ข่าว

ธ.ก.ส. อนุมัติแล้ว "เงินช่วยเหลือชาวนา" 8 หมื่นล้าน เช็ควันโอนงวดแรก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บอร์ด ธ.ก.ส. อนุมัติแล้ว "เงินช่วยเหลือชาวนา" ประกันรายได้ข้าว 65/66 กว่า 8 หมื่นล้าน เริ่มโอนเงินงวดแรก 24 พ.ย.

อัปเดตโครงการ "ประกันรายได้ข้าว 65/66" ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. วันนี้ (23 พ.ย.65) มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้ และสภาพคล่องในการใช้จ่าย

 

รวมถึงเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าวเปลือกในราคาที่สูงขึ้น หรือเหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิต วงเงินรวม 81,265 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 30 กันยายน 2565 ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน ประกอบด้วย มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา 4 โครงการ 

 

1. โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 โดยสนับสนุนเงินให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 "เงินเยียวยาไร่ละ 1,000" สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน 

 

2. โครงการประกันรายได้ข้าว 65/66 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และป้องกันความเสี่ยงด้านราคา ไม่ให้ประสบปัญหาขาดทุน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและภัยธรรมชาติ

 

ประกันรายได้ข้าว 65/66 เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ 

 

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน 
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน 
  • ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน 
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ตัน 
  • ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน 

 

3. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2565/66 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนหมุนเวียนระหว่างชะลอการขายข้าว โดยไม่ต้องเร่งขายข้าวเปลือก ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก และราคาตกต่ำ วงเงินสินเชื่อรวม 25,590 ล้านบาท โดยไม่คิดดอกเบี้ยกับเกษตรกร นอกจากนี้ จะช่วยเหลือค่าฝากเก็บ และรักษาคุณภาพข้าวเปลือก 1,500 บาทต่อตัน กรณีเกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางตนเอง 

 

4. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2565/66 สำหรับสหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และศูนย์ข้าวชุมชนที่ประกอบธุรกิจรวบรวมข้าวจากเกษตรกรสมาชิก เกษตรกรทั่วไป

 

ทั้งนี้ กำหนดวงเงินกู้สำหรับสหกรณ์การเกษตรแห่งละไม่เกิน 300 ล้านบาท กลุ่มเกษตรกร แห่งละไม่เกิน 20 ล้านบาท และวิสาหกิจชุมชนแห่งละไม่เกิน 5 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ซึ่งคิดจากสถาบันฯ เพียงร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาการจ่ายสินเชื่อ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 ธันวาคม 2566

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของมาตรการคู่ขนาน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกและยกระดับรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างยั่งยืน โดยเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายข้าวเปลือกได้ในราคาที่สูงขึ้น 

 

ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน เคาะราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้ข้าว 65/66 โดยกำหนดราคาส่วนต่างที่จะต้องจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ย้อนหลังไปจนถึงวันที่ 15 ต.ค. 2565 (งวดแรก) และพิจารณางวดถัดไปที่จะจ่ายทุก 7 วัน รวมจ่ายทั้งสิ้น 33 งวด จนจบโครงการ 

 

บอร์ด ธ.ก.ส.อนุมัติเงินช่วยเหลือชาวนา

 

โดยในวันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะทำพิธีกดปุ่มโอนเงิน โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวฯ รวมทั้งมอบเงินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวฯ พร้อมมาตรการคู่ขนาน ให้กับผู้แทนเกษตรกรด้วย
 

 

ช่องทางการเช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 65/66  

 

  • เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com คลิกที่นี่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็ค "เงินเยียวยาเกษตรกร" หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
  • ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเอง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ