ข่าว

เปิดเบื้องหลังความสำเร็จแก้วิกฤติ”ปาล์มน้ำมัน”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดเบื้องหลังความสำเร็จแก้วิกฤติ”ปาล์มน้ำมัน” ผ่านรองอธิบดีกรมการค้าภายใน”นายอุดม ศรีสมทรง”เจอสารพัดปัญหาหลังช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ทั้งโรงงานสกัดฯและลานเทต่างหยุดรับซื้อ

ในที่สุดเข้าสู่ภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยสำหรับพืชเศรษฐกิจอย่าง”ปาล์มน้ำมัน”ที่เจอสารพัดปัญหาหลังช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ทั้งโรงงานสกัดฯและลานเทต่างหยุดรับซื้อ จนผลผลิตล้นทะลักหน้าโรงงานในหลายจังหวัดส่งผลให้ราคาร่วงทะลูดจากผลผลิตไม่ได้คุณภาพ 

เปิดเบื้องหลังความสำเร็จแก้วิกฤติ”ปาล์มน้ำมัน”

ร้อนถึงเจ้ากระทรวง”จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” รองนายกรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์ม

ปฎิเสธไม่ได้ว่าคนสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จงานนี้คือรองอธิบดีกรมการค้าภายในหรือคน.”อุดม ศรีสมทรง” ผู้ปิดทองหลังพระ ซึ่งได้รับมอบหมายจากประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ”วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม” อธิบดีกรมการค้าภายในหรือคน.ให้เข้ามาดูแลปัญหาเดินหน้าอย่างเต็มสูบ

เปิดเบื้องหลังความสำเร็จแก้วิกฤติ”ปาล์มน้ำมัน”

ใช้คนถูกกับงานโบราณว่า การมอบหมายให้เขาแก้ปัญหาถือว่าเป็นการใช้คนไม่ผิดฝา ผิดตัว เพราะหากย้อนเส้นทางชีวิตราชการของรองอุดม ศรีสมทรงแล้ว ส่วนใหญ่วนเวียนอยู่ในจังหวัดทางภาคใต้ ตั้งแต่เริ่มราชการจนก้าวขึ้นมารับตำแหน่งพาณิชย์จังหวัดหลายจังหวัด ก่อนก้าวสู่รองอธิบดีในที่สุด 

ฉะนั้นปาล์มน้ำมัน จึงเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่เขารู้จักดีและยังรู้จักมักคุ้นกับผู้ประกอบการเจ้าของโรงงานสกัดฯ เจ้าของลานเล ตลอดจนแกนนำเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่เป็นอย่างดีและได้ร่วมมือกันแก้ปัญหาพืชน้ำมันชนิดนี้จนสำเร็จมานับไม่ถ้วน ทำให้เขาได้รู้ลึกถึงปัญหาในทุกห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ในฐานะกูรูปาล์มน้ำมันที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง

เปิดเบื้องหลังความสำเร็จแก้วิกฤติ”ปาล์มน้ำมัน”

จึงไม่แปลกใจว่าทำไมหลังมีข่าวเกิดวิกฤติปาล์มน้ำมันล้นทะลักหน้าโรงงานสกัดเพียงวันเดียว รองอธิบดีอุดม(ศรีสมทรง)รีบบึ่งลงพื้นที่ในจังหวัดที่เกิดเหตุการณ์ในทันทีทั้ง กระบี่ ตรังและสุราษฎร์ธานีเพื่อรับฟังข้อมูลปัญหาที่เกิดขึ้นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและรายงานตรงต่ออธิบดีกรมการค้าภายในทันที

 

จะเห็นว่าช่วงนั้นรองอธิบดีอุดม(ศรีสมทรง)ขึ้นลงกรุงเทพฯ-ภาคใต้บ่อยครั้งและยังการใช้พื้นที่สวนปาล์มน้ำมันเป็นห้องทำงานสัญจรแทนห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงทำให้เขาได้รับรู้ข้อมูลเชิงลึกในทุกกระบวนการผลิต ส่งผลทำให้มีการใช้มาตรการต่าง ๆ เข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด

 

แม้วันนี้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มจำนวน 131 โรงและลานเทจำนวน 3,117 แห่งเปิดรับซื้อ-ขายผลผลิตปาล์มตามปกติแล้ว และราคาปาล์มน้ำมันคุณภาพก็ขยับขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ยังไม่มีใครสามารถการันตีได้ว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต ตราบใดที่ยังไม่มีกระบวนการใด ๆ ทำให้ปาล์มน้ำมันก้าวไปสู่ความยั่งยืน เฉกเช่นเดียวกันอ้อยหรือยางพารา อย่างน้อยก็มีเงินกองทุนช่วยสนับสนุนอยู่ระดับหนึ่ง

 

“ปาล์มจะต่างจากยางพารา เพราะยางส่งออกอย่างเดียว ราคาจึงขึ้นอยู่กับตลาดต่างประเทศเป็นหลัก แต่ปาล์มจะคล้ายกับอ้อย มีทั้งส่งออกและใช้ในประเทศ มีผู้ผลิต มีโรงสกัดน้ำมัน มีโรงงานแปรรูป มีผู้ส่งออก มีผู้จำหน่ายในประเทศเพียงแต่อ้อยมีกฎหมายเฉพาะเข้ามาดูแล แต่ปาล์มไม่มี ควบคุมโดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(กนป.)”อุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายในเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างพืชเศรษฐกิจแต่ละตัว

 

อุดมยอมรับว่าการกำกับดูแลปาล์มน้ำมันโดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(กนป.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายยังไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการบริหารจัดการพืชเศรษฐกิจอย่างปาล์มน้ำมัน เนื่องจากไม่มีกฎหมายบังใช้โดยเฉพาะและการบังคับใช้กฎหมายก็ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่างเช่นกฎหมายโรงงานก็ใช้กับโรงงานทั่วไป หรืออย่างกระทรวงพาณิชย์ก็ใช้พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป โดยแต่ละหน่วยงานก็ไม่มีกฎหมายบังคับใช้ปาล์มน้ำมันโดยเฉพาะ 

 

ดังนั้นแนวคิดการจัดตั้งหน่วยงานและกองทุนบริหารจัดการปาล์มน้ำมันฯ เช่นเดียวกันกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง การจัดทำโครงสร้างกำกับราคาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ การมีกฎเกณฑ์ กติกากำกับดูแลปาล์มน้ำมันครบวงจร ภายใต้พ.ร.บ.ปาล์มยั่งยืน ที่รัฐบาลกำลังนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งและน่าจะเป็นทางออกเดียวในการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันไปสู่ความยั่งยืนทั้งระบบในระยะยาวได้

 

“ถ้าจะดูแลทั้งระบบ เกษตรกร โรงงานแปรรูป ผู้ประกอบการส่งออก ผู้ประกอบการจำหน่ายในประเทศ จะต้องมีกฎหมายมารองรับที่ชัดเจนควบคุมการปลูก การแปรรูป การจัดจำหน่าย ดังนั้นการมีพ.ร.บ.ปาล์มยั่งยืน ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว แต่จะถูกทางจริงหรือไม่ก็ต้องไปดูในรายละเอียดของพ.ร.บ.ดังกล่าวด้วย”รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวย้ำ

 

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ได้รายงานพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในประเทศไทยปีล่าสุด(2565)พบว่า มีทั้งสิ้น 6,150,373 ไร่ ให้ผลผลิตรวมจำนวน 18,415,713 ตัน พื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ จำนวน 5,280,179 ไร่ให้ผลผลิตรวม 16,613,445 ตัน ในขณะเดียวกันพื้นที่ปลูกปาล์มในประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5-10 % ส่วนใหญ่จะปลูกทดแทนยางพาราและนาร้าง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ