากหุ้นส่วน แต่ยังใช้ที่อยู่ตัวเองเป็นที่ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด มีดังนี้
- ปี 2558 บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ อย่างน้อย 13 แห่ง รวมวงเงินอย่างน้อย 94.84 ล้านบาท
- ปี 2559 บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ อย่างน้อย 43 แห่ง รวมวงเงินอย่างน้อย 164.81 ล้านบาท
- ปี 2560 บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ อย่างน้อย 36 แห่ง รวมวงเงินอย่างน้อย 319.99 ล้านบาท
- ปี 2561 บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ อย่างน้อย 26 แห่ง รวมวงเงินอย่างน้อย 678.87 ล้านบาท
- ปี 2562 บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐ อย่างน้อย 34 แห่ง รวมวงเงินอย่างน้อย 582.85 ล้านบาท
สำหรับห้างหุ้นส่วนจำกัด "บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น" ขณะนี้มี นายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ เป็นผู้ถือหุ้นหลัก โดยได้รับการโอนหุ้นทั้งหมด จาก นายศักดิ์สยาม เมื่อปี 2561 พร้อมกับแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ห้างหุ้นส่วนจำกัด "บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น" ก่อนที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม