‘เหรียญขออภัย’หลวงพ่อซวงวัดชีปะขาว จ.สิงห์บุรี | คมชัดลึก

          หลวงพ่อซวง อภโย วัดชีปะขาว ต.พระงาม อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เป็นพระสงฆ์ผู้มีจริยาวัตรอันงดงาม มั่นคงและเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เน้นการปฏิบัติสมถวิปัสสนากรรมฐาน จนเชื่อกันว่า ท่านได้บรรลุธรรมชั้นสูง สำเร็จอภิญญาสมาบัติ และสำเร็จวิชาสรตโสฬส สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

          ช่วงต้นปี ๒๕๐๓ หลวงพ่อซวงเริ่มมีชื่อเสียงว่า สามารถหยั่งรู้อนาคต และบอกใบ้หวยได้อย่างแม่นยำ จนล่วงรู้ไปถึงท่านเจ้าคุณ พระมหาพุทธพิมพาภิบาล (พระปลัดวร โสภโชติ) เจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ซึ่งท่านเชี่ยวชาญทางด้านปริยัติ ไม่เชื่อทางด้านไสยศาสตร์

          เมื่อพระปลัดวรได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อซวง จึงได้ซักถามกับหลวงพ่อซวงว่า “ท่านชอบให้หวยหรือ ได้ยินว่าท่านให้หวยแม่น”

          หลวงพ่อซวงได้ตอบปฏิเสธอย่างสุภาพว่า “ถ้าคนเขาจะมีโชค ถึงเราไม่พูดหรือบอกไปเขาก็ยังถูกหวยอยู่ดี”

          พระปลัดวรฟังแล้วอยู่ในอาการมึนงง จึงถามย้ำต่อไปอีกว่า “เรื่องหวยนั้นท่านรู้จริงหรือเปล่า” หลวงพ่อซวงได้ตอบกลับไปว่า “รู้ได้ถ้าฝึกจิตจนบรรลุธรรมชั้นสูงจะทำให้หยั่งรู้ทุกอย่าง”

          หลังจากการพูดคุยครั้งนั้นไม่นาน หลวงพ่อซวงได้ให้ศิษย์วัดคนหนึ่งนำซองจดหมายภายในมีตัวเลขรางวัลที่ ๑ ในงวดนั้น (มี ๖ ตัว) นำไปให้พระปลัดวร โดยกำชับศิษย์วัดว่า ให้นำไปให้ถึงมือท่าน และห้ามเปิดดู ถ้าเปิดดูขอให้ตาบอด

          เมื่อพระปลัดวรได้รับแล้วก็ไม่ได้สนใจซองนั้น แต่กลับทิ้งไว้ในป้านน้ำชา จนกระทั่งหวยออก ข่าวเรื่องหลวงพ่อซวงให้หวยแม่นจึงดังขึ้นอีกครั้ง พระปลัดวรจึงไปนำซองจดหมายที่หลวงพ่อซวงให้ศิษย์วัดนำมาให้มาเปิดดู จึงพบว่าเป็นตัวเลขรางวัลที่ ๑ ของหวยงวดนั้นไม่ผิดเพี้ยนเลย

          พระปลัดวรจึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า หลวงพ่อซวงนั้นสามารถหยั่งรู้อนาคต และบรรลุธรรมชั้นสูงจริง จึงรู้สึกผิดที่เคยได้กล่าววาจาล่วงเกินท่าน และได้มากราบขออภัยหลวงพ่อซวงถึงที่วัดชีปะขาวเพื่อเป็นการขออภัยต่อหลวงพ่อซวง ในปีนั้น (พ.ศ.๒๕๐๓) พระปลัดวรจึงขอจองเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีที่วัดชีปะขาว โดยได้กำหนดวันทอดกฐินไว้ล่วงหน้า คือวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๐๓ พระปลัดวรได้ขอให้หลวงพ่อซวงออกวัตถุมงคลขึ้นมารุ่นหนึ่ง เพื่อเตรียมนำมาแจกสมนาคุณแก่ผู้มาร่วมงาน โดยท่านจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

          หลวงพ่อซวง เห็นว่า พระปลัดวรเป็นเจ้าภาพในการทอดกฐินสามัคคี วัตถุมงคลจึงน่าจะทำเป็นเหรียญรูปพระปลัดวร หลวงพ่อซวงจึงให้หลานชาย คือ นายสมจิตร พานิช เป็นผู้ดำเนินการ นายสมจิตรได้ไปว่าจ้างโรงงานปั๊มเหรียญแถวเสาชิงช้า กรุงเทพฯ ทำเป็นเหรียญรูปไข่เนื้อทองเหลืองกระแสออกแดง จำนวน ๕๐๐ เหรียญ

          เหรียญรุ่นนี้หลวงพ่อซวงได้ปลุกเสกเดี่ยว ตั้งแต่วันที่ได้รับเหรียญมา จนถึงคืนก่อนวันทอดกฐินสามัคคี ที่วัดชีปะขาว คือ วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๐๓ ดังนั้นวัตถุมงคลที่จะแจกในงานทอดกฐิน จึงเป็นเหรียญปั๊ม ด้านหน้าเป็นรูปท่านเจ้าคุณ พระมหาพุทธพิมพาภิบาล (พระปลัดวร โสภโชติ) พร้อมราชทินนามของท่าน และด้านหลังมีอักษร ๕ แถวว่า ที่ระฤก / ในงานทอดพระกฐิน / สามัคคี / ณ วัดชีปะขาว/๒๕ ต.ค.๒๕๐๓

          เหรียญที่เหลือจากการแจกในงานที่วัดชีปะขาว พระปลัดวรได้นำกลับไปทั้งหมด เหรียญรุ่นนี้จึงค่อนข้างหายากในพื้นที่ เนื่องจากส่วนใหญ่จะตกอยู่กับลูกศิษย์พระปลัดวร ละแวกวัดไชโยฯ และที่กรุงเทพฯ

          เหรียญรุ่นนี้ในวงการพระเครื่องถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อซวง โดยให้สมญานามเหรียญรุ่นนี้ว่า “เหรียญขออภัย หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว” เป็นเหรียญที่มีพุทธคุณสูงในทุกๆ ด้าน แบบครอบจักรวาล มีการเช่าหากันที่ระดับหลักหมื่นต้น

          อนึ่ง ถ้าในงานทอดกฐินสามัคคีของวัดชีปะขาวในครั้งนั้น หลวงพ่อซวงสั่งให้ทำเหรียญรูปตัวท่านเองออกมาพร้อมกันกับเหรียญรูปพระปลัดวร โดยให้ด้านหลังเหรียญมีรายละเอียดเหมือนกัน ผู้เขียนคิดว่า เหรียญหลวงพ่อซวง รุ่นทอดกฐินสามัคคี ปีนี้คงจะโด่งดังเป็นที่เลื่องลือในวงการพระเครื่อง มีการเช่าหากันในระดับหลักแสนขึ้นไปอย่างแน่นอน

          ขอขอบพระคุณ ร.ต.พญ.วรรษมน ถิระศุภะ ที่ให้ความอนุเคราะห์ภาพเหรียญนี้ ที่มีสภาพสวยคมชัด ประกอบบทความนี้