
เปิดใจ "พ.ต.อ.ภาคภูมิ" ดับเครื่องชนแฉ "บิ๊กโจ๊ก" ลั่นละครฉากนี้ใกล้จบแล้ว
ทรยศ 40 ครั้งก็ไม่ลังเล! พ.ต.อ.ภาคภูมิ ยอมเปิดหน้าท้าชน "บิ๊กโจ๊ก" สงสารน้องๆถูกบีบรับผิดแทน ทำลายครอบครัว จับตา 5 ม.ค. แถลงข่าวใหญ่
กรณีดำเนินคดีทองคำแท่ง 246 บาท ที่ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก หรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. ออกมาเปิดโปงว่ามีการแอบจ่ายสินบนให้ 1 ในกรรมการ ป.ป.ช.
ล่าสุด พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย อดีตรองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และอดีตลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก ออกมายอมรับว่า สาเหตุการออกมาเปิดหน้าครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ เรื่อง ที่เห็นน้องๆ ต่างได้รับความเดือดร้อน เพราะถูกบังคับให้รับผิดแทน ทำให้ครอบครัวของเขาได้รับผลกระทบและได้รับความลำบาก
พร้อมทั้งพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงในคลิปที่นำไปมอบให้กับตำรวจ เพื่อให้ตัวผมเองเป็นผู้กระทำความผิด และคลิปในคดีอื่นๆ หลายคดีที่พี่น้องตำรวจต้องถูกดำเนินคดีด้วยกันและต้องแบกรับในสิ่งที่เขาไม่ได้กระทำ ซึ่งมีผลต่อครอบครัว จึงเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ออกมาในวันนี้
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่า ออกมาเพื่อแลกกับการกลับมารับราชการในอาชีพตำรวจอีกครั้ง พ.ต.อ.ภาคภูมิ ระบุว่า ถ้าจำได้ ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ ตนเองเคยทำหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาตนเองออกจากราชการ เพราะตอนนั้นยังอยู่ในราชการอยู่ เพื่อให้ตนออกมาต่อสู้ ในฐานะประชาชนคนหนึ่งได้อย่างเต็มตัว แต่ติดที่ตนเองมีคดีวินัย ซึ่งเป็นคดีอาญา ไม่สามารถลาออกได้ ก่อนจะถูกไล่ออกออกจากราชการ
ถ้าสังเกตที่ผ่านมาตนเองไม่เคยออกไปเรียกร้องที่ไหน มีแต่ต่อสู้ทั้งคดีอาญาและคดีวินัย เพื่อให้ตนเองได้กลับเข้ามารับราชการ การไปฟ้องร้องอะไรต่างๆ คนที่มีพฤติกรรมนั้น ท่านคงเห็นอยู่แล้วว่าเป็นใคร
ส่วนกรณีที่มีลูกน้อง เคยถูกทำร้ายนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวว่า เรื่องนี้คนที่ถูกกระทำเช่นนั้น คงเข้าไปให้การแล้ว ส่วนตัวไม่ขอเปิดเผย เพราะว่าตอนนี้พยานในคดีต่างๆ ถูกรบกวน ซึ่งมันเป็นอันตรายหรือทำให้เสียรูปคดี แต่ตนเองขอยืนยันว่าเคยเห็นบางเหตุการณ์และมีพยานอื่นๆ เห็นในบางเหตุการณ์จริง ยืนยันมีการทำร้ายจริงๆ
"วันนี้หลายคนกลัว ที่ผ่านมาไม่กล้าออกมากัน แต่วันนี้ตนเองตัดสินใจออกมา ก็เพราะสงสารน้องๆ เหล่านั้น ผมเอาชนะความกลัวด้วยความกล้า จะเอาชนะความเท็จด้วยความจริง ต่อสู้อย่างเปิดเผย เพื่อเอาชนะวิธีสกปรก"
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ยอมรับ ในวันที่เดินออกมา รู้อยู่แล้วว่าต้องเผชิญอะไร ก่อนหน้านี้ 2 วัน ก็มีการพยายามติดต่อมาทางคนที่รู้จักว่าอยากคุย อยากพบเจอ พอเราตัดขาดการติดต่อไป ก็เริ่มมีไอโอเข้ามาทำลายพ่อแม่ผม ครอบครัวผม แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกินความคาดหมายว่า จะต้องเจอ แต่ถ้าวันนี้ไม่ออกมาพูดความจริง ขบวนการนี้และวิธีการนี้ก็ยังคงอยู่ ก็ยังทำลายคนอยู่ตลอดเวลา ยืนยันตไม่ได้ขายนาย แต่ต้องทำเพื่อน้องๆ เพื่อตำรวจส่วนรวมและองค์กร
"ถ้าต้องถูกว่า ขายนายหรือทรยศหักหลัง ถ้าการพูดความจริงแล้วมันทำให้คนอื่นได้รับความเป็นธรรม หรือให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมต่างๆ ที่ต้องทนรับมาเป็นเวลา 10 ปี ให้ทรยศอีก 40 ครั้ง ก็ไม่ลังเล"
ส่วนความปลอดภัยของน้องๆ ที่ออกมาในวันนี้ บางคนได้รับการดูแลคุ้มครองแล้ว แต่สำหรับตน ตนไม่กลัว พร้อมฝากบอกว่า "ท่านคงรู้ว่าสิ่งไหนจริงหรือสิ่งไหนเท็จ ผมว่าละครเรื่องนี้ ฉากใกล้จะจบแล้ว สุดท้ายมันหนีความจริงไม่พ้น"
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่บิ๊กโจ๊กออกมาบอกว่าเสียความรู้สึกนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ บอกว่า ตนเองไม่ได้โกรธและยังเคารพในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา สิ่งที่เคยสนับสนุนต่างๆ ตนเองยังรำลึกในบุญคุณ แต่ก็ต้องแยกแยะ ท่านต้องทราบว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองได้ทำอะไรได้ให้บ้าง ผลงานที่ท่านพูดถึง มีคดีไหนหรือเรื่องไหน ที่ตนเองไม่ได้ทำ ต้องแยกแยะระหว่างบุญคุณกับความถูกต้อง
ส่วนรายละเอียดทางคดี หรือเอกสารต่างๆ ที่นำมามอบให้กับทางตำรวจ ขอให้รอแถลงใหญ่ในวันที่ 5 ม.ค.2569 ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะมีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุต่างๆ ที่จะต้องรวบรวม โดยตอนนี้มันการข่มขู่พยานและทำลายพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานของพนักงานสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่หลังจากวันที่ 5 ม.ค.นี้ จะมีความชัดเจนทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ต้องห่วง เพราะความจริงจะต้องถูกเปิดเผย รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างบิ๊กโจ๊กกับ ป.ป.ช. ด้วย พร้อมมั่นใจทุกอย่างเป็นเรื่องจริงและสามารถเอาผิดได้แน่นอน
ส่วนคดีเว็บพนัน ซึ่งเป็นคดีเก่า เชื่อว่าตำรวจกำลังหาความจริง แต่ไม่ได้เชื่อมโยงกับคดีทอง เป็นคนละกรรม ตนเองมีหน้าที่นำพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่รู้และเห็นไปให้กับคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ทำงานกันก่อน คาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 เดือน



