เปิดชีวิต จากอดีตวิศวกร สู่ ชาวนาต้นแบบ 

นายนพดล สว่างญาติ เกษตรกร Smart Farmer ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า แต่ก่อนครอบครัวผมไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง แต่พอมาในรุ่นตาถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมากที่ได้รับที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินพระราชทาน เพื่อพัฒนาศักยภาพพื้นที่ทำกิน เพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ให้ถึงทุกวันนี้

แต่ก่อนครอบครัวเป็นชาวนา ปลูกข้าวในแบบวิถีชีวิตความคิดใคร ความคิดมัน นับวันใส่ปุ๋ย ฉีดยาตามวันดตของข้าว ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการทำการเกษตรมากยิ่งขึ้น จึงต้องมีการพัฒนาศักยภาพในการผลิตให้ได้คุณภาพอย่างครบวงจร ซึ่งปัจจุบันนี้ผมได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ตั้งแต่กระบวนการปลูกจนถึงกระบวนการเก็บเกี่ยว รวมถึงการแปรรูปทั้งข้าว ในฐานะที่เป็นวิศวกร จึงได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งในเรื่องของพันธุ์ข้าว เรื่องของดิน สภาพภูมิอากาศ ที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกข้าว จากที่ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และได้ไปเรียนรู้จากการอบรมในหน่วยงานต่างๆ

จึงมีความรู้และประสบการณ์ที่พร้อมมาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มรูปแบบ จึงได้นำองค์ความรู้เหล่านี้มาทำการทดลองในแปลงนาของตนเองก่อน และนำความรู้ด้านวิชาการ มาลงมือปฏิบัติให้เห็นผล อย่างที่ว่า“การจะทำนาให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่เพียงแต่พึ่งพาความรู้และประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังต้องมีกระบวนการ การวางแผนและการจัดการพื้นที่นาของอีกด้วย ที่จะทำให้การทำนา ได้ผลผลิตตามที่เรานั้นตั้งเป้าหมายเอาไว้”

นายนพดล สว่างญาติ เกษตรกร Smart Farmer จึงได้เป็นเกษตรกรต้นแบบฝนการพัฒนาผลผลิตข้าวได้อย่างครบวงจร เกษตรกรในพื้นที่จึงมีพัฒนาปลูกข้าวได้คุณภาพ มีทั้งข้าว กข.43 กข.79 หอมปทุม และRJ22 ที่เป็นพันธุ์ข้าวใหม่ที่เกษตรกรในพื้นที่นิยมปลูกและทานกัน

แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ การตลาด ถ้าเรามีตลาดที่รองรับผลผลิตได้มาก เราก็สามารถที่จะผลิตข้าวได้คุณภาพและปริมาณที่มาก ซึ่งการตลาดถ้าไม่มีต่อให้ทำดีแค่ไหนสุดท้ายไปขายได้ราคาเดิม จึงต้องเปลี่ยนรูปแบบจากเดิมที่เคยให้ความรู้การพัฒนาการผลิตอย่างเดียว ไปสู่เรื่องของการทำการตลาด เพื่อให้ข้าวที่เราผลิตอย่างมีคุณภาพ ออกสู่ตลาดอย่างสมบูรณ์ และจะต้องได้ราคาที่ดี จึงต้องพยายามปรับตัวเองให้ไป   สู่การตลาด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราทำการตลาดคนเดียวไม่รอด เราต้องขยายไปสู่การรวมกลุ่ม ตอนนี้พัฒนากันในกลุ่มศูนย์ข้าวชุมชนตำบลช้างใหญ่ เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ใช้กันเองให้แปลงใหญ่ ส่วนที่เหลือจะเป็นข้าวคุณภาพ เพื่อที่จะส่งขายต่อหลังจากที่รวมเป็นศูนย์ข้าวชุมชนตำบลช้างใหญ่ และขอจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน ชื่อว่า วิสาหกิจชุมชนพันธุ์ข้าวไทย เพื่อที่จะดำเนินการธุรกิจ หลังจากที่เราดำเนินการทุกอย่างแล้ว เรามีข้าวที่สมบูรณ์แบบแล้วก็ไปหาตลาด

สุดท้ายเราก็มีตลาดอยู่ในมือ นั่นหมายความว่า เราเป็นผู้กำหนดราคาร่วมกับผู้ซื้อไม่ใช่ผู้ซื้อเป็นผู้กำหนดราคาอย่างเดียว และไม่ใช่เราเป็นผู้กำหนดราคาอย่างเดียวเพราะว่าในการกำหนดราคามันจะต้องทำให้เราอยู่ได้ รวมถึงผู้ประกอบการมีก็ต้องซื้อผลผลิตในราคาที่เรากำหนดได้เช่นกัน อันนี้คือการพัฒนาจนมาถึงทุกวันนี้