กสอ. ปลื้มติดอาวุธ SMEs ไทย ก้าวสู่ยุค 4.0 ด้วย Smart SMEs สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกว่า 13,000 ราย หวังยกระดับสู่ Global SMEs
กสอ. ปลื้มติดอาวุธ SMEs ไทย ก้าวสู่ยุค 4.0 ด้วย Smart SMEs สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการกว่า 13,000 ราย หวังยกระดับสู่ Global SMEs ด้านสมาชิก คพอ. รุ่นใหม่ ปี 62 เผยนำความรู้จากการอบรมไปปรับใช้ในธุรกิจได้ผลจริง
วันที่ 22 พ.ค. 62 - นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยเพื่อเข้าสู่การเป็น Thailand 4.0 โดยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจไปสู่ “Value-Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเอสเอ็มอีให้เป็น SmartSMEs ที่มีศักยภาพสูง ผ่านกระบวนการเรียนรู้ฝึกอบรมให้ผู้ประกอบการ มีความรู้ ทักษะ และแนวคิดในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร รวมถึงสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึง เข้าใจ ในการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็น Global SMEsที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพและทักษะในการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของไทย ดังนั้น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาผู้ประกอบการสู่การบริหารธุรกิจแบบมืออาชีพ Smart SMEs Program หรือ คพอ. ขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจแบบมืออาชีพและมีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล รวมถึงมีความพร้อมในการปฏิรูปธุรกิจสู่การเป็น Industry 4.0 ด้วยการสร้างสรรค์หลักสูตรฝึกอบรมระยะยาวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเอสเอ็มอี
“กสอ.ได้ริเริ่มดำเนินโครงการ คพอ.มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาผู้ประกอบการรายเดิมตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยกระดับให้เป็นนักธุรกิจที่พร้อมจะพัฒนาและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยตลอดระยะเวลา 39 ปี ที่ดำเนินโครงการฯ มีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 13,300 ราย และได้จัดให้มีพิธีมอบวุฒิบัตรและปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการ คพอ.รวมทั้งสิ้น 124 ราย ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดที่ผ่านการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ จะสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้ ไปปรับปรุงการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี รวมทั้งมีการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้ประกอบการทั่วทุกภูมิภาคของประเทศอีกด้วย” นายกอบชัย กล่าว
ด้าน นางสาวพรรณปพร คชินทักษ เจ้าของร้านพรพิวัฒน์ยานยนต์ จังหวัดขอนแก่น ตัวแทนสมาชิก คพอ. รุ่นที่ 359 จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ภายหลังจากการเข้าร่วมอบรมได้มีการนำความรู้เกี่ยวกับ การบริหารจัดการด้านสื่อออนไลน์มาปรับใช้ในธุรกิจ เนื่องจากเล็งเห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการใช้สื่อออนไลน์และสื่อดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในยุคปัจจุบัน รวมทั้งยังได้แนวคิดใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาต่อยอดกับธุรกิจได้มากขึ้น
ด้านนายชินวิวัฒน์ เปี่ยมสกุล ผู้บริหารโรงพยาบาลสัตว์ชิน จังหวัดเลย ประธานรุ่น คพอ. รุ่น 358 จังหวัดเลย กล่าวว่า การที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน คพอ. ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเปิดประสบการณ์การทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ทำให้มีมุมมองในการทำธุรกิจที่กว้างขึ้น ได้รับความรู้ในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์และฟาร์มเลี้ยงไก่ที่ทำอยู่ได้ อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากการสร้างเครือข่ายร่วมกับสมาชิก คพอ. ท่านอื่นๆ ที่ทำธุรกิจคล้ายๆ กันด้วย นับเป็นการสานต่อการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่จะสามารถต่อยอดธุรกิจร่วมกันในอนาคตได้อีก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง