Lifestyle

หนักเอาเบาสู้ : วิศวกร...เกษตรอินทรีย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนักเอาเบาสู้ : วิศวกร...เกษตรอินทรีย์ : โดย...โต๊ะข่าวเกษตร

 
                      จบวิศวะแต่ไปปลูกผัก จะไปรอดหรือไม่? คำถามเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจากคนใกล้ชิดและเพื่อนๆ ทั้งของอภิชาต ศุภจรรยารักษ์ และศิริพรรณ คำแน่น สามีภรรยา ซึ่งจบปริญญาโทแต่เลือกทำเกษตรอินทรีย์แทนการเป็นมนุษย์เงินเดือน และ 2 ปีที่ล้มลุกคลุกคลานกว่าจะพากันข้ามผ่านอุปสรรคไม่ง่ายเลย
 
                      ทันทีที่จบการศึกษาปริญญาโท สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อภิชาต หรือเน ในวัย 30 ปีเศษ เลือกจะไม่กรอกใบสมัครงานด้วยเหตุผลอยากมีอาชีพอิสระ และมองว่าอาชีพเกษตรกรเหมาะกับตัวเองมากที่สุด ขณะที่ศิริพรรณ คำแน่น หรือฝน วัย 29 ปีภรรยา จบปริญญาโทสาขาเดียวกัน เข้าสู่วงเวียนมนุษย์เงินเดือนต่อมาเมื่อแต่งงานจึงเดินตามฝันไปกับสามี
 
                      เริ่มต้นจากการปลูกหญ้าเนเปียร์ขายพร้อมปลูกผักสลัดแปลงเล็กๆ ทว่าไม่ประสบผลสำเร็จ นำมาซึ่งความผิดหวังเล็กๆ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้ท้อแท้กลับเดินหน้าต่อ ทำให้ได้มาพบกับ สมประสงค์ นาคดี หัวหน้ากลุ่มชุมชนป่าละอู อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทำเกษตรอินทรีย์ จึงเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม ช่วยกันผลิตพืชผักอินทรีย์ส่งขายให้พ่อค้าคนกลางและบริษัทต่างๆ
 
                      ต่อมาเมื่อสมประสงค์ ได้รู้จักอรุษ นวราช ผู้บริหารสามพราน ริเวอร์ไซด์ ผู้ริเริ่มโครงการสามพรานโมเดล ที่มุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์ ทำให้ชุมชนป่าละอูเข้าเป็นเครือข่ายของโครงการ ขายผลผลิตตรงกับผู้บริโภคโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตเริ่มมีหวัง
 
                      “ทำให้ผมมองเห็นอนาคต เห็นช่องทางตลาด เพราะผมไม่เคยเจอพ่อค้าที่บอกให้ลูกค้ากำหนดราคาเอง และรับซื้อแบบประกันราคาทั้งปี แต่โครงการนี้ให้โอกาสเกษตรกร”
 
                      ปัจจุบันบนเนื้อที่ 1 งานเขียวขจีไปด้วยพืชผักชิดต่างๆ โดยเฉพาะผักสลัด ซึ่งนอกจากส่งเข้าห้องครัวโรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์แล้ว ส่วนหนึ่งนำมาจำหน่ายที่ตลาดสุขใจ จ.นครปฐม ในวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนกำลังการผลิตอยู่ที่ 30-40 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ รายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 1.2 หมื่นบาท
 
                      อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขรายได้จะน้อยกว่ามนุษย์เงินเดือน แต่รายจ่ายก็ไม่มาก ยิ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ พวกเขาบอกว่าคุ้มมากที่ตัดสินใจมาทำเกษตรอินทรีย์ ตั้งเป้าว่าจะผลิตให้ได้ 100 กก.ต่อสัปดาห์ สำหรับในอนาคตตั้งใจไว้ว่าจะเอาดีด้านผักสลัดแทนการปลูกผักชนิดอื่น ทั้ง แรดิช หัวไชเท้าฝรั่ง สวิสชาร์ด ซึ่งเป็นพืชที่ดีมีคุณประโยชน์อันดับหนึ่งของโลก
 
 
 
----------------------
 
(หนักเอาเบาสู้ : วิศวกร...เกษตรอินทรีย์ : โดย...โต๊ะข่าวเกษตร)
 
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ