ข่าว

ศาลฎีกาพิพากษากลับ "ทักษิณ" แพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ป  เรียกเก็บ 1.76 หมื่นล้าน

ศาลฎีกาพิพากษากลับ "ทักษิณ" แพ้คดีภาษีหุ้นชินคอร์ป เรียกเก็บ 1.76 หมื่นล้าน

17 พ.ย. 2568

ศาลฎีกาพิพากษากลับยกฟ้อง กรมสรรพากรมีอำนาจเรียกเก็บภาษีชินคอร์ป 1.76 หมื่นล้านบาทจาก "ทักษิณ" ให้โอ๊ค-เอม ถือหุ้น รัฐเก็บภาษีไม่ได้ ชี้เป็น "ผู้มีเงินได้ที่แท้จริง"

17 พ.ย. 2568 ที่ศาลภาษีอากร ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร (โจทก์) ยื่นฟ้อง กรมสรรพากร (จำเลยที่ 1) ,นายพงษ์ศักดิ์ เมธาพิพัฒน์ (จำเลยที่ 2) ,นายประภาส สนั่นศิลป์ (จำเลยที่ 3) และ นายพิสิทธิ์ ศรีวรานันท์ (จำเลยที่ 4) 


ขอให้ศาลภาษีอากรกลางเพิกถอนการประเมินตามหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.12) เลขที่ ภงด.12-03025250-25600328-001-00005 ลงวันที่ 28 มี.ค.2560 ที่แจ้งให้ นายทักษิณ จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นเงิน 1.76 หมื่นล้านบาท (ภาษี ,เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม) ให้กับกรมสรรพากร
 

ต่อมาศาลภาษีอากรกลาง มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ภ 220/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ภ 109/2565 ลงวันที่ 18 ก.ค.2565 พิพากษาเพิกถอนการประเมินตามหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาฯ (ภ.ง.ด.12) เนื่องจากเจ้าพนักงานประเมินกรมสรรพากร มิได้ออกหมายเรียกตรวจสอบโจทก์ (นายทักษิณ) ตามมาตรา 19 แห่งประมวลรัษฎากร ในฐานะตัวการ การออกหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาฯ (ภ.ง.ด.12) จึงเป็นการดำเนินการโดยไม่ชอบ


จากนั้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2566  ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษแผนกคดีภาษีอากร มีคำพิพากษา ที่ 2819/2566 พิพากษายืนตามศาลภาษีอากรกลาง 
 

โดยศาลฎีกาพิจารณาเเล้ว สรุปว่า  เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การที่โจทก์ปกปิดการถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ของตนโดยให้บุคคลอื่นรวมถึงนายพานทองเเท้ และนางสาวพินทองทา ถือหุ้นแทน เพราะโจทก์ประสงค์ที่จะเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองที่ กฎหมายห้ามมิให้โจทก์ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำขึ้นเพื่อ วัตถุประสงค์ที่ขาดคุณธรรมทางภาษีและไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายภาษีอากร ในการจัดเก็บภาษีอากร 

 

ส่งผลให้รัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้องและแน่นอนตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมาย ทั้งเป็นธุรกรรมที่ไม่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจนอกเหนือจากการหาประโยชน์อื่นรวมถึงภาษีเงินได้และเป็นธุรกรรมที่ทำขึ้น เพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย อย่างร้ายแรง กรณีจึงไม่มีเหตุงดและลดเบี้ยปรับและเงินเพิ่มแก่โจทก์ ส่วนประเด็นอื่น ไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงพิพากษากลับให้ ยกฟ้องโจทก์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อศาลฎีกาได้พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์ คดีที่นายทักษิณ ชินวัตร โจทก์ยื่นฟ้องคดีทางแพ่ง กรมสรรพากร จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 4 คน เรื่องภาษีอากร จึงมีผลให้นายทักษิณ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งเรียกเก็บภาษีของกรมสรรพากรตามขั้นตอนกว่า 1.76 หมื่นล้านบาท