เปิดรายได้ 'สาวยาคูลท์' อยากเป็น ต้องทำอย่างไร ทำไมมีแต่ผู้หญิง?

เหล่าสาวก "ยาคูลท์" น่าจะตกใจอยู่ไม่น้อย กับการประกาศปรับขึ้นราคาขาย 1 บาท ดีเดย์ 1 มี.ค.2566 เพราะตลอดระยะเวลา 11 ปี นับเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งแรก และนับเป็นแบรนด์สุดท้ายในกลุ่มนม และนมเปรี้ยว ที่มีการปรับราคา ถึงแม้จะมีความพยายามตรึงราคา เพราะไม่อยากให้ลูกค้าประจำได้รับผลกระทบ แต่ก็ต้านทานต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นไม่ไหว

 

ต้นกำเนิด"ยาคูลท์"

ยาคูลท์ ไม่ใช่แบรนด์ไทย แต่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยศาสตราจารย์มิโนรุ ชิโรตะ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกียวโต คิดค้นขึ้นใน พ.ศ. 2473 และต่อมาในปีพ.ศ. 2478 เขาได้ก่อตั้งบริษัทยาคูลท์ (Yakult Honsha Co., Ltd.) ที่แขวงมินาโตะ จังหวัดโตเกียว ก่อนที่ประพันธ์ เหตระกูล จะนำยาคูลท์เข้ามาจำหน่าย และก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้น ในปี พ.ศ. 2513 และเริ่มจำหน่ายในปี 2514 นับเป็นจุดเริ่มต้นตำนาน "สาวยาคูลท์" มาจนถึงปัจจุบัน

หัวใจหลักของแบรนด์คือ "สาวยาคูลท์" 

 

"อยากรู้เรื่องยาคูลท์ ถามสาวยาคูลท์ดูสิคะ" เป็นสโลแกนประจำตัวของสาวยาคูลท์ ในประเทศไทย ถือเป็นคุณสมบัติที่ต้องมี จากการถ่ายทอดองค์ความรู้แก่สาวยาคูลท์ เพื่อใช้พูดคุยกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น เรื่องชนิดจุลินทรีย์ วิธีการดื่ม คุณสมบัติและคุณประโยชน์ต่อลำไส้ และอีกหลาย ๆ เรื่อง ที่ต้องฝ่าด่าน จนมาเป็นสาวยาคูลท์ จำนวนกว่า 4,000 คนทั่วประเทศ 

 

เงื่อนไขการสมัครเป็นสาวยาคูลท์

 

• อายุ 19-35 ปี
• วุฒิการศึกษา มัธยมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป
• มีมอเตอร์ไซค์ (หากว่าอยู่ในเขตที่ต้องใช้มอเตอร์ไซค์)
• ต้องผ่านการอบรมเป็นสาวยาคูลท์
• มีรายได้ระหว่างการอบรมและฝึกงานเป็นสาวยาคูลท์
• ช่องทางสมัครเป็นสาวยาคูลท์ คลิกที่นี่

 

ส่วนรายได้ที่สาวยาคูลท์ได้รับ ไม่ใช่เงินเดือน ด้วยสาวยาคูลท์เป็นตัวแทนขาย รายได้จึงมาจากค่าคอมมิชชันต่อขวด จึงกล่าวได้ว่า สาวยาคูลท์ จะมีรายได้ขั้นต่ำต่อเดือน ราว ๆ 15,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับยอดขายต่อจำนวนลูกค้าต่อพื้นที่ รวมทั้งขึ้นอยู่กับอัธยาศัย และการจัดการของแต่ละคนด้วย ส่วนโบนัสที่มีทุก 6 เดือน เป็นการคำนวณจากส่วนลด จากเปอร์เซ็นต์ยอดขายที่ทบกันมา แล้วจ่ายทุก 6 เดือน

 

เหตุผล "ทำไมสาวยาคูลท์มีแต่ผู้หญิง" ข้อมูลระบุว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้จำกัดเพศ ผู้ชายที่สมัครเข้ามา ก็มักทำงานส่วนการจัดการในศูนย์จังหวัดต่าง ๆ แต่อาจไม่ได้พบในภาพสาวยาคูลท์เท่านั้น

 

สวัสดิการหลักของสาวยาคูลท์ที่มีมากกว่า 50 ปี

 

1. ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ทั้งของตัวเองและบุตร
2. ทุนการศึกษาบุตรระดับอุดมศึกษา

 

แม้ว่า "สาวยาคูลท์" จะไม่ได้รับสวัสดิการประกันสังคม แต่สวัสดิการที่ได้คือ ค่ารักษาพยาบาล ของตนเอง และบุตร รวมถึง ทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่บุตร แต่เงื่อนไขก็คือ ต้องเป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยรัฐ ได้รับเป็นค่าหน่วยกิต และค่าช่วยเหลือต่อเดือนอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ซึ่งถือเป็นสวัสดิการที่สร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวสาวยาคูลท์อย่างประเมินค่าไม่ได้

เจ้าหน้าที่ยาคูลท์ บอกว่า การสมัครเป็นสาวยาคูลท์นั้น แทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว แม้ว่าค่ารถที่เดินทางมาอบรมสำนักงานใหญ่ ทางบริษัทก็ออกให้ รวมถึงเบี้ยเลี้ยงระหว่างอบรมก็มีให้ เมื่ออบรมผ่าน บริษัทก็มอบชุดเครื่องแบบให้ มีเพียงอย่างเดียวที่ต้องซื้อคือรองเท้า และ ยานพาหนะเท่านั้น

 

ผลประกอบการ "ยาคูลท์" ในประเทศไทย

 

• วันที่จดทะเบียน    16 ตุลาคม 2513
• ทุนจดทะเบียน    35,000,000 บาท

บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด 

• ปี 2565 รายได้ 2,285 ล้านบาท กำไร 232 ล้านบาท 

บริษัท ยาคูลท์ เซลส์ (กรุงเทพฯ) จำกัด 

• ปี 2565 รายได้ 4,313 ล้านบาท กำไร 607 ล้านบาท

กลยุทธ์การแข่งขันทางตลาด

 

เจ้าหน้าที่ยาคูลท์ให้ข้อมูลว่า แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ความพิเศษของยาคูลท์ที่ไม่เหมือนใคร คือจุลินทรีย์ เพราะไม่มีในนมเปรี้ยวอื่น โดยใช้จุลินทรีย์ แลคโตบาซิลัส คาเซอิ สายพันธุ์โรชิต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์เฉพาะของยาคูลท์เท่านั้น มีคุณสมบัติในการช่วยให้ประโยชน์ร่างกาย ช่วยสร้างสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ภูมิคุ้มกัน ส่วนเหตุผลที่ยาคูลท์ ไม่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ หรือห้างสรรพสินค้า เจ้าหน้าที่ บอกว่า ก็เพราะไม่อยากให้สาวยาคูลท์ ตกงาน

 

ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ยาคูลท์ จะเพิ่มช่องทางการขาย ด้วยการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ แต่ขั้นตอนการเตรียมสินค้า และจัดส่งก็ยังคงผ่าน "สาวยาคูลท์" อยู่ดี จึงเป็นอาชีพที่มั่นคง อยู่คู่คน (สาว)ไทย มากว่า 53 ปี เราจึงเห็นว่า คนส่งยาคูลท์ เปลี่ยนจาก สาวยาคูลท์ เป็น ป้ายาคูลท์ หลายต่อหลายคน