
ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำทีม บุกรังการเงินสแกมเมอร์ หนีมาจากกัมพูชา
ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำทีม บุกรังการเงินสแกมเมอร์ หนีมาจากกัมพูชา พบนวัตกรรมใหม่สุดล้ำ Ai หลอก Ai ยึดโทรศัพท์ 60 เครื่อง
9 พ.ย. 2568 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 และตำรวจ สน.ทองหล่อ
นำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.124/2568 ลงวันที่ 8 พ.ย. 2568 เข้าตรวจค้นคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย จ.กรุงเทพ ตรวจยึดของกลาง 1.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่อง (พบข้อมูลการตัดต่อวีดิโอเพื่อสแกนหน้า) 2.คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง (พบข้อมูลทำการเงินเพื่อนำเงินออกในประเทศกัมพูชา) 3.โทรศัพท์มือถือ 60 เครื่อง 4.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 2 ถุง 5.อุปกรณ์การเสพยาเสพติด
และจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ดังนี้ 1.Mr.Xiahou Xin อายุ 29 ปี สัญชาติจีน 2.Mr.Liu Ming อายุ 28 ปี สัญชาติจีน 3.Mr.Li Lei อายุ 22 ปี สัญชาติจีน 4.Mr.Zeng Lingquan อายุ 21 ปี สัญชาติจีน
สืบเนื่องจากหลายประเทศเข้าปฏิบัติการทลายแก๊งสแกมเมอร์ ในประเทศกัมพูชา จนต้องย้ายฐานปฏิบัติการ ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งกาให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ติดตามสถานการณ์ทางการข่าวอย่างใกล้ชิด
กระทั่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้สืบทราบเบาะแส พบว่ามีกลุ่มบอสหนุ่มชาวจีนรายใหญ่หลายราย หลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมาย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนจนพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลกๆ เข้าไปในคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นช่างอาคารจนพบว่ามีการตั้งห้อง "วอร์รูม" เป็นฐานบัญชาการอยู่ภายในคอนโดหรูดังกล่าว และมีการมั่วสุมยาเสพติดด้วย
ต่อมาวันที่ 9 พ.ย. 68 เวลา 12.30 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบ ห้องพักดังกล่าว โดยใช้ยุทธวิธีเข้าจับอย่างฉับพลัน จนทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่ทันตั้งตัว และไม่สามารถทำลายพยานหลักฐานในคอมพิวเตอร์ได้
ผลการตรวจค้นพบ คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง ยังคงเปิดค้างไว้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็น "การเงินของแก๊งสแกมเมอร์" ตรวจสอบพบนวัตกรรมใหม่ โดยการใช้ Ai หลอก Ai โดยการเอาภาพนิ่งของเหยื่อ ผู้เสียหายมาเข้าระบบ Ai เพื่อให้หันหน้าซ้าย ขวา กะพริบตา อ้าปาก จากนั้นนำคลิปที่ได้จากการทำ Ai ดังกล่าว นำไปหลอกกับระบบ KYC ของธนาคารและเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นกระบวนการที่อันตรายมากเพราะทำให้ ผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาได้อย่างง่ายดาย และจากการตรวจสอบพบโทรศัพท์ 60 เครื่อง ตรวจพบยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง พบตัวผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย ตรวจสอบพบว่าเพิ่งเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา
เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ร่วมกันเป็นอั้งยี่, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ" นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



