เกาะติดเลือกตั้ง-กองทัพจับตา-คาดโทษ "มือปืนมีสี"

ยิ่งลักษณะกระสุน และอาวุธปืนที่คาดว่าจะใช้สังหารนายประชาเป็น "อาวุธสงคราม" และมีข่าวจากชุดสืบสวนว่ามือปืนที่ลงมือเป็น "คนมีสี" ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และมีความใกล้ชิดกับนักการเมืองรายหนึ่ง จึงทำให้ทั้งตำรวจ และกองทัพไม่อาจอยู่เฉยให้ถูกโจมตี

 รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการ "หารือลับ" ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางเฝ้าระวังป้องกัน “ซุ้มมือปืน” รวมทั้งมือปืน "มีสี" ด้วย

 ทั้งนี้ มือปืนในสารบบที่มีข้อมูลประวัติอาชญากร และมีคดีอุกฉกรรจ์ติดตัวอยู่ ทางตำรวจก็ได้เฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิด

 แต่สำหรับ "มือปืนหน้าใหม่" ที่ยังไม่มีคดีติดตัว และ "มือปืนมีสี" ที่กลุ่มอิทธิพลทางการเมืองนิยมเรียกมาใช้งานต้องยอมรับว่า การเฝ้าระวัง และการติดตามจับกุมทำได้ยาก

 โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงมือเสร็จแล้วเข้าไปกบดานอยู่ใน "หน่วยงาน" ของตน ซึ่งถือเป็น "เกราะกำบัง" ได้ดีที่สุด เพราะเป็นการยากที่ตำรวจจะเข้าไปตามกลิ่น หรือจับกุมได้ง่ายๆ โดยที่ผู้ต้องหาไม่รู้ตัว

 อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการผ่านไปยังผบ.เหล่าทัพ โดยเฉพาะกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ให้กวดขันสอดส่องดูแลพฤติกรรมของกำลังพลเพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยเด็ดขาดไม่ว่าในทางไหน

 โดยเฉพาะ “กลุ่มเสี่ยง” ที่เข้าไปพัวพันอยู่ใน "ซุ้มมือปืน” ก็ให้จับตาเป็นพิเศษ โดยที่ผ่านมา ทั้งผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ก็ได้ "คาดโทษ" กำลังที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้ไว้แล้ว

 พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า รมว.กลาโหม ได้สั่งกำชับเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยขอให้กำลังพลทุกคน "วางตัวเป็นกลาง" ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

 นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำผู้บังคับหน่วย กำลังพลและครอบครัวให้ออกไปใช้สิทธิ์ได้อย่างเสรี

 ส่วนบทบาทของกองทัพในการเลือกตั้ง พ.อ.ธนาธิป ระบุว่า หากมีการร้องขอการใช้สถานที่หรือกำลังพล กระทรวงกลาโหมพร้อมที่จะให้การสนับสนุน

 "โดยเฉพาะการขอให้ทหารเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน่วยเลือกตั้ง และพร้อมอำนวยความสะดวกให้ทุกพรรคเข้ามาหาเสียงในพื้นที่ทหาร รวมถึงการใช้สื่อของกองทัพในการแถลงนโยบายของพรรคการเมือง” โฆษกกลาโหม กล่าวยืนยัน

 ขณะที่วงในระดับสูงของกองทัพอีกรายก็ยืนยันว่า รมว.กลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพ เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มาก เพราะไม่ต้องการให้กำลังพลเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับทางการเมือง จึงพยายามให้กำลังพลถอยห่างจากเรื่องพวกนี้

 ทั้งนี้ หากกำลังพลเข้าไปกระทำผิดในระหว่างการเลือกตั้งจะ "ไม่มีการปกป้อง" เด็ดขาด เนื่องจากรมว.กลาโหม และผบ.เหล่าทัพ ได้แจ้งเตือนไปยังทุกส่วนราชการที่ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมอยู่แล้ว หากใครแหกคอก "เจอดี" แน่

 สำหรับการเลือกตั้งเที่ยวนี้ เขามองว่า จะรุนแรงกว่าทุกครั้ง และจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงกว่าการลอบยิงนายประชาด้วย ซึ่งเกิดจากการปรับเขตเลือกตั้งเป็นเขตเดียว-เบอร์เดียว ทำให้การต่อสู้รุนแรงยิ่งขึ้น เพราะไม่มีใครต้องการเป็น "ผู้แพ้"

ทีมข่าวความมั่นคง