ข่าว

“รถไฟความเร็วสูง”ยกให้ จีนเลยเป็นไง ?

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ผมพยายามโน้มน้าวข้าราชการระดับสูงของรัฐบาล คือ สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งจัดให้มีการระดมความเห็นของภาคเอกชนเกี่ยวกับลงทุนรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทางจากกรุงเทพฯ

ถึงเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ถึงระยอง ตามที่รัฐบาลจีนเสนอให้กู้เงินมาลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาทไปเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ว่าขอให้คิดให้รอบคอบเสียก่อนว่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจการบิน การขนส่งทางบก หรือไม่ และยิ่งมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ไร้ฝีมือในการบริหารธุรกิจรับเป็นเจ้าภาพ โครงการนี้อาจทำให้รัฐบาลต้องแบกรับภาระหนี้สินไปอีกนานนั้น

 ปรากฏว่า ผลการประชุมผ่านฉลุย เรียกว่า ฉุดไม่อยู่ครับ กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแถลงผลการประชุมว่า ภาคเอกชนให้ความสนใจโครงการนี้มาก จึงอยากผลักดันโครงการนี้ให้สำเร็จ หากไม่ใช่รัฐบาลนี้ รัฐบาลหน้าคงจะสานต่อ เพราะเป็นประโยชน์ของประชาชน อย่างไรก็ตามคุณกรณ์บอกว่า โครงการนี้อยากให้เอกชนเข้ามีส่วนร่วมให้มากขึ้นเพื่อลดภาระในการลงทุนของรัฐบาล ซึ่งเราจะดูเงื่อนไขตลอดจนกฎระเบียบที่มีอยู่โดยจะพยายามลดลงให้มากที่สุด โดยเฉพาะระยะเวลาพิจารณาโครงการที่ปกติต้องเวลาถึง 48 เดือนก็อยากจะเหลือเพียง 24 เดือน

 ส่วนขั้นตอนต่างๆ นั้น นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สคร. ผู้กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจบอกว่า ขั้นตอนต่อไปจะรายงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ เพื่อที่กระทรวงคมนาคมจะได้ไปศึกษาผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเรียกว่าทำตามกติกา, กระบวนการต่างๆ นั้นผมไม่ติดใจนะครับ แต่ที่ผมติดใจคือ โครงการนี้จะต้องกู้เงินจากรัฐบาลจีนมาทำ คุณกรณ์กลับอ้อมแอ้มๆ ว่าอยากให้เอกชนมาทำจะได้ลดภาระรัฐบาล ผมว่าการเป็นหนี้นั้นไม่ว่ารัฐบาลหรือเอกชน เมื่อเป็นแล้วก็ต้องใช้เขาทั้งนั้น

 ยิ่งได้เห็นราคาค่าโดยสารที่เคาะออกมาว่ากรุงเทพฯ เชียงใหม่อยู่ที่ 1,200 บาท กรุงเทพฯ ถึงระยอง 350 บาท ผมว่าไม่ธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งที่เกี่ยวกับการขนส่งคงต้องเจ็บตัวกันบ้างหรอก ตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ถูกแพงกว่านี้ไม่มากนัก, ผู้โดยสารที่มีอยู่กลุ่มเดียวก็คงจะแชร์กันไป, อนาคตอันไม่ไกลนัก ไม่เครื่องบินก็รถไฟหัวจรวดคงจะต้องโอดครวญให้ได้ยินแน่ๆ

 ผมไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้าย แต่ทักท้วงเพราะนอกจากคนไทยจะไม่มากมายก่ายกองเหมือนจีนหรือญี่ปุ่น แล้วก็ยังไม่รวยพอจะตีตั๋วไปโน่นไปนี่แบบนั้นจึงท้วงมา อย่างไรก็ตามเสียงของผมก็คงเหมือนเสียงนกเสียงกา, เมื่อรัฐบาลจะเอาซะอย่างใครห้ามได้

 เอาอย่างนี้ไหมครับ รัฐมนตรีกรณ์ ผมเสนอให้ท่านคุยกับรัฐบาลจีนเชิญให้เขามาลงทุนทำโครงการนี้ทั้งหมด ด้วยวิธีการเช่าที่ดินของประเทศไทยตามแนวที่จะวางรางรถไฟ ให้เขามาวางรางเอง เดินรถเอง บริหารอะไรเองทั้งหมด ตกลงไปเลยไทยจะให้สัมปทานจีนกี่ปี ครบแล้วทุกอย่างต้องตกเป็นของไทย, วิธีนี้ ไทยจะได้ไม่เสียเปรียบรัฐบาลจีนไงครับ

 คุณกรณ์ต้องยอมรับว่า เริ่มต้นเราก็เสียเปรียบจีนคือ กู้เงินจีน 3 แสนล้านบาทมาทำเป็นเด้งที่หนึ่ง สร้างเสร็จแล้วเราก็เสียเปรียบเพราะจีนคงขนสินค้านานาชนิดมาขายคนไทย จนอาจทำให้สินค้าที่ไทยผลิตเองได้เจ๊งเป็นเด้งที่สอง และเด้งสุดท้าย เรายังต้องก้มหน้าก้มตาใช้หนี้รัฐบาลจีนซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหมดอีกด้วย เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วทำไมเราไม่คุยกับจีนละครับว่า เอาไหมคุณมาลงทุนได้เลย อยากเอากี่เส้นทางก็ว่ามาก แต่ต้องไม่กระทบสิ่งแวดล้อมของไทยนะ

 ผมเชื่อว่าจีนคงไม่ปฏิเสธหรอกครับ เพราะจีนอยากได้เส้นทางออกทะเลเพื่อระบายสินค้าไปยังทวีปอื่นๆ จะตายไป ไม่เชื่อไปถามรัฐบาลพม่าก็ได้ ตอนนี้ยังกะลูกคนโปรดของรัฐบาลจีนเชียวนะคุณกรณ์

ภาณุมาศ ทักษณา

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ