คอลัมน์ ทีวีสีรุ้ง : ครึ่งๆ กลางๆ

          ลาจอไปแล้วพร้อมๆ ความรักอันอบอวลของ อาทิจ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) กับ น้องณี ("ญาญ่า" อุรัสยา เสปอร์บันด์) ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาสุดลูกหูลูกตา
 
          ผู้เขียนกำลังเขียนถึงละครรีเมกเรื่อง ธรณีนี่นี้ใครครอง ที่มี "ป้าแจ๋ว" ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ รับหน้าที่ผู้กำกับการแสดง โดยผู้จัดคนดังที่การันตีถึงคุณภาพ "แหม่ม" ธิติมา สังขพิทักษ์  ซึ่งเป็นความคาดหวังของช่อง 3 ที่ถูกจับตามองมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง เนื่องเพราะมีต้นทุนแห่งความสำเร็จเมื่ออดีต สมัยที่ แอนดริว เกร็กสัน กับ "ป๊อก" ปิยธิดา วรมุสิก แสดงเอาไว้ได้ดีเหลือเกิน ภาพจำของทั้งคู่จึงติดตาตรึงใจไม่รู้ลืม
 
          การเปิดตัวของเวอร์ชั่นนี้ คล้ายๆ ว่าจะสะดุด ติดขัดอยู่บ้าง เริ่มตั้งแต่การตีความให้ตัวละครอย่าง น้องณี หรือดรุณี ดูมีจริตจนเกินความน่ารัก ห่างไกลความน่าสงสารเหมือนอย่างที่ป๊อก เคยแสดงเอาไว้ จนสามารถทำให้คนดูเอาใจช่วยตัวละครตัวนี้ในยุคก่อน
 
          ทว่า ญาญ่า ผู้สวมบทนี้ในปี 2012 ในช่วงต้น กลับทำให้ดูน่าหมั่นไส้ คิดเล่นๆ ว่า หากไม่ใช่ญาญ่า ที่มีผู้คนรักทั้งประเทศ ตัวละครตัวนี้อาจโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงกว่านี้ ไล่เรียงมาถึงบทคุณย่าแดง โดย "ตุ๊ก" ดวงตา ตุงคะมณี ที่ดูอายุจะอ่อนด้อยไปกว่าบทนี้ ทำให้บทระหว่างย่า-หลาน ยังดูประดักประเดิด ไม่ลื่นไหล ดูยังไงก็ไม่นำพาให้คล้อยตาม
 
          รวมไปถึง "บท" ในช่วงต้นเรื่อง จะดูจงใจยัดเยียดให้คำพูดของย่าที่เป็นคติแง่คิดต่างๆ นานา ที่พยายามจะให้ลึกซึ้งกินใจ บางครั้งมากเกินไป จนทำให้ขาดความเป็นธรรมชาติไปอย่างน่าเสียดาย
 
          นักแสดงถัดจากพระ-นาง คุณย่า และน้าแก้ว ("ท็อป" ดารณีนุช โพธิปิติ) แล้ว นักแสดงแวดล้อมคนอื่นๆ ไม่มีใครโดดเด่นสักเท่าไหร่
 
          ละครดำเนินมาถึงกลางเรื่อง เมื่อน้องณีเติบใหญ่ วิธีคิดเปลี่ยน ในขณะที่พี่อาทิจสามารถพิสูจน์ตัวเองถึงความจริงใจ และขยันขันแข็ง พร้อมฉายความดีงามที่อยู่ในตัวออกมาประจักษ์กับทุกคน ทำให้น้องณีเริ่มมองเห็น จากความเกลียดชัง กลับกลายเป็นความรักในที่สุด
 
          มาถึงตอนนี้ เคมีของ ณเดชน์-ญาญ่า เริ่มทำงาน และทำหน้าที่ไล่เรื่อยไปถึงตอนจบ ความน่ารัก สดใสของทั้งคู่ทำให้คนดูเผลอยิ้ม หลุดหัวเราะ แอบเขินไปกับฉากเข้าพระเข้านางของทั้งคู่ไปโดยไม่รู้ตัว
 
          ผสมผสานกับโลเกชั่นอันงดงามของเมืองไทย ทั้งไร่ส้ม ที่นักแสดงและทีมงาน เดินทางไปถ่ายทำกันถึง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ไร่สตรอเบอร์รี่ ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ส่วนไร่กะหล่ำปลีที่เห็นไปถ่ายที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ขณะที่นาข้าว ถ่ายที่หุบเมย จ.นครนายก และแม่กลางหลวง ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
 
          ความงดงามเหล่านี้ ได้เป็นแซ่โบยตีให้ได้หวนคิดว่า ในเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต สมควรอย่างยิ่งที่จะไปเยือนมากไปกว่าการคิดหาหนทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นไหนๆ  
 
          ธรณีนี่นี้ใครครอง เวอร์ชั่น 2012 อาจดูขาดๆ เกินๆ ในช่วงแรกๆ หากพอจะกลับลำทันได้บ้างในช่วงกลางและท้ายเรื่อง จนส่งพาให้ละครอวสานไปแล้ว ทว่าอาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับคนดูที่อาจจะคาดหวังสำหรับเรื่องนี้มากไปสักหน่อย 
.......................................
(หมายเหตุ ครึ่งๆ กลางๆ : คอลัมน์ ทีวีสีรุ้ง โดย... ณัฐวรา)