
"สันธนะ" เตรียมลงสนามการเมือง ท้าเจอ "เน-หนู" จับตาแฉนายพล เอี่ยวส่วย
"สันธนะ" ท้า "เน-หนู" พบกันบนเส้นทางการเมืองหลังจบคดีอั้งยี่แบะอุ้มรีดทรัพย์ พร้อมเตรียมแฉนายพลใครบ้างเอี่ยวรับส่วย
ภายหลังจากเมื่อวานนี้ (13 พ.ย. 2568) ตำรวจบุกจับกุมนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ในข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร และร่วมกันอุ้มรีดทรัพย์ชาวไต้หวัน เมื่อปี 2564
วันนี้ 14 พ.ย. 2568 เวลา 08:15 น. นายสันธนะ เปิดเผยระหว่าง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ คุมตัวส่งมอบให้อัยการ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลในวันนี้ เจ้าตัวยืนยันว่า "ไม่ได้ดีด แต่เป็นความรักลูกน้อง" พร้อมมองว่า เป็นการขุดคดีเก่าขึ้นมาเพื่อกลั่นแกล้งและไม่ยุติธรรม ยืนยันว่า ไม่ผิดและถูกทำให้เสียอิสรภาพ พร้อมระบุว่าไม่ห่วงชื่อเสียง แต่ห่วงความถูกต้อง
ส่วนกระแสข่าว มีนายตำรวจยศ "พลตำรวจเอก" โทรศัพท์พูดคุยก่อนการจับกุม นายสันธนะ ระบุว่า เป็นพลตำรวจเอกที่ยังรับราชการ หลังจากนี้ตนจะออกมาแฉนายพลหลายคนว่ามีส่วนพัวพันอะไรบ้างในคดีที่ผ่านมา
ส่วนเหตุการณ์วานนี้กับ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ซึ่งนำกำลังเข้าจับกุมจนถึงขั้นเกิดเหตุปัดหมวกกัน นายสันธนะ ปฏิเสธว่า เป็นการปัดหมวก แต่ยอมรับเป็นการเปิดหมวก เนื่องจากตนเองเคยเป็นผู้ขัดแย้ง เมื่อครั้งที่ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้กำกับ สน.คลองตัน จึงอยากจะเห็นหน้าชัดๆ
ยืนยันว่า ไม่ได้ตบหรือปัดหมวกด้วยความก้าวร้าว แต่เมื่อการกระทำของชุดจับกุมไม่ให้เกียรติ และพยายามจะใส่กุญแจมือ ตนเองก็ไม่ให้เกียรติแม้จะเป็นนายพล หากไม่ให้เกียรติตน ตนก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติกลับ เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าตนกระทำผิด
นายสันธนะ เปิดเผยถึงกระแสเตรียมลงสนามการเมืองว่า ยังไม่เปิดเผยพรรค เรื่องแบบนี้หัวหน้าพรรคเท่านั้นที่ตัดสินใจได้ พร้อมฝากถึงคนชื่อเนและหนู (เนวิน - นายกหนู) "พบกันบนเส้นทางการเมือง" พร้อมกล่าวทิ้งท้าย ยนายสันธนะได้ "สำหรับผม มีแต่มิตรแท้ แต่ศัตรูถาวร"
จากนั้น ตำรวจสน.ทองหล่อ นำขึ้นรถตู้ นำตัวนายสันธนะและพวกไปศาลไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้



