กรมการค้าภายใน ปลดล็อกขายหน้ากากอนามัยเสรี เป็นไปตามกลไกการตลาด หลังโควิดคลี่คลาย แต่ยังควบคุมราคาตกชิ้นละ 2.50 บาท ให้มีผลตั้งแต่ 13 สิงหาคม 2563
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ปลดล็อกขายหน้ากากอนามัยเสรี เพื่อให้เป็นไปตามกกลไกการตลาด และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
ทั้งเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งจำนวนโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัย ก็มีเพิ่มขึ้นจาก 9 โรงงานเพิ่มเป็น 20 โรงงานในปัจจจุบัน
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีก จากเดิมโรงงานในประเทศผลิตหน้ากากอนามัยได้วันละ 1.2 ล้านชิ้น แต่ขณะนี้จำนวนผลิตเพิ่มมากขึ้นเป็น 4.5 ล้านชิ้นต่อวัน และมีการนำเข้าจากต่างประเทศอีกจำนวน 20 ล้านชิ้นต่อวันทำให้จำนวนหน้ากากอนามัยเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ แม้บุคลากรทางการแพทย์จะใช้วันละประมาณ 2.3 ล้านชิ้นก็เพียงพอ
“ความต้องการใช้หน้ากากอนามัยในประเทศ เริ่มอยู่ตัว และมีแนวโน้มลดลง เมื่อโควิดคลี่คลาย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะประชาชนส่วนมากนิยมใช้หน้ากากผ้ามัสลิน แทนหน้ากากอนามัย ” นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย กล่าวอีกว่า แม้เปิดเสรีหน้ากากอนามัยแลัว แต่กรมการค้าภายในยังสั่งตรึงราคาหน้ากากอนามัยเอาไว้ที่ชิ้นละ 2.50 บาท อีกทั้งเตรียมกระจายสิ้นค้าสู่ห้างสรรพสินค้าใหญ่เร็วๆ นี้ เพื่อการเข้าถึงหน้ากากอนามัยคุณภาพดีของประชาชน ซึ่งมาตรการนี้มีผลบังคับใช้เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป คาดว่าปริมาณการผลิตในประเทศเพียงกับความต้องการของประชาชน
“หากผู้ประกอบการโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ในประเทศไทย ต้องการผลิตหน้ากากฯเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ แม้เปิดเสรี แล้ว แต่ต้องขออนุญาตตามระเบียบกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เช่นเดิม ” นายวิชัย กล่าว
ขณะที่ผู้ประกอบการโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศไทย รายหนึ่ง กล่าวถึงการเปิดเสรีหน้ากากอนามัยนี้ว่า ราคาหน้ากากอนามัยเฉลี่ยในท้องตลาดอยู่ที่ ชิ้นละ 2 บาท หากกรมการค้าภายในสั่งตรึงราคาเอาไว้ที่2.50 บาท ส่งผลให้โรงงานผลิตหน้ากากฯ ต้องแบบต้นทุนการผลิตในส่วนต่างนี้ไปด้วย
ทั้งนี้ นายวิชัย โภชนกิจ เพิ่งพ้นวิบากหน้ากากอนามัย หลังพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพราะปมกักตุนหน้ากากอนามัย แต่เมื่อผลการสอบสวนปรากฏว่านายวิชัย ไม่มีส่วนพัวพัน จึงพ้นมลทิน จากนั้นนายกฯ ได้เซ็นย้ายกลับกรมการค้าภายในในตำแหน่งเดิม“อธิบดีกรมการค้าภายใน”และจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2563 นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง