สิ้นใจแล้ว!'ก้าน แก้วสุพรรณ'โรคมะเร็งลำไส้

               หลังจากลูกทุ่งอมตะ "ก้าน แก้วสุพรรณ" หรือนายมงคล หอมระรื่น วัย 74 ปี เจ้าของเพลงดังน้ำตาลก้นแก้ว และรอยไถแปร ล้มป่วยด้วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ ตั้งแต่ปลายปี 2554 และผ่าตัดลำไส้ใหญ่เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2555 อีกทั้งร่างกายผ่ายผอม และเข้ารักษาตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) อ.สามพราน จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา กระทั่งเมื่อเวลา 06.50  วันที่ 6 ตุลาคม นักร้องลูกทุ่งชื่อดังเสียชีวิตลงอย่างสงบ
 
               นางหยก หอมระรื่น วัย 62 ภรรยาของก้าน แก้วสุพรรณ เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของสามีด้วยเสียงเศร้าโศกว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อนในวงการเพลง เช่น ผ่องศรี วรนุช ศิลปินแห่งชาติ กังวานไพร ลูกเพชร สุรชัย-ศรีนวล สมบัติเจริญ และแฟนเพลงมาเยี่ยมจำนวนมาก
 
               "เราเห็นสภาพเขาแล้วรู้สึกทุกข์ใจมากไม่อยากให้เขาเจ็บปวด เขาห่วงเรา เมื่อคืน (5 ต.ค.) ก็นั่งสวดคาถาชินบัญชรให้เขา อยู่ปลายเตียงแล้วก็นั่งสมาธิ เราง่วงก็เลยขยับเปลี่ยนท่า รู้สึกตัวว่าพี่เขามาตบที่ขาบอกว่าไปแล้วนะ เราเลยสะดุ้งมาดูเห็นเขาหายใจติดขัดเลยเรียกลูกสาวมา แล้วเขาก็จากไปแบบสงบ" นางหยกกล่าว
 
               ด้าน น.ส.โชติก หอมระรื่น อายุ 26 ปี ลูกสาว เล่าว่า พ่อรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเมื่อเดือนธันวาคม 2554 หมอบอกให้ทำใจตั้งแต่ตอนนั้น หมอบอกอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน แต่เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2555 ลำไส้ใหญ่แตก ขณะไปร้องเพลงที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งมะเร็งลามไปมากแล้ว ตอนนั้นตัดเฉพาะไส้ที่แตก แต่พ่อได้กำลังใจจากแฟนเพลงจำนวนมากจึงอยู่มาได้ พอมาเข้าโรงพยาบาลรอบนี้ อาการทรงมาเรื่อยๆ กระทั่งมีอาการไอเมื่อ 2-3 คืนที่ผ่านมา มีเสมหะบ้าง หมอก็ให้ยาตามปกติ
 
               "ช่วงเช้ามืดเปิดพระสวดให้พ่อฟัง พอฟังพระจบพ่อก็ไปเลย พ่อไปสบายแล้ว หนูไม่อยากให้พ่อทรมาน โดยวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) ประมาณบ่าย 3 โมง เรียนเชิญทุกท่านร่วมรดน้ำพ่อที่วัดไร่ขิงด้วยนะคะ” น.ส.โชติกกล่าว
 
               ประวัติของก้าน แก้วสุพรรณ หรือ นายมงคล หอมระรื่น เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2482 ที่ ต.สามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี พ่อเป็นชาวสุพรรณบุรี ส่วนแม่เป็นชาวนครชัยศรี มีพี่น้อง 2 คน เป็นคนเล็ก พ่อแม่มีอาชีพทำนา ฐานะทางครอบครัวค่อนข้างยากจน ชีวิตในวัยเด็กเป็นเด็กวัดอยู่กับหลวงพ่อกริ่ง หรือพระครูสุนทรานุกิจ แห่งวัดสามชุก ในขณะเป็นเด็กวัดได้เรียนหนังสือจนจบชั้น ป.4  ที่โรงเรียนวัดสามชุก จบชั้น ม.6 ที่โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย โรงเรียนเดียวกับสุรพล สมบัติเจริญ เมื่อเรียนจบยังไม่มีงานทำ จึงไปเป็นนักมวยอยู่กับคณะ “สิงห์มรกต” ของครูอุ้ย ที่อ.ท่าช้าง จ.สุพรรณบุรี
 
               ต่อมาบวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดสามชุกศึกษาพระธรรมวินัยได้ 4 พรรษา สอบได้นักธรรมโท จากนั้นย้ายมาอยู่ที่วัดปรินายก แถวผ่านฟ้า กรุงเทพฯ สอบได้นักธรรมเอก ที่วัดปรินายก เมื่อสึกจากพระไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จึงตัดสินใจเป็นเด็กวัดอยู่ที่วัดปรินายกต่อ โดยไปสมัครเป็นกระเป๋ารถเมล์ของบริษัทศรีนคร สาย 5  วิ่งระหว่างพาหุรัด-บางซื่อ ยามว่างไปเรียนพิมพ์ดีดเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ที่วัดแก้วฟ้า และถ้าวัดไหนมีการประกวดร้องเพลง จะไปประกวดเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นวัดใต้ วัดเวฬุราชิน วัดอินทร์บางขุนพรหม ส่วนมากจะร้องเพลงของคำรณ สัมบุณนานนท์ ได้รู้จักกับ “วินัย แก้วส่งศรี” นักร้องดังในยุคนั้น  วินัยจึงพาไปหา “คำรณ สัมบุณนานนท์” นักร้องแนวเพื่อชีวิต ที่กำลังมีชื่อเสียงหอมฟุ้งในขณะนั้น คำรณให้ร้องเพลงให้ฟัง พอร้องจบบอกกับวินัยว่า “มันร้องออกจมูก เสียงอย่างนี้อีก 10 ปีก็ไม่ดัง” จึงมุมานะอดทน ฝึกฝน เพื่อที่จะลบคำสบประมาท เป็นนักร้องดังให้ได้
 
               ช่วงนั้น ครู ป. ชื่นประโยชน์ กำลังรับสมัครนักร้อง วินัยก็พาไปสมัคร เมื่อ ครู ป. ดูตัวแล้วบอกให้เขียนที่อยู่ทิ้งไว้ แล้วจะเรียกไปทีหลัง จากนั้นก็กลับไปพักอยู่ที่วัดปรินายก อีกครึ่งเดือนต่อมา ครู ป. มีหนังสือเรียกตัวให้ไปพบ และให้พักอยู่ที่บ้านเรียนรู้เรื่องโน้ตเพลง เรื่องการร้องเพลงจนชำนาญแล้ว ครู ป. แต่งเพลงให้ร้องบันทึกเสียงครั้งแรกในชีวิตชื่อเพลง “คนชาวนา” เมื่อปี 2498  และครูตั้งชื่อให้ว่า “ก้าน แก้วสุพรรณ” นับเป็นนักร้องคนแรกที่เอาชื่อจังหวัดมาตั้งเป็นนามสกุล
 
               ต่อมา ปี 2500 ต่อชัย ภู่ชมพู แต่งเพลงหลงกรุงให้ร้อง ตามด้วยเพลงคำเตือนจากเพื่อนนา ปรากฏว่าเพลงหลงกรุง ดังมาก ทำให้ชื่อของ ก้าน แก้วสุพรรณ เกิดขึ้นในวงการเพลงทันที ต่อมา ปี 2501 ครู ป. แต่งให้ร้องอีกหลายเพลง เช่น แก่งคอย หนุ่มเมืองนนท์ ชาติหน้าถ้ามี จากนั้นปี 2502 ได้ขออนุญาต ครู ป. ตั้งวงดนตรีชื่อ “ประกายดาว” รวบรวมเอานักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ให้มาร่วม อาทิ สุรพล สมบัติเจริญ นักร้องที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ผู้ที่เคยสบประมาทมาอย่าง คำรณ สัมปุณณานนท์ ก็เชิญมาด้วย นอกนั้นยังมี เฉลิม แก้วสมัย, วินัย แก้วส่งศรี ฯลฯ
 
               ทั้งนี้ สุรพล สมบัติเจริญ แต่งเพลงให้ร้อง 5 เพลง  คือ น้ำตาลก้นแก้ว โสนน้อยเรือนงาม รอยไถแปร สาส์นสีโศก และคนปาดตาล ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวง “ประกายดาว” มาเป็นวง “ก้าน แก้วสุพรรณ” เดินสายรับงานทั่วประเทศอยู่ประมาณ 10 ปี  หลังจากที่ สุรพล  สมบัติเจริญ เพื่อนรักถูกลอบยิงเสียชีวิตในปี 2511  ก้าน แก้วสุพรรณ  มีความรู้สึกหดหู่ใจ จึงค่อยๆ หายไปจากวงการ และเลิกวงไปในที่สุด แต่ยังรับใช้แฟนเพลงด้วยการรับเชิญไปร้องตามงานต่าง ๆ อยู่ไม่ขาด ที่ผ่านมา มีผลงานเพลงโด่งดังมากมาย อาทิ  น้ำตาลก้นแก้ว แก่งคอย เพราะขอบรั้วกั้น หนุ่มเมืองนนท์ รอยไถแปร โสนน้อยเรือนงาม  สาส์นสีโศก สวรรค์ชาวนา บางพลัด บางซ่อน บ้านแพน แม่ชบาไพร กระท่อมดวงใจ อกหักเพราะรักคุณ ลาแล้วแก้วตา หลงกรุง แก่งหลวง สาวบ้านสร้าง ฯลฯ