ข่าว

จ๊อบไทย เปิด 5 ธุรกิจ ที่ตลาดต้องการแรงงานมากที่สุด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"จ๊อบไทย" เผยความต้องการแรงงานครึ่งปีแรก ทำธุรกิจลดการจ้างงานสูงสุด75% สายงานแพทย์/สาธารณสุขเนื้อหอมสุดในช่วงโควิด-19  พร้อมเปิด5ธุรกิจจ้างงานมากที่สุด และ5ธุรกิจจ้างงานน้อยที่สุด แนะปรับตัวพัฒนาทักษะ

กรุงเทพฯ  13สิงหาคม2563 จ๊อบไทย(JobThai)ผู้ให้บริการหางาน สมัครงานออนไลน์ อันดับ1ของประเทศไทย ซึ่งให้บริการเข้าสู่ปีที่20 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลความต้องการแรงงานขององค์กรในจ๊อบไทยแพลตฟอร์มพบว่าองค์กรมีความต้องการแรงงานในช่วงครึ่งปีแรกรวมกันอยู่ที่303,776อัตรา(เป็นการนับจำนวนอัตราแบบไม่ซ้ำกัน)

 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บัณฑิตจบใหม่ 500,000 คน เสี่ยงตกงานถาวร

 

ซึ่งมีการเปิดรับสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่124,629อัตรา แต่ในช่วงเดือนมีนาคม–เมษายนการจ้างงานลดลง16.5% เทียบกับเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การระบาดของไวรัสโควิด-19เริ่มมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นและกระจายวงกว้างมากขึ้น

ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนด้านผู้ใช้งาน หางาน สมัครงาน มีการใช้งานมากกว่า11ล้านคนเติบโตขึ้น7.5%ซึ่งมีการสมัครงาน8,876,727ครั้งเติบโตขึ้น31.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการจ๊อบไทย (JobThai)กล่าวว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19นั้นส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับภาพรวมตลาดแรงงาน จากการรวบรวมและวิเคราะห์ฐานข้อมูลงานในจ๊อบไทยแพลตฟอร์มเพื่อรายงานสถานการณ์ความต้องการแรงงานและพฤติกรรมความต้องการของผู้สมัครงานทั่วประเทศในช่วงครึ่งปีแรกของปี2563ดังนี้

5ประเภทธุรกิจมีความต้องการแรงงานมากที่สุด

1.อาหาร-เครื่องดื่ม58,724อัตรา แม้การผลิตในอุตสาหกรรมอาหารไตรมาสที่1ปี2563จะปรับตัวลดลง(ที่มา :สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม)แต่ผู้บริโภคยังคงมีการใช้จ่ายในหมวดสินค้าและบริการที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ทำให้ประเภทธุรกิจนี้ยังคงมีความต้องการแรงงานมาเป็นอันดับแรก ซึ่งลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน22.9%

2.บริการ44,750อัตรา ความต้องการแรงงานในธุรกิจประเภทนี้จะเป็นธุรกิจบริการที่นอกเหนือจากธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาคท่องเที่ยวเช่น ธุรกิจบริการทำความสะอาดธุรกิจบริการด้านระบบธุรกิจบริการฝึกอบรม

3.ก่อสร้าง41,353อัตรา SCB EICได้ประเมินว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการยังคงสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างจะมีแนวโน้มหดตัวตามเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงมาก ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางส่วนเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป แต่การก่อสร้างโครงการภาครัฐยังคงมีแรงขับเคลื่อนจากโครงการเมกะโปรเจกต์คมนาคม เช่น โครงการรถไฟฟ้า โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการสนามบิน โครงการท่าเรือ โครงการมอเตอร์เวย์ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

4.ยานพาหนะ/ชิ้นส่วนยานยนต์39,883อัตรา ผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19ได้ส่งผลกระทบต่อยอดการจำหน่ายและการผลิตรถยนต์ในประเทศและการส่งออกให้ชะลอตัวลง และยังกระทบต่อเนื่องไปยังผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ รวมถึงตัวแทนจำหน่าย (ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)แม้ธุรกิจนี้จะอยู่ในห้าอันดับแรกที่ต้องการแรงงานมากแต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนพบว่าความต้องการแรงงานลดลงถึง31.8%

5.ค้าปลีก37,482อัตรา ธุรกิจค้าปลีกโดยรวมมีผลกระทบค่อนข้างมาก ยกเว้นสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต้องใช้ในการดำรงชีวิต เช่น อาหารและของใช้ส่วนตัว ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ยังคงมีความต้องการแรงงาน

5ประเภทธุรกิจที่มีความต้องการแรงงานน้อยที่สุด

1.ธุรกิจท่องเที่ยว1,690อัตรา การระบาดของไวรัสโควิด-19ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวรุนแรงหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยที่มีประกาศใช้มาตรการจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งความต้องการแรงงานในธุรกิจนี้ลดลงถึง65.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ที่มา:ธนาคารแห่งประเทศไทย)

2.ธุรกิจความบันเทิง2,075อัตรา เป็นอีกอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศปิดสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ประกอบกับมาตรการควบคุมโรค โดยห้ามการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก รวมถึง การถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร ซีรีย์ โฆษณา

3.ธุรกิจกระดาษ/เครื่องเขียน2,200อัตรา ธุรกิจกระดาษที่เกี่ยวเนื่องกับสื่อสิ่งพิมพ์มีความต้องการลดลง ส่วนธุรกิจกระดาษที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แม้มีความต้องการใช้เติบโตขึ้น แต่โดยภาพรวมจะเห็นว่าธุรกิจนี้อยู่ในกลุ่มที่มีความความต้องการแรงงานน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ ในจ๊อบไทยแพลตฟอร์ม

4.ธุรกิจโรงแรม/Resort/Spa/สนามกอล์ฟ2,820อัตรา จากมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติในไทยลดลงซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจที่กลุ่มนี้ ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้มีการจ้างงานลดมากที่สุด โดยลดลงถึง75.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

5.ธุรกิจอัญมณี/เครื่องประดับ3,092อัตรา การผลิตและจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับปรับตัวลดลง เนื่องจากการผลิตเพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศลดลง ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองธุรกิจที่สภาอุตสาหกรรมประเมินว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมาก

เมื่อดูข้อมูลเชิงลึกในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า ช่วงก่อนการระบาดในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์มีแนวโน้มการจ้างงานที่สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยเดือนมกราคม มีอัตราการเปิดรับ 119,122 เพิ่มขึ้น 8.7% จากธันวาคม 2562 และเดือนกุมภาพันธ์ มีอัตราการเปิดรับ 124,629 เพิ่มขึ้น 4.6% จากมกราคม 2563 โควิด-19 เริ่มมีการระบาดมากในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน รวมทั้งมีการออกมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อทำให้หลายสถานประกอบการจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว ตลอดทั้งการประกาศเคอร์ฟิว ส่งผลให้ความต้องการแรงงานลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเดือนมีนาคม มีอัตราการเปิดรับ 112,220 ลดลง10.0% จากกุมภาพันธ์ 2563 และลดลงหนักสุดในช่วงเดือนเมษายน มีอัตราการเปิดรับ91,382 ซึ่งลดลง 18.6% จากมีนาคม 2563 ส่วนเดือนพฤษภาคม อัตราที่เปิดรับ 86,966ลดลง 4.8% จากเมษายน 2563 เดือนมิถุนายน อัตราที่เปิดรับ 90,347 เพิ่มขึ้น 3.9% จากพฤษภาคม 2563

หากแบ่งข้อมูลออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนระบาดหนัก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ช่วงระบาดหนักและล็อกดาวน์ (มีนาคม-เมษายน) และ ช่วงคลายล็อกดาวน์ (พฤษภาคม-มิถุนายน) พบว่าช่วงระบาดหนักและล็อกดาวน์ มีสายงานเดียวที่เปิดรับคนเพิ่มขึ้น คือ แพทย์/เภสัชกร/สาธารณสุข เพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนช่วงคลายล็อกดาวน์ มีการเปิดรับ Freelance เพิ่มขึ้น 36.4%

นางสาวแสงเดือน กล่าวต่อว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาสถานการณ์ด้านตลาดแรงงานมีความผันผวนจากการระบาดของไวรัสโควิด-19องค์กรต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้ทันต่อสถานการณ์อยู่เสมอ คนทำงานเองต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนการทำงานของตัวเองอยู่ตลอดเวลา การพัฒนาทักษะอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำงานยุคนี้

สำหรับทิศทางของตลาดแรงงานจากนี้ไปคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเราดูสถิติช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พบว่า สายอาชีพที่มีแน้วโน้มเปิดรับเพิ่มขึ้น ได้แก่Freelance,อาจารย์/ครู,แพทย์/เภสัชกร/สาธารณสุขสำหรับการหางาน สมัครงานในจ๊อบไทยมีการเติบโตขึ้นมาก ซึ่งจ๊อบไทยได้ออกฟีเจอร์การค้นหางานที่ให้ทำงานที่บ้านได้ (Work from Home)และค้นหางานที่เปิดรับสัมภาษณ์ออนไลน์เพื่อสร้างความสะดวก ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและคนหางานด้วย

อย่างไรก็ตาม จากฐานข้อมูลของจ๊อบไทยยังมีตำแหน่งงานจากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่ต้องการหางาน สมัครงาน สามารถใช้งานได้ที่www.jobthai.comหรือดาวน์โหลดJobThai Applicationทั้งในระบบiOS,AndroidและHUAWEI AppGallery

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ