
รวบการ์ดนปช.พกอาวุธ-อ้างไม่รู้ของใคร
จับการ์ดนปช.ขนอาวุธบรรทุกรถกระบะเพียบ ตำรวจ-ทหาร ตั้งด่านยึดได้ก่อนนำไปก่อเหตุรุนแรง มีทั้งระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง และอื่นๆรวม 60 รายการ ยังด้านอ้างไม่รู้ของใครมาวางไว้ที่ท้ายรถ
(17 พ.ค.) พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.พญาไท พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.สน.พญาไท ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวการ์ด นปช.พกอาวุธ 2 ราย คือ นายประสงค์ มณีอินทร์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/103 หมู่ 3 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. และนายโกวิทย์ แย้มประเสริฐ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางกว่า 60 รายการ ทั้ง อาวุธมีดสั้น ขวาน แท่งเหล็ก ระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ กระสุนน็อต วิทยุสื่อสาร เสื้อยืด ผ้าผูกคอ สายไฟ ปลอกแขนและบัตรการ์ดนปช. ซองบรรจุเงินระบุชื่อการ์ดและจังหวัด กล้องถ่ายรูปยี่ห้อนิคอน สุรายี่ห้อต่างๆ เครื่องดื่มชูกำลัง อาหารแห้ง บัตรเติมเงิน รวมทั้งบุหรี่ยี่ห้อต่างๆและของใช้อีกหลายชนิดซึ่งบรรจุอยู่ในลังเซเว่นฯ รถกระบะ โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ หมายเลขทะเบียน ปว 2816 กรุงเทพฯ โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณด่านตรวจร่วมซอยพญานาค แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม.
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ทหารได้ตั้งด่านตรวจอยู่ที่ซอยพญานาค ใกล้กับโรงแรมเอเชีย จากนั้นนายประสงค์ได้ขับรถกระบะดังกล่าวเข้ามาบริเวณด่าน โดยมีนายโกวิทย์นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น ทำให้พบของกลางทั้งหมดอยู่บนกระบะหลังรถและด้าหน้ารถจำนวนมาก จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.พญาไท จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีอาวุธจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบสุราและอาหารแห้งอีกหลายรายการ คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะไปขโมยมาจากร้ายเซเว่นฯ ในหลายสาขา ทั้งพระราม 4 และสาขาปทุมวัน เนื่องจากมีลังที่ระบุสัญลักษณ์ของร้านเซเว่นฯ สำหรับการตรวจจับในครั้งนี้ถือเป็นการสกัดกั้นความรุนแรง ไม่ให้ผู้ต้องหานำของกลางไปใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนนายประสงค์ ให้การอ้างว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นทหารอยู่สังกัดกองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์ จากนั้นก็ออกมาทำงานรับเหมาก่อสร้าง แต่ตอนนี้ตกงานมาได้เกือบ 1 ปี แล้ว จึงเดินทางมาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.และรู้จักกับนายโกวิทย์ที่ม็อบ ส่วนของกลางดังกล่าวที่พบในรถนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นของใคร และมาอยู่ในรถตนได้อย่างไร ซึ่งตนจอดรถไว้ในพื้นที่ชุมนุม อาจจะมีคนนำเอามาใส่ไว้ โดยเมื่อช่วงเช้าตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน แต่ก็มาถูกจับกุม ส่วนรูปที่พบในกล้องนั้นเป็นรูปที่ถ่ายเมื่อครั้งไปเที่ยวที่ จ.สระบุรี แต่ก็มีคนยืมกล้องไปใช้หลายคนไม่รู้ว่านำไปถ่ายอะไรมาบ้าง สำหรับซองที่บรรจุเงินนั้นตนเตรียมเอาไว้เพื่อจะจ่ายให้คนงานและพรรคพวกที่รู้จักกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันฝ่าฝืนพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ ซึ่งห้ามบุคคลใดซึ่งมีพฤติการณ์ หรือน่าจะเชื่อว่าเข้ามามีส่วนร่วมในการชุมนุม เพื่อกระทำการที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน เข้ามาในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ,พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณธโดยไม่มีเหตุอันควร และไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันลักทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป