"โมโนเรล" สายสีเหลือง-ชมพู ทดลองนั่งฟรีธ.ค.นี้ ก่อนเก็บค่าโดยสารกลางปี 66

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผย กับ คมชัดลึกออนไลน์  ถึงการเปิดทดลองให้บริการ รถไฟฟ้า "โมโนเรล" สายสีเหลือช่วงสำโรง-ลาดพร้าว ระยะทาง 30.4 กม. และ "โมโนเรล" สายสีชมพูแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม.  ว่า ปัจจุบันรถไฟฟ้า "โมโนเรล" สายสีเหลือง มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 96.79 % เร็วกว่าแผน 3.08 % ขณะนี้ได้รับมอบขบวนรถไฟฟ้ามาแล้ว 29 ขบวนจากทั้งหมด 30 ขบวน  ส่วน สายสีชมพูมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 92.82 % เร็วกว่าแผน 3.06 % ได้รับรถไฟฟ้ามาแล้ว 34 ขบวน จากทั้งหมด 42 ขบวน 

นายพิเชฐ  กล่าวต่อว่า จากการหารือเบื้องต้นล่าสุดกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.), บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรล สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้า โมโนเรล สายสีชมพู โดยผู้รับสัมปทานทั้ง 2 บริษัท ได้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผน เบื้องต้นมีแผนทดสอบเปิดให้บริการ (Trial Run) ในช่วงเดือนธันวาคม เปิดจะเปิดให้ทดลองนั่งในรูปแบบกรุ๊ปก่อน หากให้ต้องการทดลองนั่งจะต้องติดต่อขอใช้บริการได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งจัดเก็บค่าโดยสาร ในช่วงเดือนก.ค.-ส.ค. 2566 

อย่างไรก็ตามสำหรับการเปิดให้บริการ "โมโนเรล" สายสีเหลือง สำโรง-ลาดพร้าว และ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี เต็มรูปแบบนั้น เบื้องต้นได้มีการคำนวณอัตราค่าโดยสารจากดัชนีผู้บริโภค (CPI) ในช่วงเดือนกันยายน 2565 โดยอัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ประมาณ 15-45 บาท แต่ทั้งนี้การคิดอัตราค่าโดยสารจะต้องมีการคำนวณใหม่อีกครั้ง ซึ่งตามแนวทางจะต้องพิจารณาก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบประมาณ 30 วัน เบื้องต้นอาจจะมีการคำนวนอัตราค่าโดยสารใหม่ประมาณช่วง เดือนมี.ค.-เม.ย.2566  เพื่อให้สอดคล้องกับดัชนีผู้บริโภคตามความจริงในช่วงเวลานั้นก่อนจะเคาะราคาค่าโดยสารทั้งสองเส้นทางอย่างเป็นทางการ 

ส่วนการเปิดให้บริการในช่วงแรก "โมโนเรล" สายสีเหลือง จะเปิดบริการตั้งแต่ช่วงสถานีสำโรง-ภาวนา ส่วนช่วงภาวนา-ลาดพร้าว จะต้องมีการทดสอบระบบเพิ่มเติมจนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัย เนื่องจากขณะนี้เพิ่งจะเริ่มทดสอบได้เพียงแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น ส่วน "โมโนเรล" สายสีชมพู สามารถเปิดให้บริการตั้งแต่สถานีมีนบุรี ถึงสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ยกเว้นสถานีนพรัตน สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อทดสอบให้ระบบให้มีความปลอดภัย

นายพิเชษฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการใช้ บัตรรถไฟฟ้า ทางกรมฯได้วางแผนให้ผู้รับเหมาติดตั้งระบบบริเวณประตูให้สามารถรองรับได้ทั้งบัตรแรปบิท และ ตั๋วร่วม เพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน โดยหากเปิดใช้งาน รถไฟฟ้า "โมโนเรล" ทั้งสายแล้วก็อาจจะมีการรูปแบบการจำหน่ายตั๋ว หรือเที่ยวที่เหมาะสมต่อไป ในส่วนของค่าแรกเข้านั้น หากเป็นระบบรถไฟฟ้าที่ รฟม.ดูแล ไม่ว่าจะเป็นสายสีน้ำเงิน (ท่าพระ-หลักสอง) และ สายสีม่วง (เตาปูน-คลองบางไผ่)  ตามสัญญาสัมปทาน ระบุว่า ประชาชนจ่ายค่าแรกเข้าแค่ครั้งเดียว เพราะเป็นระบบเดียวกัน  ส่วนหากเปลี่ยนระบบไปใช้ รถไฟฟ้าบีทีเอส จะต้องจ่ายค่าแรกเข้าใหม่ เนื่องจากเป็นคนละระบบกัน  

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7