
"บิ๊กเต่า" เผยแจ้งข้อหา "บิ๊กโจ๊ก" คดีหมิ่นประมาท พูดทำองค์กรตำรวจเสียหายหนัก
"บิ๊กเต่า" เผยแจ้งหมิ่นฯ "บิ๊กโจ๊ก" ชี้คำพูด "ตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรม" ทำเสียหายหนัก ขอบคุณช่วยแฉ แต่ขอข้อเท็จจริง เพราะไม่เลี้ยงตร.เกเรอยู่แล้ว
กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อชี้แจงหลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบอำนาจให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ แจ้งความร้องทุกข์ความผิดฐานหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2 ธ.ค. 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานในการถอดเทปคำสัมภาษณ์ โดยบิ๊กโจ๊กได้มาแสดงตัวและให้ข้อมูล จากข้อมูลเบื้องต้นให้การปฏิเสธในเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้จึงมีการสอบปากคำและมีการแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่ได้ออกหมายเรียก
ส่วนคดีหมิ่นประมาทมีการดำเนินคดีกับบิ๊กโจ๊กเป็นรูปแบบไหนหรือคำพูดไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เป็นคลิปแรกที่เกิดขึ้นในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง วันนั้นบิ๊กโจ๊กไปพูดในรายการแรกและพูดว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรม โดยไม่มีการย่อส่วนว่าเป็นกลุ่มของสอท. หรืออะไร ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จริงๆ ต้องขอบคุณบิ๊กโจ๊กที่นำเรื่องของตำรวจที่ประพฤติไม่ดีไม่ชอบให้ประชาชนรับทราบ ทางเราไม่ได้นิ่งใจได้ดำเนินการไปตามระเบียบและขั้นตอน
ตนอยากให้บิ๊กโจ๊กกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำมาอีก เพื่อจะได้ดำเนินการกับตำรวจที่ประพฤติไม่ดี ประพฤติไม่ชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันใครที่ทำผิด ใครที่ออกนอกกฎเกณฑ์กติกาให้ดำเนินคดีทุกคน เอาออกจากราชการให้หมด และเน้นย้ำมาที่บก.ปปป.ด้วย
ส่วนที่มีคำกล่าวพาดพิงถึงคนที่เคยปรามาส เรื่องตั๋วช้าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ตนเคยชี้แจงไปแล้ว การที่ถูกปรามาสเกี่ยวกับเรื่องตั๋วช้าง ในยุค คสช. มีการแต่งตั้งกัน ตัวผมเองยืนยันไม่ได้เป็นเด็กผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือเด็กของใคร ได้จากการทำงานของผู้ใหญ่ที่สนับสนุนให้ขึ้นตำแหน่ง ตัวเองเป็นสารวัตร 11 ปี เป็นรองผู้กำกับอีก 7 ปี มีแค่ตอนเป็นผู้บังคับการได้พาสมา 2 ปี ซึ่งเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเรื่องการแต่งตั้ง มีแต่ผู้ใหญ่โทรมาบอกว่า จะให้ตนเองเป็นผู้การ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ครบหลักเกณฑ์ ตัวเองทราบเพียงว่าจะได้รับการแต่งตั้ง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า ไม่ใช่เด็กของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผบ.ตร. และไม่เคยทำงานรับใช้ ตำรวจทุกคนได้ใครเป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องทำงานเหมือนกัน เราเป็นตำรวจด้วยจิตวิญญาณและหน้าที่ เมื่อใครเป็นใหญ่เราก็ทำงานให้ เราไม่แบ่งแยกว่าไม่ชอบ ผบ.คนนี้ เราไม่ทำ เราทำด้วยเราเป็นตำรวจจริงๆ
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งเป็นรองโฆษก ตร. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ไม่มีนัยยะสำคัญ พร้อมให้ความมั่นใจว่า เราสามารถที่จะตอบสื่อสังคมได้ว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับการที่กลุ่มที่ไม่หวังดีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาให้ข้อมูล อันไหนเป็นข้อเท็จจริงหรืออันไหนเป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง วันนี้จึงอยากมาตอบคำถามเรื่องจริง เราไม่นำเรื่องที่เป็นการใส่ความให้ร้าย เดี๋ยวสังคมจะไขว้เขว ให้พูดตามข้อเท็จจริง ตามพยานหลักฐาน ส่วนข้อมูลที่บิดเบือนจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานถอดเทปดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ที่บิดเบือนทุกคดี ย้ำแต่งตั้งเป็นรองโฆษก ตร. ไม่เคยคิดว่าหนักใจ เพราะเราทำงานอยู่บนพื้นฐานหลักการและกฎหมายอยู่แล้ว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชาต่างๆ จะมาสั่งให้เราบิดเบือนข้อเท็จจริงก็คงไม่ใช่
"เราจะไม่เลี้ยงตำรวจที่เกเร อยากให้พวกนี้ออกไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ เปรียบเทียบว่ามีฝุ่นละออง มีสัตว์ร้าย มีสัตว์พิษเข้ามาอยู่ สิ่งที่เราต้องจัดการคือ เราต้องจัดการสิ่งเหล่านี้ให้ออกจากบ้านหลังนี้ไป เราไม่เลี้ยงพวกนี้ไว้เพราะเป็นสัตว์ร้าย การที่เราดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พวกเราบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนเหมือนกัน ยืนยันว่าที่นี่ไม่มีคนรวย คนจน ไม่มีคนมีเส้น ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย"
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่า ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีทั้งคนดีและคนไม่ดี อยากจะจัดการกับตำรวจที่ไม่ดีเหล่านี้อยู่แล้ว เราไม่ได้โกรธเคืองหรือตำหนิบิ๊กโจ๊ก เราเห็นด้วยกับการนำข้อมูลมา ยิ่งนำมาให้มากยิ่งดียิ่งมีพยานหลักฐานยิ่งดีจะได้ดำเนินคดีไปเลย จะต้องเรียนไปยังท่านหากมีข้อมูลก็นำมาอีก แต่ขอร้องอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าเป็นข้อมูลที่เป็นความลับที่จะเกิดความเสียหายกับคนอื่นอย่านำไปเผยแพร่ ให้ดำเนินคดีหรือแจ้งความดำเนินคดีเลย
ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชาทุกท่านจะดำเนินคดีกับตำรวจที่กระทำผิดพวกนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่อยากที่จะมาตอบโต้กับบิ๊กโจ๊กหรือนายอัจฉริยะ แต่อยากมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ทางพวกเราพยายามตรวจสอบข้อมูลการสัมภาษณ์ต่างๆ ทุกเรื่อง ตรวจสอบแล้วยืนยันว่า เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหลายเรื่อง ซึ่งจะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ คนที่ได้รับความเสียหายจะไปแจ้งที่โรงพักท้องที่หรือที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางต่อไป
ถามต่อถึงกรณีแชทหลุดที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์และนายอัจฉริยะอ้างว่า เป็นแชทสนทนาของผบ.ตร. เกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า เรื่องนี้เราตรวจสอบอยู่ นาฬิกาที่อยู่ในภาพกับภาพที่อัจฉริยะนำมาเป็นคนละรุ่นกัน โปรไฟล์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกับโปรไฟล์ที่นายอัจฉริยะนำมาเป็นคนละโปรไฟล์กัน ให้สังเกตภาพหลวงปู่ทวดเต็มองค์ ส่วนของปลอมหลวงปู่ทวดมีระยะห่าง ให้สังเกตดูได้
ส่วนข้อเท็จจริงที่นำมาเปิดเผยจะมีข้อมูลมากจริงน้อยแค่ไหนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ทั้งนี้จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาทุกเรื่องที่มีการร้องเรียน ทั้งเรื่องการตั้งด่าน เรื่องตำรวจภูธรภาค 8 มีการวิ่งเต้น รวบถึงภาค 4 ภาค 2 ทางจเรตำรวจแห่งชาติได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกกองบัญชาการ หากมีหรือพบให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามถึงแชทที่มีข้อมูลอยู่ในขณะนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่ามีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ส่วนจะต้องนำเข้าไปตรวจสอบทางคอมพิวเตอร์หรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นพอจะทราบแหล่งที่มาแล้วว่ามาจากไหน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันทุกสิ่งทุกอย่างทุกคลิปทุกการให้สัมภาษณ์มีการตรวจสอบ คงไม่ปล่อยให้สิ่งพวกนี้มาทำลายองค์กรเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษาองค์กรไว้ ใครที่กล่าวหาองค์กรโดยไม่มีพยานหลักฐานจะดำเนินคดีทุกเรื่อง
เราไม่ได้เปิดหน้า หรือโจมตี บ่อนทำร้าย หรือขัดแย้งกับบิ๊กโจ๊ก เรากำลังขอบคุณบิ๊กโจ๊กกับนายอัจฉริยะที่นำข้อมูลของตำรวจมาเปิดเผย อยากจะให้ท่านมาช่วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบปรามตำรวจไม่ดีมากกว่า
เมื่อถามว่าหากในอนาคตถูกโจมตีกลับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ให้มาแจ้งความดำเนินคดีเลย อย่าเอาไปพูดให้เกิดความเสียหาย การพูดให้เกิดความเสียหายจึงอยากจะขอความร่วมมือทั้งบิ๊กโจ๊กและนายอัจฉริยะ ทั้งสองคนก็เคยทำงานร่วมกันมาไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ ช่วยกันปัดกวาดบ้านนี้ด้วย เราจะให้ความร่วมมือหากนำข้อมูลและข้อเท็จจริงมา



