"ทรู-ดีแทค" ควบเต็มตัว​มุ่งฝ่าฟันกฎกสทช.

การควบรวมกิจการระหว่างบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือทรู​ มีข่าวเนื่องๆ​ มาตั้งแต่ปี​ 2564 จนกระทั่งปี​ 2565 ดีแทค ตกลงควบกิจการกับทรู​ ดำเนินการตามขั้นตอนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ​ (กสทช.)​

แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่ง่าย​ เพราะระหว่างทางมีสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการ​ กสทช.​ และสำนักงาน กสทช. ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนมติ กสทช. หลังจากรับทราบการควบรวม​ แต่เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง​ พิพากษายกฟ้อง​

วันนี้​  (2มีนาคม2566)  ทั้ง 2 บริษัทได้ประกาศความยิ่งใหญ่บนเวทีใจกลางเมืองหลวง​ ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์​ ในนามชื่อเป็นทางการ “บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)”

นายมนัส​ส์ มานะวุฒิเวช​ ประธานคณะบริหารบริษัททรูคอร์ปอเรชั่น​ จำกัดมหาชน​ บอกว่า​ ได้ดำเนินการควบรวมเป็นบริษัทใหม่ร่วมกันเสร็จสมบูรณ์ โดยได้หนังสือรับรองบริษัทใหม่ตามที่ยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้ว​ 

โดยชูแนวคิดชีวิตดีกว่า​ เมื่อมีกันและกัน(Better  Together)​ ประสานพลังร่วมกัน 1 + 1 = อินฟินิตี้​ สร้างศักยภาพความเป็นไปได้ใหม่ที่ไม่รู้จบ​ พร้อมนำ 7 กลยุทธ์หลักการเปลี่ยนผ่านวิถีชีวิตคนไทยลดความเหลื่อมล้ำ​ และขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวสู่ผู้นำเศรษฐกิจดิจิตอล พร้อมกับภารกิจดูแลผู้ใช้งานมือถือทั้ง 2 แบรนด์ ทรูมูฟ​ เอช  จำนวน​ 33.8 ล้าน​ และดีแทค 21.2 ล้านหมายเลข​ พร้อมผู้ใช้งานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตออนไลน์​ 5 ล้านราย​ ผู้ใช้งานโทรทัศน์ทรูวิชั่น 3.2 ล้านราย​ ให้ประเทศไทยเป็นพลเมืองแห่งดิจิตอล

"การควบรวมอาจยังไม่สมบูรณ์​ เพราะเราเพิ่งเป็นบริษัทใหม่ได้ 2 วัน​  แต่สิ่งที่เราจะดำเนินการคือ​ ลูกค้าทรูและดีแทคจะต้องไม่เสียประโยชน์​ เช่น​ ลูกค้าดีแทค สามารถใช้แพ็คเกจที่หลากหลายของทรูมากกว่าการแข่งขัน​ เปิดให้บริการโรมมิ่งข้ามเครือข่ายระหว่างลูกค้าดีแทคและทรูมูฟ เอช ทำให้ลูกค้าทั้ง 2 ค่ายได้ประโยชน์หลังการควบรวม และเมื่อจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จ ใช้ในชื่อสัญญาณ ‘dtac-true’ และ ‘true-dtac’  และยืนยันว่าหลังจากนี้ทั้ง 2 แบรนด์จะไม่มีการปรับขึ้นราคา"นายมนัส​ส์ มานะวุฒิเวช​  กล่าว

นายชารัด​ เมห์โรทรา รองประธานคณะบริหาร​ บริษัททรู​ คอร์ปอเรชั่น​ จำกัด(มหาชน)​  กล่าวว่า​ ลักษณะการทำงานในช่วงแรกยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดของกสทช.คือแยกทำงาน​ ซึ่งกฎระเบียบของกสทช.​ มีความท้าทายเป็นอย่างมาก​ แต่เราจะฝ่าฟันไปได้​ เรามีเป้าหมายสูงสุดในการส่งมอบสินค้าและบริการที่ดียิ่งกว่าเดิมสำหรับผู้บริโภคและจะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดและการแข่งขันที่สูงเพื่อลูกค้าเราจะได้รับประโยชน์สูงสุด​ ส่วนข้อกังวลที่ว่าถ้าหากลูกค้าเดินเข้ามาในร้านดีแทค​ พนักงานจะขายสินค้าที่เป็นทรูให้หรือไม่​ จะเกิดการแย่งลูกค้าหรือไม่​นั้น คำตอบเหล่านี้อยู่กับลูกค้า​ เพราะลูกค้ามาหาเรา​ เราต้องทำตามที่ลูกค้าต้องการ​ ซึ่งความต้องการเป็นคำตอบอยู่แล้ว

ทั้งนี้​ การจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ส่งผลให้ดีแทคสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลพร้อมกับทรู ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงเพิกถอนหลักทรัพย์ดีแทค​ และทรู ออก และนำหุ้น ทรูใหม่เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแทนในวันเดียวกัน มีกำหนดให้เริ่มการซื้อขายในวันที่ 3 มีนาคม​นี้