ฟ้าหลังฝนปี58สดใส‘ซี้ด’เน้นครอบคลุมทุกพื้นที่

 

             ปี พ.ศ. 2557 ดูเหมือนจะเป็นปีที่ซบเซาอีกปีหนึ่งของวงการเพลง โดยเฉพาะวงการวิทยุ ถ้าเปรียบเทียบเมื่อหลายปีก่อน วงการวิทยุถือว่าคึกคัก มีการแข่งขันกันสูง เพราะตลาดวิทยุถือเป็นตลาดใหญ่และคลอบคลุมในระดับหนึ่ง แต่ในปีนี้วงการวิทยุอยู่ในช่วงที่เรียกว่าอยู่ในช่วงราหูเข้า "บันเทิง คมชัดลึก" ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "ตุ้ย" ธีรภัทร์ สัจจกุล บอสส์ใหญ่แห่งคลื่น "ซี้ด 97.5 เอฟเอ็ม" ซึ่งถือเป็นคลื่นที่มีเครือข่ายครอบคลุมไปทั่วประเทศ

 

             โดยบอสส์ตุ้ยยอมรับว่าปี 2557 ถือเป็นปีที่มียากลำบากมากที่สุดเท่าที่ผ่านมา ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ในบ้านเมือง ที่ส่งผลกระทบในวงการไม่ใช่แค่วงการวิทยุ ผลกระทบนั้นสร้างแรงสะเทือนไปทั่ว แต่เมื่อช่วงปลายปี 2557 หรือช่วงไตรมาส 3 ในทางธุรกิจ ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้น และส่งให้ผลประกอบการดีขึ้นกว่าในช่วงไตรมาส 2

 

             "ปีนี้ผมว่าดีขึ้น เพราะอย่างช่วงไตรมาสที่ 1-2 ของปีที่ผ่านมา เรามองไม่ออกว่า มันจะออกไปในทางไหน มาถึงไตรมาสที่ 3 มันดีขึ้น ไตรมาส 4 ยังคงดีประมาณไตรมาส 3 แต่มันเหมือนเป็นแสงที่ปลายอุโมงค์ที่เราสัมผัสได้ว่ามันน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เราคาดการณ์ว่าไตรมาส 1 ของปีนี้มีทางลือก 2 อย่างคือทรงจากไตรมาส 3-4 ในปีที่แล้ว กับดีขึ้น เราเชื่ออย่างนั้นว่ามันน่าจะดีขึ้น จากการที่ได้มีการพูดคุยกับผู้รู้เรื่องนี้ ก็บอกว่าในไตรมาสแรกของปี 2558 น่าจะวัดได้แล้ว" บอสส์หนุ่มเผย

 

             เมื่อถามต่อว่า ถ้าเทียบปีที่ผ่านมากับ 9 ปีก่อน ปีนี้ไม่ได้เรียกว่าแย่ที่สุด แต่แค่ไม่เข้าเป้าตามที่วางแผนไว้ในตอนแรกเท่านั้น แต่ไม่ได้ถึงกับทรุดลงไป ยังประคองมาได้ และเมื่อประคองรายได้ตรงนี้มาได้แล้ว ทำให้มั่นใจว่า ถ้าผ่านปีนี้มาได้ ก็ไม่มีขวากหนามอะไรที่จะยากไปกว่านี้อีกแล้ว

 

             "แผนปีนี้ สิ่งแรกที่เราคิด คือการตอบโจทย์ผู้ฟังก่อน อย่างที่ทราบกันมาตลอด 10 ปี ฐานคนฟังของคลื่นซี้ด คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเรามีกลุ่มคนฟังทั่วทั้งประเทศ และถ้ามองกันจริงๆ แล้ว ซี้ดถือเป็นคลื่นเดียวด้วยซ้ำที่ทำการตลาดทั่วทั้งประเทศ และมีการเดินทางไปร่วมทำกิจกรรมกับคนฟังของเราแบบทั่วทั้งประเทศ แต่ถ้าเป็นคลื่นอื่นส่วนใหญ่กิจกรรมจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของคลื่นซี้ดที่เราทำมาตลอดจนเข้าปีที่ 10  ในปีนี้ เราก็ยังคงไว้ โดยอาจมีการปรับเปลี่ยนไป อย่างกิจกรรมในปีนี้ ที่เราจะออกต่างจังหวัด คือ เดอะซี้ด คลับ ออน ทัวร์ โดยเราจะพุ่งเข้าไปหากลุ่มเป้าหมายของเรา ตามสถาบันการศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งมันเป็นโหมดเดียวกันกับซี้ด แคมปัส และ ซี้ด ยูไนเต็ด

 

             แต่ ซี้ด แคมปัส อยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง และจะมีกิจกรรมการแข่งกีฬา โดยเราอยากจะทำให้มันเป็นวันกิจกรรมของสถาบันนั้นๆ ซึ่งจะรวมทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยม แต่ในส่วน เดอะซี้ด คลับฯ จะออกไปตามจังหวัดต่างๆ อีกหนึ่งกิจกรรมที่เรายังคงไว้จากปีที่แล้วคือ ซี้ด เซสชั่น ที่เราเน้นความใกล้ชิด ที่ในปีที่แล้วเรามีผู้ฟังแบบเอ็กคลูซีพ 20 คน แต่ปีนี้เราจะเพิ่มสเกลให้ใหญ่ขึ้นด้วยการเพิ่มผู้ฟังเป็น 200 คน และถ่ายทอดลงแอพพลิชั่นของเราได้เลย" ตุ้ยบอก

 

             งานนี้ผู้บริหารซี้ดยังพูดถึงการที่ประเทศไทยเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตัลว่าไม่มีผลกระทบกับคลื่นวิทยุมากนัก เนื่องจากทีวีดิจิทัล ในวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก ทำให้ผู้ชมยังไม่สามารถเฉพาะเจาะจงได้ ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ของทีวีดิจิทัล แต่ในส่วนของวิทยุ มันไม่ได้เฉพาะเจาะจง แต่การฟังวิทยุคือการฟังเพื่อสร้างความสุข เป็นอาหารของจิตใจ และยังมอบความสุขให้กับคนได้ทุกเพศทุกวัย ทำให้วิทยุถูกเป็นตัวเลือกที่คนฟัง เฉพาะเจาะจงมาฟัง เพื่อฟังเพลง ซึ่งเป็นสรรพคณหลักของ "คลื่นวิทยุ"