ข่าว

เพิ่มคุณค่า.. สไตล์'KAFBO'เติมงานดีไซน์ใส่กระดาษลูกฟูก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เพิ่มคุณค่า.. สไตล์'KAFBO'เติมงานดีไซน์ใส่กระดาษลูกฟูก : คมคิดธุรกิจนิวเจน เรื่อง : อนัญชนา สาระคู

            อีกหนึ่งธุรกิจที่เกิดจากการ “สร้างสรรค์” ความแตกต่าง ต่อยอดจากธุรกิจครอบครัวกลายเป็นธุรกิจใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เติมเต็มด้วยผลงานการออกแบบ (ดีไซน์) ซึ่งได้สร้างเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนให้แก่บริษัท คาฟโบ จำกัด (Kafbo co.ltd.) ผู้ผลิตวัสดุที่เป็นมากกว่า “ที่ลับเล็บแมวจากกระดาษลูกฟูก” แต่ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของแมวได้อีกด้วย

            และเมื่อพูดถึง “กระดาษลูกฟูก” เราก็มักจะคุ้นเคยกับกล่องหรือลังกระดาษ ทั้งคาดไม่ถึงว่ากระดาษลูกฟูกยังนำไปใช้งานอื่นๆ ได้อีกมากมาย ซึ่งนอกจากจะผลิตออกมาเป็น “พาเลทกระดาษลูกฟูก” หรือแท่นสำหรับวางและลำเลียงสินค้าที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมแล้ว ยังสามารถนำไปผลิตเป็นที่ลับเล็บแมว เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ของเล่น อุปกรณ์การเรียนการสอน และบูธจัดแสดงนิทรรศการได้อีกด้วยหากใส่งานดีไซน์เพิ่มเข้าไป นั่นจึงเป็นที่มาและก่อเกิดธุรกิจภายใต้แบรนด์คาฟโบ ชื่อที่ย่อมาจากคำว่า “Kraft Board” โดยเริ่มต้นแนวคิดใกล้ตัวจากการเป็นคนรักสัตว์

            “โน้ต” ขวัญชนก อมรธนานุบาล เจ้าของธุรกิจคาฟโบ เล่าว่า ทางบ้านทำธุรกิจผลิตพาเลทกระดาษลูกฟูกป้อนตามโรงงานอุตสาหกรรม และห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์เช่น อีเกีย จึงเกิดแนวคิดการต่อยอดธุรกิจของที่บ้าน ประจวบกับการที่เป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ ที่บ้านจะเลี้ยงทั้งสุนัขและแมว จึงเริ่มจากการทำบ้านให้กับน้องหมาแต่ก็พบว่าถูกกัดขาดหมด จึงคิดว่าไม่น่าจะทำได้ จนมาได้ดูวิดีโอญี่ปุ่นเกี่ยวกับแมวเห็นว่าแมวชอบลับเล็บตัวเอง และชอบอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม ขณะเดียวกันก็จำได้ว่าเพื่อนๆ มักจะบ่นให้ฟังบ่อยครั้ง ว่าแมวที่บ้านชอบที่จะไปลับเล็บตามโซฟา ผ้าม่านทำให้เสียหาย

            จึงเกิดแนวคิดเริ่มแรกคือการผลิตที่ลับเล็บแมว และธรรมชาติของกระดาษลูกฟูกเองสามารถแทนสภาพเหมือนเปลือกไม้ เมื่อทำออกมาเป็นรูปร่างก็จะทำให้แมวลับเล็บเองได้ และยังช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์ของเจ้าของบ้านเสียหายได้ด้วย

            “จุดเด่นของเราคืองานดีไซน์ การสร้างความแตกต่าง และคุณภาพของสินค้าที่ใช้ได้นานเป็นปี บวกกับฟังก์ชันการใช้งานที่เพิ่มขึ้น คือสามารถใช้งานได้จริงทั้งคนและแมว” โน้ต กล่าวถึงจุดเด่น หรือแตกต่างกับสินค้าที่มีในท้องตลาดทั่วไป ซึ่งในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีการนำกระดาษลูกฟูกมาผลิตกันมากขึ้น รวมทั้งสินค้าจากจีน ซึ่งมีราคาถูกกว่า ถือเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดส่งออก

            จนปัจจุบันได้ออกแบบผลิตภัณฑ์มาแล้วรวม 3 คอลเลกชั่น ผลงานชุดแรกคือ 9Lifers สื่อถึงแมว 9 ชีวิต และออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ลับเล็บแมวมารูปสัตว์ต่างๆ เพื่อให้เป็นเพื่อนกับแมวรวม 9 แบบ เริ่มจากปลาวาฬ หนู นก หอยทาก ฮิปโปโปเตมัส วอลรัส สุนัขจิ้งจอก ไก่ และกบ แต่ละตัวจะมีรูปร่างแตกต่างกันตอบโจทย์ลักษณะการนั่ง นอนของแมว รวมไปถึงขนาดตัวของแมว เช่น ตัวฮิปโปฯ จะใหญ่และแข็งแรงเหมาะกับการรองรับแมวที่ตัวใหญ่ขึ้นได้ หรือหอยทาก จะเน้นที่ความโค้งสำหรับการนั่งและนอนเล่นของแมว แต่ทั้งหมดนี้ ยังสามารถใช้เป็นของตกแต่งบ้านได้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องนำไปแอบไว้หลังบ้าน คือสามารถนำมาตั้งไว้หน้าบ้าน ในห้องรับแขก กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้เลย ที่สำคัญช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เสียหายได้ด้วย

            คอลเลกชั่นถัดมาชื่อชุด HOME ออกแบบมาเป็นเหมือนเลโก้ต่อๆ กัน นอกจากตอบโจทย์แมวแล้วยังเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการใช้งานของเจ้าของแมวด้วย คือจะออกแบบมา 8 รูปทรงนำมาเรียงต่อกัน เป็นทั้งที่ลับเล็บแมว เหมาะกับการนั่งเล่น นอนเล่นของน้องแมว และเป็นชั้นวางของตกแต่งบ้านให้กับเจ้าของแมวได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือแม็กกาซีน หรือต้นไม้เล็กๆ ก็วางได้

            ล่าสุด เพิ่งเปิดตัวคอลเลกชั่นที่ 3 ในงานของขวัญและของตกแต่งบ้าน (BIG & BIH) เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง มีชื่อชุดว่า CUBE เป็นรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดพับได้ กางออกมาเป็นกล่องบ้านแมว ซึ่งออกแบบมาให้ทุกส่วนของกล่องใช้งานได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องทิ้งส่วนใดส่วนหนึ่งเลย อีกทั้งขนส่งสะดวก ใช้ง่าย ทำได้เองแบบดีไอวาย และยังมีสติกเกอร์แมวอีก 3 แบบ ซึ่งนายแบบนางแบบก็เป็นแมวที่เลี้ยงอยู่ 3 ตัวชื่อ ปลาวาฬ ปลาเงิน และปลาทอง เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อไปสามารถเลือกได้ว่าจะตกแต่งกล่องอย่างไร เพราะเราอยากให้คนใช้ได้คิดออกแบบด้วยตัวเองด้วย

            "ในแต่ละคอลเลกชั่นจะใช้เวลานานเป็นปี ซึ่งนอกจากโน้ต จะออกแบบเองแล้ว ยังมีเพื่อนที่เรียนจบด้านโปรดักส์ดีไซน์มาช่วยในด้านการออกแบบด้วย โดยตั้งใจจะออกคอลเลกชั่นใหม่ออกมาทุกปี และคอลเลกชั่นถัดไปก็เตรียมตัวจะเปิดในต้นปีหน้าช่วงงาน BIG โดยยังคงงานดีไซน์ และให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งแมวและเจ้าของแมวเช่นเดิม ซึ่งการที่เราเน้นงานดีไซน์ทั้งหมด เพราะคิดว่าจะทำให้สินค้าของเรามีเอกลักษณ์ มีความแตกต่าง ใครเห็นสินค้าเราก็จะจำได้ว่าเป็นของคาฟโบ ซึ่งจะเรียกว่าเป็นงานนวัตกรรมก็ได้ เพราะปีก่อนสินค้าของคาฟโบก็เคยติด 1 ใน 10 สินค้านวัตกรรมของเมืองไทยด้วย”

            โน้ต เล่าว่า ปัจจุบันยังไม่มีหน้าร้านเป็นของตัวเองแต่จะออกขายตามงานต่างๆ โดยวางขายที่ลับเล็บแมวคอลเลกชั่นแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 เป็นช่วงวันวาเลนไทน์ ซึ่งขายดีมากเพราะเราไปเปิดตัวกับงานของเล่นแมว และโชคดีที่เริ่มต้นด้วยการใช้สื่อโซเชียล เน็ตเวิร์ก เช่น เฟซบุ๊ก (/kb.9lifers) และอินสตาแกรม (@kafbo_ig) ทางแฟนเพจก็มีการนำสินค้าเราไปแชร์ในเพจแมวดังๆ พอมีการวางขายที่ไหนก็มีคนมาตามซื้อสินค้าเรา ซึ่งจากนี้ก็พยายามจะไปออกบูธตามงานสัตว์เลี้ยง เช่นร่วมกับโครงการรักแมว งานเพท เอ็กซ์โป ต่างๆ

            ส่วนที่มาร่วมในงาน BIG ซึ่งเป็นงานของขวัญและของตกแต่งบ้าน ร่วมครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2557 ก็เพราะมีเป้าหมายที่จะนำสินค้าคาฟโบส่งออกไปยังต่างประเทศ

            “แรกๆ ที่ผลิตออกมาไม่ค่อยแน่ใจว่า หากเป็นตลาดในประเทศแล้ว สินค้าเราจะขายได้หรือไม่ จึงอยากจะเน้นไปตลาดส่งออกเลย เพราะคิดว่าเป็นตลาดที่กว้างกว่า และงานของเราเป็นงานดีไซน์ เลยคิดว่าน่าจะส่งออกได้ จึงตั้งเป้าที่จะส่งออก โดยขณะนี้มีการส่งออกไปบ้างแล้วแต่เป็นลักษณะการขายทางเว็บไซต์ที่ส่งไปยังผู้ซื้อโดยตรง ทั้งเว็บอเมซอน และ ETSY แต่ยังไม่เป็นการส่งออกในเชิงธุรกิจ เป้าหมายแรก คือญี่ปุ่น ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและเรียนรู้ขั้นตอนการส่งออก โดยคิดว่าหากสามารถเจาะตลาดญี่ปุ่นได้แล้ว การส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ก็น่าจะทำได้ง่ายขึ้น”

            เมื่อพูดถึงเป้าหมายของธุรกิจ เจ้าของบริษัท คาฟโบ วัย 31 ปี บอกว่า เป้าหมายแรกคือต้องการส่งออกให้ได้ก่อน อยากเห็นสินค้าของคาฟโบถูกส่งออกไปทั่วโลก จึงเป็นที่มา ที่เรามาเปิดตัวในงาน BIG ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และพัฒนาตัวสินค้าให้เหมาะสมกับการส่งออกได้ดีขึ้น คือจากผลงานชุดแรก และชุดที่สอง ชิ้นงานจะมีขนาดใหญ่การส่งออกค่อนข้างลำบาก เพราะจะกินพื้นที่มาก จึงเป็นที่มาของผลงานชุดล่าสุดที่จะมีน้ำหนักเบาลงและขนส่งได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงจุดเด่นที่ฟังก์ชันการใช้งานต้องหลากหลาย

            อย่างไรก็ตาม มองว่าการเติบโตของธุรกิจอาจจะไม่ใช่แค่ของเล่นแมวเท่านั้น แต่จะครอบคลุมงานสินค้าไลฟ์สไตล์ให้มากขึ้น อย่างปีนี้ สินค้าเราอาจจะยังค่อนข้างนิช มาร์เก็ตเกี่ยวกับแมว แต่ปีหน้าจะต่อยอดผลิตภัณฑ์กระดาษให้สุนัขสามารถเล่นได้ด้วย

            ส่วนยอดขายในปีแรกยังไม่มีกำไรนัก แต่ก็สามารถขายได้เรื่อยๆ และคิดว่าสินค้าของเรายังไปได้ดี ตามกระแสคนรักสัตว์ที่เติบโตขึ้น เห็นได้จากตอนเริ่มทำธุรกิจมานี่ รู้เลยว่าปัจจุบันกระแสคนรักสัตว์บูมขึ้นมามาก ในต่างประเทศก็มีการเลี้ยงสัตว์เหมือนเลี้ยงลูกตัวเอง นอกจากนี้ ในบ้านเราธุรกิจสัตว์เลี้ยงก็เติบโต มีการเปิดร้านขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น ซึ่งร้านค้าเหล่านี้ก็ติดต่อเข้ามาให้นำสินค้าของเราไปวางขาย จึงคิดว่าเป็นธุรกิจที่น่าจะเติบโตได้อีก และแม้จะมองว่าตอนนี้ยังเล็กอยู่ แต่ในอนาคตน่าจะไปได้ไกล”

            รวมทั้งงาน “ดีไซน์” ที่นำมาใช้กับ “กระดาษลูกฟูก” ก็คิดว่ายังสามารถต่อยอดไปได้อีกมาก อย่างตอนนี้คิดทำโคมไฟ เฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ เก้าอี้ หรือหากลูกค้าต้องการให้เราทำอย่างอื่นก็รับผลิตและรับที่จะออกแบบให้ได้ หรือมีแบบมาให้ก็ได้ เช่นโต๊ะ นอกจากจะออกแบบโครงสร้างแล้ว ยังนำสารมาเคลือบกันน้ำได้อีกด้วย เป็นการใส่นวัตกรรมเข้าไปอีก นอกจากนี้ เศษกระดาษที่เหลือก็มีแนวคิดที่จะนำมาผลิตเป็นของเล่นเด็กอีกด้วย ซึ่งอยากจะผลิตและแจกตามสถานสงเคราะห์เด็ก จากปัจจุบันช่วยสนับสนุนผู้ที่รับแมวจรจัดไปเลี้ยงก็จะให้ที่ลับเล็บเป็นของสมนาคุณ เป็นต้น

            ทั้งนี้ การต่อยอดผลิตภัณฑ์จากกระดาษลูกฟูก ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่สร้างธุรกิจ ซึ่ง โน้ต บอกว่าการที่เรานำมาใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ จากเดิมที่ผลิตออกมาเป็นกล่องกระดาษ หรือพาเลทกระดาษ นี่แหละคือ “นวัตกรรม” และกระดาษลูกฟูกก็ยังถือว่าเป็นอีโค โปรดักส์ เพราะสามารถนำไปรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ สินค้าของเราจึงเป็นอีโค หรือ กรีน โปรดักส์ ด้วย และใครจะคิดว่ากระดาษลูกฟูกแผ่นเดียวแต่หากนำมารวมกันหลายๆ แผ่นจะสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึงหนึ่งตัน จึงคิดว่ากระดาษลูกฟูกยังสามารถสร้างสรรค์ไปได้อีกไกลมาก

            “งานนวัตกรรม คิดว่าไม่ใช่ของใหม่เสียทีเดียว อาจเป็นของเก่าแต่นำความคิดสร้างสรรค์เข้ามาใส่ ทำอะไรให้แตกต่าง อย่างคนคาดคิดไม่ถึง ก็คือนวัตกรรมเช่นเดียวกัน อย่างกระดาษลูกฟูกของคาฟโบ ก็เป็นของเก่า แต่เราต้องใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้า เมื่อคิดว่าสามารถใช้งานได้จริง ก็เชื่อว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าเรา”


ชูงาน"ดีไซน์”ตามรอยรุ่นพี่

            แน่นอนว่าการเริ่มต้นสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่นอกจากจะมีความฝันและลงมือทำให้เป็นจริงแล้ว “โน้ต” หรือ “ขวัญชนก อมรธนานุบาล” เจ้าของแบรนด์คาฟโบ ยังบอกด้วยว่ามีแรงบันดาลใจมาจากธุรกิจรุ่นพี่แบรนด์ QUALY โดยบริษัท นิว อาไรวา จำกัด ที่ปัจจุบันส่งออกสินค้าไปทั่วโลก

            ก่อนหน้านี้เคยไปนั่งฟังพี่เขาเล่าว่าเริ่มธุรกิจมาอย่างไร ซึ่งเขาก็เริ่มต่อยอดมาจากธุรกิจที่บ้าน โดยนำงานดีไซน์เข้ามาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เราเลยได้ไอเดียนี้มาว่าถ้าเราทำงานดีไซน์ ทำให้มีเอกลักษณ์และแตกต่าง มันก็น่าจะทำให้สินค้าเราโดดเด่นได้ จึงนำมาใช้กับกระดาษลูกฟูกที่เป็นธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งทีแรกทางบ้านเองก็ไม่เห็นด้วยนัก และมองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ตัวพาเลทกระดาษลูกฟูกก็ยังไปได้อยู่ อยู่ได้เรื่อยๆ แต่ของเล่นแมวใครจะซื้อ แต่เราก็อยากลองทำ จนมาตอนนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าทำได้ แม้จะขายได้ปริมาณน้อยแต่ก็มีกำไรพอที่จะสามารถนำมาขยายธุรกิจต่อไปได้

            สำหรับ QUALY ต่อยอดมาจากโรงงานพลาสติก โดยนำงานดีไซน์เข้ามาใส่ในผลิตภัณฑ์ จากเดิมที่เขาเป็นแบรนด์เล็กๆ แต่ตอนนี้พี่เขาไปไกลมาก ส่งออกไปหลายสิบประเทศทั่วโลก และเราเองก็อยากที่จะนำคาฟโบให้เป็นแบบนั้น คือให้สินค้าเราสามารถส่งออกไปหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งคงไม่เฉพาะจับกลุ่มลูกค้าสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่สินค้าเราจะขยายให้เป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยงานดีไซน์

            อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงเฉพาะตลาดสัตว์เลี้ยง ก็จะมีทั้ง ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา และยุโรป รวมทั้งยังอยากเห็นเรามีร้านค้าในต่างประเทศด้วย

            สำหรับ “โน้ต” บอกว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะวารสารศาสตร์ วิชาเอกภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นไปเรียนต่อระดับปริญญาโทในต่างประเทศด้านไฟน์ อาร์ต เพราะเป็นคนชอบงานศิลปะ และงานดีไซน์ ซึ่งก็นำมาใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ทั้งหมด แม้จะเรียบจบเอกภาพยนตร์มา ก็นำมาใช้ในการทำสื่อต่างๆ เพื่อทำการตลาดและสื่อสารผลิตภัณฑ์ของเราไปยังผู้บริโภค ตลอดจนการขยายตลาดผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ