Lifestyle

'รอยสัก เจาะหู'หมดสิทธิ์!เรียน21ว.อาชีวะ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'รอยสัก เจาะหู'หมดสิทธิ์! สอศ.สั่ง21ว.ห้ามรับเข้าเรียน

                เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2557 นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า  ขณะนี้ สอศ. ได้จัดตั้งกลุ่มอาชีวศึกษาพัฒนาโดยรวมวิทยาลัยในกลุ่มเสี่ยงที่มีเด็กก่อเหตุทะเลาะวิวาท 21 แห่งในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และจะให้วิทยาลัยกลุ่มนี้เข้มงวดในการรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2558   โดยให้คัดกรองรับเฉพาะเด็กที่ตั้งใจมาเรียนสายอาชีพจริง มีความประพฤติดี ไม่มีประวัติก่อเหตุทะเลาะวิวาท ไม่เจาะหู ไม่มีรอยสักตามร่างกาย   และเมื่อเข้าเรียนแล้วก็จะดูแลเรื่องระเบียบวินัยการแต่งกายอย่างเคร่งครัด

                สอศ.ยังพิจารณาข้อมูลด้วยว่า    มีเด็กในสาขาวิชาใดของ 21 วิทยาลัยกลุ่มเสี่ยงก่อเหตุทะเลาะวิวาทมากและบ่อยครั้ง ก็จะให้แผนกหรือสาขาวิชานั้น งดรับนักศึกษา ปวช.ปี 2558  ซึ่งจากการหารือระหว่างผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมีอยู่แล้วในใจว่า จะไม่รับสมัครนักศึกษาจำนวน 1-2 สาขาวิชาในบางวิทยาลัย และให้โอนย้ายครูพร้อมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนในสาขาวิชานั้นๆ ไปให้วิทยาลัยแห่งอื่นที่เปิดสอน ส่วนระดับ ปวช.2-3 ที่เปิดสอนอยู่กำลังพิจารณาว่าจะโอนย้ายไปเรียนรวมในวิทยาลัยที่มีการโอนย้ายครูไปด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ในเบื้องต้นผู้อำนวยการวิทยาลัยที่เข้าร่วมประชุมก็เห็นด้วยและเชื่อว่าจะบรรเทาปัญหาการทะเลาะวิวาทลง 

                นายชัยพฤกษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น สอศ.เตรียมจัดทำโครงการ “Pre อาชีวศึกษา”  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กเรียนต่อสายอาชีพ และจะเป็นส่วนหนึ่งของการปัญหานักเรียน นักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมระหว่าง รมว.ศธ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าว  เห็นว่า สาเหตุที่เด็กก่อเหตุเพราะปรับตัวไม่ได้  นักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 ที่มีการเรียนการสอนต่อเนื่องเต็มวัน แต่เมื่อเข้าสู่การเรียนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และปริญญาตรี จะเรียนด้วยการค้นคว้าด้วยตนเองและมีเวลาว่างในการรอเวลาเรียนวิชาต่อไปเยอะ เด็กบางคนใช้เวลาว่างไม่เหมาะสม ไปจับกลุ่มในที่อโคจร มั่วสุม ก่อเหตุทะเลาะวิวาท

                เพราะฉะนั้น สอศ.จึงเตรียมจัดโครงการ Pre อาชีวศึกษา นำนักเรียนระดับ ปวช. 1 และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.1) ทุกคนมาอบรมเตรียมความพร้อมในหลักสูตรแบบบูรณาการ โดยจะมีการปรับพื้นฐานความรู้ ระเบียบวินัย ทัศนคติและการจัดสรรเวลาเรียนให้กับนักเรียน  โดยจะใช้เวลาในการอบรม 2-3 เดือน ทั้งนี้ จะนำเสนอ พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาในสัปดาห์หน้า
            
                “ การนำเด็กทุกคนมาปรับพื้นฐานก่อน จะทำให้เด็กสามารถปรับตัวในการเรียนได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ กำลังอยู่ในการศึกษารายละเอียดว่าการให้เด็กมาเรียนในโครงการดังกล่าว จะให้แต่ละวิทยาลัยดำเนินการอบรมนักศึกษาที่เข้าใหม่ในระดับ ปวช. 1 และปวส.1 ของตนเองหรือนำเด็กต่างสถาบันแต่เรียนสาขาเดียวกันมาอบรมร่วมกัน เพื่อจะได้รู้จักกันและเมื่อแยกไปเรียนในสถาบันของตนเองแล้วจะได้ไม่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาความรุนแรงและเหตุทะเลาะวิวาทของนักศึกษาอาชีวศึกษา ซึ่งเป็น 1 ใน 10 นโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการให้เห็นผลใน 3 เดือน ” เลขาธิการ สอศ. กล่าว

..............................

(หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจาก www.born2beauty.com และ www.youngmea.com)


 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ