Lifestyle

'อดีตนายกฯอานันท์'ชี้ทางออกการศึกษา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'อดีตนายกฯอานันท์'ชี้ทางออกการศึกษาครูสอน40นาที : โดย...กมลทิพย์ ใบเงิน

               พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ นักเรียน ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน จำนวนมากมายแห่เข้าชมงานนิทรรศการ กิจกรรมหลากหลาย พร้อมฟังการเสวนาทางวิชาการหัวข้อ "ก้าวใหม่การศึกษาไทยสู่ AEC" เมื่อวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2556 ณ อาคารเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์  ชั้น 6 ห้องมินิ เธียเตอร์ ที่โรงเรียนศรีวิกรม์ เนื่องในโอกาสครบรอบ "50 ปี โรงเรียนศรีวิกรม์"

               "โรงเรียนศรีวิกรม์" ก่อตั้งรุ่นคุณพ่อ "เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์" อดีตนักการเมืองน้ำดีชื่อดัง ระดับรองนายกรัฐมนตรี และอดีตกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐตูนิเซีย ประจำประเทศไทย สู่รุ่นคุณแม่ "คุณหญิงศศิมา (วุฑฒินันท์) ศรีวิกรม์" ถูกส่งต่อถึงมือรุ่นลูก คนรุ่นใหม่ไฟแรง "ผศ.พิมล ศรีวิกรม์" และ "อีฟ" ทยา ทีปสุวรรณ บุตรสาวคนเดียว ที่หวนคืนในตำแหน่ง "ผู้จัดการโรงเรียนศรีวิกรม์" คนปัจจุบัน

               ก่อนเสวนาทางวิชาการหัวข้อ "ก้าวใหม่การศึกษาไทยสู่ AEC" จะเริ่มขึ้น "นายอานันท์ ปันยารชุน" อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 18 ของประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานพร้อมปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับทิศทางการศึกษาไทยในอนาคต ใจความตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยน่าสงสารมาก  การศึกษาของไทยก็น่าสงสารมาก เรามีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีความโชคดีด้วยภูมิศาสตร์ แต่เป็นความโชคดีอย่างประหลาด ที่ประเทศไทยไม่มีภัยพิบัติร้ายแรงเหมือนหลายประเทศในโลก ไม่มีพายุทอร์นาโด ไม่มีแผ่นดินไหว อย่างมากก็น้ำท่วม แต่มองลึกๆ แล้วประเทศไทยมีกรรม เพราะ 70-80 ปีที่ผ่านมาไทยเผชิญกับภัยพิบัติที่มาจากคนไทยด้วยกันเอง

               "ประเทศไทยเผชิญกับภัยพิบัติที่เกิดจากคนไทย มานานถึง 70-80 ปี คนไทยสร้างสึนามิทุกๆ วัน เพราะคนไทยไม่สนใจความจริง เชื่อข่าวลือ เล่นพระเครื่อง ไม่ว่าจะจับต้องอะไรก็ผิวเผิน ไม่มีความรู้ลึกลงไปถึงแก่สาร สาระที่สำคัญจริงๆ  ส่วนหนึ่งที่คนไทยเป็นเช่นนี้มาจากพ่อแม่ไม่ส่งเสริมสนับสนุนให้ลูกพูดความจริง พ่อแม่ไม่มีเวลาอบรมสั่งสอนลูก พ่อแม่บางคนก็ทำร้ายลูก ตบตีลูก

               เมื่อเด็กเข้าสู่รั้วโรงเรียนก็เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนเมื่อครั้งเด็กอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ แถมมีรัฐบาลก็มองกระทรวงศึกษาธิการเป็นลูกเมียน้อยเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีศึกษาบ่อยครั้งแถมรัฐมนตรีศึกษาฯยังไม่โดดเด่น ระบบราชการครอบคลุมการศึกษา ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่า คำว่าการศึกษาคืออะไร"

               เหนืออื่นใด อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ปฏิรูปการศึกษามา 20-30 ปีว่าจะให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง แต่ไม่ได้มองและไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าปัญหาการศึกษาอยู่ที่ไหน

               "ผมไม่ใช่นักการศึกษา ไม่รู้เรื่องการศึกษา แต่ผมรับรู้ได้ว่าการเป็นครูที่ดีนั้นเป็นอย่างไร เพราะมีพ่อเคยเป็นครูใหญ่ที่วชิราวุธวิทยาลัย พ่อเป็นครูที่ดีมาก พ่อกลับมาบ้านจะเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ท่านไปพบมา ระหว่างที่เล่าเรื่องราวต่างๆ ก็จะสอดแทรกคำสอนเข้าไว้ด้วย อย่างเช่นพ่อเล่าเรื่องโขน เปิดเพลงให้ฟัง พ่อสอนไม่ให้พูดเท็จ พ่อสอนให้แต่งกายเรียบร้อย สอนให้เคารพคนอื่น รวมถึงเกร็ดความรู้ต่างๆ ค่อยๆ ซึมซับ นี่คือการศึกษาในบ้าน

               แต่น่าเสียดายการปฏิรูปการศึกษาไทยสนใจแต่ฮาร์ดแวร์ ไม่สนใจซอฟต์แวร์ ความจริงโรงเรียนใครจะสร้างก็ได้ ผมอยากจะเห็นสังคมไทยสนทนากันเรื่องการศึกษาไทยจะดีขึ้นมาได้อย่างไร ที่ประเทศอังกฤษซึ่งได้รับการยอมรับว่าจัดการศึกษาดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่วันนี้อังกฤษไม่พอใจการศึกษา อังกฤษต้องการพัฒนาการศึกษาของเขาให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาก็บ่นไม่พอใจการศึกษาและกำลังจะปรับปรุงการศึกษาอเมริกา"

               
ปัญหาการศึกษาไทยไม่พูดความจริง มีก็แต่เรื่องคุณภาพครูแต่พูดเรื่องเงินเดือนน้อยไม่ได้พูดถึงทักษะการสอนของครูดีหรือไม่ แถมยังพูดกันมานานว่าการเรียนการสอนยังเน้นท่องจำทำให้เด็กไทยคิดไม่เป็น

               "เด็กไทยจะคิดเป็นแน่ หากการเรียนการสอนเปลี่ยนให้ครูสอนน้อยลง คาบเรียนละ 40 นาที อีก 20 นาทีครูถามนักเรียนเพื่อปล่อยให้เด็กได้มีเวลาคิดเป็น  ครูควรใช้เวลาในการถามนักเรียนให้มาก เมื่อนักเรียนตอบคำถาม ครูไม่ควรชี้ว่าผิด นักเรียนตอบผิดไม่เป็นไร ครูที่พูดว่าผิดจับเข้าคุกให้หมดหรือให้หยุดสอน 5 ปี เหมือนนักการเมืองที่เว้นวรรค 5 ปีเมื่อทำผิด เพราะครูไม่ควรชี้ผิดถูกแต่ควรทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงที่ดี"

               นายกรัฐมนตรีคนที่ 18 ของไทย ยังตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีที่ไหนในโลกที่กระทรวงศึกษาธิการรับรองหลักสูตรแล้วนักเรียนถึงเรียนรู้ได้ มีไทยนี่แหละ เพราะจนถึงวันนี้ประวัติศาสตร์ 14 ตุลา 2516 ยังเขียนไม่เสร็จ เพราะกระทรวงศึกษาธิการบอกว่าที่ร่างหลักสูตรมาไม่ถูก ความจริงมันอยู่ที่มุมมองว่าคนเขียนอยู่ที่มุมไหนของเหตุการณ์ ดังนั้น ตำราประวัติศาสตร์ไม่ควรมีเล่มเดียว แต่หลากหลายแง่มุม

               "การศึกษาไทยต้องปรับคุณภาพครู ให้ทักษะในการสอน สอนอย่างไรนักเรียนถึงอยากจะมาเรียนแล้วสนุกสนาน สอนเข้าใจง่าย สอนไม่น่าเบื่อ สอนให้นักเรียนคิดเป็น ขณะเดียวกันหลักสูตรต้องมาดูว่าเรียนมากไปมั้ย การบ้านมากไปหรือเปล่า ชั่วโมงเรียนมากไปมั้ย ควรจะจัดกิจกรรมอื่นมาเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ขณะที่พ่อแม่ต้องปฏิรูปตัวเองด้วย ครูต้องสอนน้อยลงปล่อยเวลาให้เด็กได้ซักถามมากขึ้น ผมเชื่อว่าจะเห็นภาพการศึกษาไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น" นายอานันท์ กล่าวทิ้งท้าย

               
.................................

('อดีตนายกฯอานันท์'ชี้ทางออกการศึกษาครูสอน40นาที : โดย...กมลทิพย์ ใบเงิน)

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ