ข่าว

อดีต กตช.ชี้ ตำรวจน้ำดี คือ ราชสีห์ นำทัพปราบทุนเทา สแกมเมอร์ พลิกวิกฤติ

อดีต กตช.ชี้ ตำรวจน้ำดี คือ ราชสีห์ นำทัพปราบทุนเทา สแกมเมอร์ พลิกวิกฤติ

22 พ.ย. 2568

"นพดล กรรณิการ์"เปรียบ ผบ.ตร. เป็นผู้นำแบบราชสีห์ ไม่หวั่นไหวเสียงปั่น แนะสังคมยืนข้างความถูกต้อง สั่งทุกโรงพักลุยปราบสแกมเมอร์ ทุนเทา อาชญากรรมออนไลน์

21 พ.ย. 2568 ดร.นพดล กรรณิกา อดีตกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาชน 2567 อดีตอนุกรรมการและหัวหน้าคณะทำงานชุดสำรวจความคิดเห็นพัฒนาระบบงานตำรวจ ชุดพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจ 2550 เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติตกเป็นเป้าการโจมตี แต่พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ยังคงยืนมั่นคงบนหลักการเดิม คือ ไม่รับผลประโยชน์ ไม่ละเว้นแม้เป็นเพื่อน และไม่ตัดสินใครตามกระแส แต่ตัดสินบนหลักฐาน กฎหมาย และความเป็นธรรมเท่านั้น


ซึ่งจุดยืนที่หนักแน่นนี้ ทำให้เห็น “ภาวะผู้นำแบบราชสีห์” ของตำรวจน้ำดี—ผู้ไม่หวั่นไหวต่อเสียงวิจารณ์ที่ว่างเปล่า ผู้ไม่เสียเวลาให้กับ “ผู้ปั่นลมปาก” ที่กำลังหนีเงาแห่งความจริงของตนเอง แต่พร้อมรับฟังข้อมูลจากผู้เปิดโปงด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ความจริงเป็นตัวนำทางการตัดสินใจ

การยืนหยัดของ ผบ.ตร. ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว แต่ตั้งอยู่บนนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ประกาศชัดเจนว่า “รัฐบาลจะทำสงครามกับแก๊งสแกมเมอร์ ทุนเทา และเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ”

 

อดีต กตช.ชี้ ตำรวจน้ำดี คือ ราชสีห์ นำทัพปราบทุนเทา สแกมเมอร์ พลิกวิกฤติ
ผบ.ตร. จึงออกคำสั่งเร่งด่วนที่สุดไปยังทุกกองบัญชาการ และทั้ง 1,484 สถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อเดินหน้าปฏิบัติการในทิศทางเดียวกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินยุทธศาสตร์เดียวกันแบบ 100%

 

ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2565 ก่อนที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เข้ามารับหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปราบมิจฉาชีพแก๊งคอลเซนเตอร์ ประเทศไทยเผชิญสถานการณ์ที่ประชาชนสูญเสียเงินจากมิจฉาชีพออนไลน์ในระดับที่ถือว่าวิกฤติและต่อเนื่องทุกวัน แต่เมื่อศูนย์ปฏิบัติการถูกขับเคลื่อนอย่างจริงจังภายใต้การกำกับของท่าน ผลลัพธ์ก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ภายในเวลาไม่นาน

สถานการณ์ที่เคยสร้างความเสียหายรุนแรงแก่ประชาชนกลับถูก “ดึงลง” อย่างเป็นระบบ การทำงานแบบเชื่อมโยงทุกหน่วย—ตั้งแต่การสกัดเส้นทางการเงิน การประสานงานกับธนาคาร การติดตามตัวคนร้าย ไปจนถึงการทำงานเชิงรุกบนโลกออนไลน์—ทำให้แนวโน้มความสูญเสียจากอาชญากรรมออนไลน์ค่อย ๆ ลดระดับลงอย่างต่อเนื่องเห็นได้ชัดว่า สถานการณ์ที่เคยลุกลามจนถึงขั้นประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบหนัก ได้ถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่จัดการได้ และส่งผลให้คนไทยจำนวนมากปลอดภัยขึ้นอย่างแท้จริง  นี่คือหลักฐานว่า “นโยบายที่ทำจริง” สามารถเปลี่ยนแปลงปัญหาใหญ่ระดับประเทศได้ ไม่ใช่ด้วยคำประกาศ แต่ด้วยระบบงาน ความทุ่มเท และภาวะผู้นำเชิงยุทธศาสตร์อย่างแท้จริง

 

อดีต กตช. กล่าวอีกว่า นโยบายของรัฐบาลและของ ผบ.ตร. ไม่ได้หยุดแค่คำสั่ง แต่ลงไปเกิดผลจริงในพื้นที่ ตัวอย่างชัดเจนคือ สถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม บก.น.9 ที่สามารถ จับทุนจีนเทา–ทุนไทยเทา มูลค่าเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท และ คืนเงินให้เหยื่อได้หลายรายภายใน 2 เดือน ทำให้ ตำรวจฮ่องกงบินตรงมาดูงานที่ สน.เพชรเกษม  ถือเป็นสัญญาณว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นต้นแบบการปราบอาชญากรรมออนไลน์แห่งเอเชีย ซึ่งผลงานนี้ไม่เพียงเป็นความสำเร็จของตำรวจไทยเพียงสถานีเดียว แต่ยังมีผลงานปรากฏเป็นรูปธรรมในอีกหลายสถานีทั่วประเทศของทุกกองบัญชาการ

 

นอกจากนี้ยังมีผลงานระดับยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนทั้งระบบพร้อมกันครั้งใหญ่ที่สุดในยุคดิจิทัล ทุกภาคส่วนถูกบูรณาการเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายเดียวกัน นี่คือการ “เคลื่อนพลระดับชาติ” ครั้งจริงจังที่สุดในสงครามอาชญากรรมยุคดิจิทัล


แสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์เชิงนโยบายของภารกิจงานตำรวจได้ ผ่านทางแบบสอบถามตาม ลิงก์แนบนี้ https://www.research.net/r/Scammer_War
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา [email protected]   หรือ   [email protected]