ลงนามหยุดยิง แต่กัมพูชาไม่หยุดป่วน ส่งโดรนกว่า 250 ลำ ล้ำแดนไทย
กัมพูชาส่งฝูงโดรนกว่า 250 ลำ บินละเมิดอธิปไตยรุกล้ำ 3 จ.ชายแดน เมินข้อตกลงหยุดยิง GBC ด้านโฆษก ทบ. ชี้ยั่วยุ ปฏิปักษ์ชัดเจน จ่อทบทวนการปล่อยตัว 18 เชลยศึก
กรณีกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ฝ่ายกัมพูชาบินอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ล้ำแดนเข้ามาอธิปไตยไทย จำนวนกว่า 250 ลำ โดยเฉพาะพื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี เขาสัตตะโสม จ.ศรีสะเกษ ช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์ อาจเป็นการกระทำยั่วยุและละเมิดมาตรการความตึงเครียดของถ้อยแถลงร่วมฯ จากผลการประชุม GBC
29 ธ.ค. 2568 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ถือว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีการยั่วยุและมีเจตนาที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อฝ่ายไทย จึงอาจจำเป็นต้องพิจารณามาตรการตอบโต้ เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนบริเวณชายแดน และรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน รวมทั้ง อาจมีความจำเป็นที่จะทบทวนการปล่อยตัว 18 เชลยศึก
เนื่องจากท่าทีและการกระทำของฝ่ายกัมพูชาในวันแรกที่มีข้อตกลงหยุดยิง ขณะนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าติดตาม ปัจจุบันผ่านมา 48 ชั่วโมง เราจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีสิ่งใดที่ผิดไปจากความปกติ จะชี้แจงต่อไป
ในขณะที่ช่วงเวลาเฝ้าระวัง 72 ชั่วโมงกำลังจะครบกำหนดในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า กำลังพลของไทยยังคงตรึงพื้นที่เพื่อสถาปนาความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญความยากลำบากจากปัญหาทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางไว้เป็นจำนวนมากในพื้นที่ควบคุมก็ตาม กำลังพลยังไม่มีการปรับเข้าและปรับออก เพราะเรามีภารกิจความมั่นคงที่จะต้องทำต่อไป
ส่วนการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพเช้าวันนี้ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการการทหารสูงสุด ได้กล่าวสดุดีและแสดงความเสียใจกับกำลังพลที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมได้ให้กำลังใจ และได้พูดถึงความเป็นปึกแผ่นของการประสานงานกันอย่างลงตัวของผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ ผบ.ตร. พร้อมขอให้คงความสัมพันธ์ สามารถเกื้อกูลกันในเรื่องงานประเทศชาติเป็นอย่างดี
เมื่อถามว่า กองทัพบกได้รายงานสิ่งใดหรือไม่ โฆษก ทบ. กล่าวว่า ไม่มีรายงานพิเศษ เพราะได้ตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร. รับรู้สถานการณ์ตลอดเวลา และยังไม่มีการสรุปผลการปฏิบัติงานช่วง 20 วันที่ผ่านมา