ข่าว

เปิดคำสั่ง อสส. สั่งสอบเพิ่ม 8 ประเด็น คดี "เสี่ยกฤต ชนนพัฒฐ์" ล่าสุดยังไม่ส่งผลกลับ

เปิดคำสั่ง อสส. สั่งสอบเพิ่ม 8 ประเด็น คดี "เสี่ยกฤต ชนนพัฒฐ์" ล่าสุดยังไม่ส่งผลกลับ

07 พ.ย. 2568

เปิดคำสั่งปี 67 อสส. สั่งสอบเพิ่ม 8 ประเด็น คดี "เสี่ยกฤต ชนนพัฒฐ์" เอี่ยวเว็บพนัน ล่าสุด ผบช.ภ.9 ยังไม่ส่งกลับให้ อสส.ชี้ขาด เคยเตือนแล้ว 2 ครั้ง

7 พ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งเเจ้ง ไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ให้สอบสวนเพิ่มเติมคดี นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว กับพวกรวม 2 ราย ในความผิด ฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ฯเเละพรบ.คอมพิวเตอร์ 8 ประเด็นสำคัญ ก่อนเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 ที่ผ่านมานั้น 

 

จากการตรวจสอบทราบว่า ภายหลังจากที่ทางอัยการสูงสุดมีหนังสือให้สอบสวนเพิ่มเติมไป 8 ประเด็น ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ยังไม่มีการส่งผลสอบสวนเพิ่มเติมกลับมายังอัยการสูงสุด 

 

โดยก่อนหน้านี้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็เคยมีหนังสือเร่งรัดทวงถามให้พนักงานสอบสวนเร่งส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมมายังสำนักงานอัยการสูงสุดตามระเบียบโดยด่วน ภายในเดือน เม.ย. 2568 และ ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา เเต่ยังไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติมกลับมา และหากมีการส่งผลสอบสวนเพิ่มเติมกลับมาครบตามที่อัยการสูงสุดสุดสั่งสอบเพิ่มเติมไป ก็จะมีการส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดความเห็นเเย้งต่อไป โดยความเห็นของอัยการสูงสุดถือเป็นที่สิ้นสุดว่าจะสั่งฟ้องคดีนี้หรือไม่
 

เปิดคำสั่ง อสส. สั่งสอบเพิ่ม 8 ประเด็น 

ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด ที่ สภ.หาดใหญ่ ในข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน เเละ พรบ.คอมฯ  พบว่าคดีมีการเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2567 นางอุมา ทองรอด อธิบดีอัยการสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุดตำแหน่งในขณะนั้นปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุดได้มีหนังสือเเจ้งกลับไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เรื่อง ชี้ขาดความเห็นแย้ง หลังพิจารมาแล้ว เห็นว่า การสอบสวนยังไม่สิ้นกระเเสความ จึงให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

1.ให้สอบสวน พันตำรวจตรี ชัยกฤต จันหา ผู้กล่าวหา พันตำรวจตรี นวพล ลื่อดิลกวัฒนา ,พันตำรวจตรี ประชิต ทิพมณี และพันตำรวจตรี วัธนดิศ ธนกุลนันท์ เป็นพยานเพิ่มเติมในประเด็น ดังนี้

1.1 ให้อธิบายวิธีการจัดให้มีการเล่นการพนัน หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศ ชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเล่นหรือเข้าเล่นในการเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นพนันในคดีนี้โดยละเอียด


1.2 ให้อธิบายว่าผู้ต้องหาทั้งสองกับพวกนำข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด
ความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนในคดีนี้ อย่างไร โดยละเอียด

1.3ผลการดำเนินคดีกับ นายสิทธิกร ยุ่งยั้ง ,นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง ,นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล ,นายอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง ตามบันทึกการตรวจค้นเอกสารในสำนวน ลำดับที่ 4/23-26 และผลการดำเนินคดีกับดกับผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ 791/2565 และ 792/2565  ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโด ดิ แอททรีบิวท์ อาคาร 3ห้อง 504 และอาคาร 4
ห้อง701 ชอย 5 ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่เกิดเหตุ ตามบันทึกจับกุม เป็นอย่างไร หากมีพยานเอกสารให้ส่งรวมสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา
 

2.ให้สอบสวน นายสิทธิกร ยุ่งยั้ง,นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง ,นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล ,นายอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง เป็นพยานให้ได้ความโดยละเอียดตามรูปคดี

3.ให้สอบสวน พันตำรวจตรี วัธนดิศ ธนกุลนันท์ สส.กชช.ทว/จนท.ศปอส.ตร. ชุดที่4 ซึ่งทำการตรวจสอบข้อมูลการสนทนาในโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่ 1 ตามรายงานการตรวจสอบข้อมูล การสนทนาในโทรศัพท์ของผู้ต้องหาที่ 1 เป็นพยานให้ได้ความ โดยละเอียดตามรูปคดี

4.คดีนี้ปรากฎข้อเท็จจริงจากคำให้การของ พันตำรวจนวพล ลื่อดิลกวัฒนา ว่าได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ทำการซักถามพยานเเละบุคคลที่ถูกดำเนินคดีให้การว่า ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์เเละนายจ้าง ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้จัดการ แต่ไม่ปรากฎพยานหลักฐาน ในสำนวนว่า ผู้ต้องหาในคคีอาญา 791/2565 และ 792/2565  ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโด ดิ แอททรีบิวท์นั้น ได้ให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไว้หรือไม่ หรือได้มีการบันทึกถ้อยคำไว้หรือไม่ อย่างไร จึงให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบว่า มีเอกสารบันทึกถ้อยคำดังกล่าว หรือมีการบันทึกไว้เป็นหลักฐานหรือไม่ อย่างไร หากมีให้นำส่งรวมสำนวน เพื่อประกอบการพิจารณา
5.ให้พนักงานสอบสวนสอบสวนให้ได้ความว่า บ้านเลขที่ 64/28 ซอย27 ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา และคอนโด ดิแอททรีบิวท์ ที่เกิดเหตุคดีนี้ เป็นของบุคคลใด เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้งสองและบุคคลใดในคดีนี้อย่างไร และให้สอบสวนบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านและคอนโดดังกล่าว และสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการให้เช่าบ้านและคอนโด ดังกล่าว เป็นพยานให้ได้ความตามรูปคดี โดยเฉพาะให้ได้ความว่าเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาที่1-2 
และบุคคลในคดีนี้อย่างไร พร้อมส่งเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หรือการครอบครองบ้านและดอนโดดังกล่าว
สัญญาเช่าบ้านและคอนโดดังกล่าวรวมสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา

6.ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบบัญชีเงินฝากทุกบัญชีธนาคาร เพื่อให้ได้ความเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินระหว่างผู้ต้องหาที่ 1,2 และระหว่างผู้ต้องหาที่1,2 กับนายสิทธิกร ยุ่งยั้ง, นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล ,นายอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง และผู้ต้องหาในคดีอาญาที่  791/2565 และ 792/2565 ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโค ดิ แอททรีบิวท์ ว่ามีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันอย่างไร หรือไม่ แล้วนำการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินดังกล่าว เข้าโปรแกรมไอทูเพื่อประกอบการเชื่อมโยงถึงธุรกรรมทางด้านการเงิน

7.ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบผลการดำเนินดดีของนายสิทธิกร ยุ่งยั้ง, นายภัทรศักดิ์ แสงสว่าง ,นางสาวทิพย์สุดา เสริมศักดิ์วรกุล นยอนิรุธ บังคม และนายพัฒน์ฐา แพรกทอง และผู้ต้องหา ในคดีอาญาที่ 791/2565 และ 792/2565 ที่ถูกจับกุมตัวได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง และหากในคดีดังกล่าวศาลมีคำพิพากษาแล้วให้คัดถ่ายสำเนาคำพิพากษาโดยให้
เจ้าหน้าที่ศาลรับรองสำเนาถูกต้องรวมสำนวนวนเพื่อประกอบการพิจารณา

8.ให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบประวัติและผลดดีของผู้ต้องหาที่ 1 และส่งผลการตรวจสอบรวมสำนวนเพื่อประกอบการพิจารณา 

ดังนั้นจึงส่งสำนวนคดีอาญาดังกล่าวคืนเพื่อดำเนินการ เมื่อดำเนินการเสร็จแล้ว ให้ท่านซึ่งเป็นผู้มีอำนาจทำความเห็นแย้งตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนก่อนส่งสำนวนพร้อมผลการสอบสวนเพิ่มเดิม เพื่อพิจารณาชี้ขาดต่อไป


โดยมีรายงานจากชุดทำคดีได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่าประเด็นที่อัยการสูงสุดสั่งให้สอบเพิ่มเติม สื่อให้เห็นพนักงานสอบสวนอาจไม่ได้มีการเอกสารที่ควรมี เช่นคำซัดทอดของผู้ต้องหาอื่นๆที่ฝ่ายสืบสวนทำไว้ เเต่ไม่ส่งเข้าไปในสำนวน อัยการสูงสุดจึงให้สอบเพิ่มในประเด็นนี้ด้วย หากอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง เรื่องจะจบโดยเร็ว

 

พิรุธมีตำรวจส่อช่วย "ชนนพัฒน์" ให้สั่งไม่ฟ้อง


ผู้สื่อรายงานว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของจเรตำรวจเเห่งชาติ ที่มีการรายงาน ผบ.ตร.เมื่อวันที่13 ก.ย.2567 กรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ร้องเรียน พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล (ผบ.ตร.ขณะนั้น) เรื่อง ร้องขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ชุดสอบสวน หัวหน้าคณะสอบสวน รอง ผบช.ภ.9 กับพวกที่รับผิดชอบทำคดีเว็บพนันออนไลน์ ออนไลน์ imiwin กับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ต้องหา 2 คนคือ นายชนนพัฒน์ นาคสั้ว กับ พวก คดีร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์เเละ พรบ.คอมฯ 

 

โดยคณะกรรมการฯได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้บันทึกถ้อยคำพยาพยานบุคคลและรวบรวมพยานเอกสาร มีพยานบุคคล จำนวน 10 ปาก

 

ประเด็นที่มีการกล่าวถึงชุดจับกุม คือ พ.ต.ต.ประชิต ทิพมณี เเละ พ.ต.ต.นวพล ลื่อดิลกวัฒนา ทางคณะกรรมการ ได้พิจารณากรณีดังกล่าวแล้ว เห็นว่า คณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนทางคดีมีความเห็น "สั่งฟ้อง"  นายชนนพัฒฐ์ฯ กับพวก ในความผิดตามที่ถูกกล่าวหานั้น "ถูกต้องสมควรแล้ว" แต่การที่พนักงานสอบสวนได้ไปสอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.ต.ประชิต ผู้กล่าวหา และ ร.ต.อ.นวพล พยาน โดยอ้างว่า นายชนนพัฒฐ์ผู้ต้องหาที่ 1ได้ร้องขอความเป็นธรรมนั้น

 

ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมได้ เพื่อเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้ทุกฝ่าย แต่การสอบสวนเพิ่มเติมในคำให้การของ พ.ต.ต.ต.ประชิต และร.ต.อ.นวพล เป็นคำให้การสั้น ๆ ไม่ชัดเจน คลุมเครือ และไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ประกอบคำให้การแต่อย่างใด พนักงานสอบสวนไม่ได้ดำเนินการสอบสวนให้ชัดเจน สิ้นกระแสความ 


ประกอบกับเมื่อ พ.ต.ต.ประชิต และ ร.ต.อ.นวพล มาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการ ซึ่งได้ยืนยันว่า ได้รับการติดต่อให้สอบสวนเพิ่มเติม จึงได้นัดหมายกันในวันที่ 30 มิ.ย. 65 เวลา 16.30 น. ที่บก.น.7 บช.น. และเมื่อ พ.ต.ท.พิเชษฐไชย มาถึงแจ้งว่า ต้องรีบเดินทางไปสนามบินดอนเมืองให้ทันเวลาเช็คอินก่อนขึ้นเครื่อง เพื่อเดินทางกลับจังหวัดสงขลา เมื่อสอบปากคำทั้งสองเสร็จแล้ว ได้ปริ๊นคำให้การ แล้วให้ลงชื่อด้วยความเร่งรีบ เพื่อให้ พ.ต.ท.พิเชษฐไชย ขึ้นเครื่องให้ทันเวลา 

 

ต่อมาวันที่ 8 เม.ย. 66ได้ไป ติดตามผลคดีที่ สภ.หาดใหญ่ และ สภ.เมืองสงขลา จึงทราบว่าคำให้การเพิ่มเติมของตนเองนั้น วันที่สอบเพิ่มเติมที่จริงคือ 30 มิ.ย. 65 แต่ในคำให้การเพิ่มเติมเป็นวันที่ 24 มิ.ย. 65 สถานที่เป็น สภ.เมืองสงขลาไม่ใช่ บก.น.7 บช.น. และเมื่ออ่านทบทวนแล้วมีข้อความกำกวม ไม่ชัดเจน อาจทำให้ผู้ที่อ่านเพียงคำให้การเพิ่มเติม เข้าใจหลงผิดในประเด็นการสืบสวนสอบสวนได้ดังนั้น 

 

กรณีดังกล่าวจึงเห็นได้ว่าพนักงานสอบสวนได้สอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.ต.ประชิต ผู้กล่าวหา และ ร.ต.อ.นวพล พยาน อย่างเร่งรีบ โดยสอบสวนปากคำเพียงสั้นๆ ทำให้คำให้การดังกล่าว ไม่ชัดเจน คลุมเครือ และไม่มีพยานหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบคำให้การดังกล่าว ซึ่ง พ.ต.ต.ประชิต และ ร.ต.อ.นวพลฯ พร้อมจะให้การเพิ่มเติม แต่พนักงานสอบสวนรีบเร่งในการสอบปากคำและยึดถือเพียงสอบสวนตามที่ นายชนพัฒธ์ผู้ต้องหาที่1 ได้ร้องขอความเป็นธรรมเท่านั้น

 

อีกทั้ง วัน เวลา สถานที่ ที่บันทึกในคำให้การที่สอบสวนเพิ่มเติมของ พ.ต.ต.ประชิต ผู้กล่าวหา และ ร.ต.อ.นวพลคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง 

 

อย่างไรก็ดี คณะพนักงานสอบสวนสามารถสอบสวนเพิ่มเติมพยานหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาได้ เพื่อให้การสอบสวนชัดเจน สิ้นกระแสความ แต่ไม่มีการดำเนินการเเต่อย่างใด จึงเป็นกรณีที่พนักงานสอบสวนบกพร่อง ขาดความรอบคอบในการสอบสวนพยานหลักฐานในคดี สอบสวนไม่สิ้นกระแสความ เป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556 มาตรการการควบคุม ตรวจสอบและเร่งรัดการสอบสวน) ข้อควรปฏิบัติในการตรวจสำนวนการ
สอบสวน ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีหน้าที่ตรวจสำนวนการสอบสวน พึงทำการตรวจในสาระสำคัญ

 

คณะกรรมการได้ประชุมพิจารณาร่วมกันกรณีคดีอาญา สภ.เมืองสงขลาที่ 352/2565 ลงวันที่ 7 ก.พ.2565 และคดีอาญา สภ.หาดใหญ่ ที่ 1010/2565 ลง24 ก.พ.2565  ข้าราชการตำรวจผู้ใดมีพฤติการณ์และหลักฐานเบื้องต้น มีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัย โดยพิจารณาแยกออกเป็น ดังนี้

 

1.คคีอาญา สภ.เมืองสงขลาที่ 352/2565 
คณะกรรมการได้ประชุมร่วมกันพิจารณาตามคำให้การของพยานบุคคลและพยานหลักฐานแล้ว มีมติเป็นเอกฉันต์ว่า คณะพนักงานสอบสวน ตามคำสั่ง สภ.เมืองสงขลา ที่ 127/2565โดยมี พ.ต.อ.ภูวรา เเก้วพารัตน์ , พ.ต.ท.พิเชษฐไชย หนูผุด , พ.ต.ท.อเสก สีแก้วเขียว และ พ.ต.ท.จตุพลพัฒช์ ปุณยมนตรี รวม4 นาย ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีอาญา สภ.เมืองสงขลา ที่ 352/2565 มีกรณีบกพร่องอันมี
วรกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัย ด้วยเหตุผลดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เห็นควรให้ดำเนินการตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ม.117 โดยแต่งตั้งจากผู้บังคับบัญชา ภ.9 พิจารณากรณีดังกล่าวต่อไป

2. คดีอาญา สภ.หาดใหญ่ ที่1010/2565 คณะกรรมการประชุมร่วมกันพิจารณาตามคำให้การของพยานบุคคลและพยานหลักฐานแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ร.ต.อ.เดชาวัต มากคำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และ พ.ต.ท.โชคทวี จันทร์ทองอ่อนรอง ผกก.(สอบสวน)หัวหน้างานสอบสวน และ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา มีกรณีบก
พร่องอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทำความผิดวินัย ด้วยเหตุผลดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ม.117โดยแต่งตั้งจากผู้บังคับบัญชา ภ.9 พิจารณา ดำเนินการต่อไป

 

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงขอเสนอรายงานการผลตรวจสอบข้อเท็จจริง มาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป

 

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2568 ผลการพิจารณาลงโทษทางวินัยลงนาม โดย พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา มีหนังสือเรียน ผบ.ตร. เรื่องรายงาน ผลการตรวจสอบดำเนินการทางวินัย เเละมีคำสั่งให้ยุติเรื่องการดำเนินการทางวินัยว่ากล่าวตักเตือน และลงโทษภาคทัณฑ์  ด้วยข้าราชการตำรวจดังต่อไปนี้

1.พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทุ่งต่ำเสา จังหวัดสงขสงขลา
2.พ.ต.ท.พิเชษฐไชย หรือชัยชัยพัทธ์ หนูผุด รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธร
เมืองสงขลา จังหวัดสงขลา 
3.พ.ต.ท.จตุพลพัฒช์ ปุณยมนตรี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา
4.ร.ต.ท.อเสก สีแก้วเขียว สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรเมืองจังหวัดสงขลา 
5.ร.ต.อ.เดชาวัต มากคำ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่จังหวัดสงขลา 
6.พ.ต.ท.โชคทวี จันทร์ทองอ่อน รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

 

โดยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การดำเนินคดีอาญาที่ 352/2565 ของสถานีตำราจภูธรเมืองสงขลา พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และ พ.ต.ท.พิเชษฐไชย หรือ ชัยพัทธ์ หนูผุด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 บกพร่องต่อหน้าที่ แต่เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นหัวหน้าสถานีตำรวจ มีภารกิจหน้าที่ในความรับผิดชอบเป็นจำนวนมาก ประกอบกับไม่เคยถูกดำเนินการทางวินัยมาก่อน จึงมีเหตุลดหย่อนผ่อนโทษ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่  2ได้เสียชีวิตไปเเล้ว 

 

ส่วนการดำเนินคดีอาญาที่ 1012/2565 ของสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ร้อยตำรวจเอก เดชาวัต มากคำ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 บกพร่องต่อหน้าที่ ส่วน พ.ต.ท.โชคทวี จันทร์ทองอ่อน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 ยังไม่ได้ว่าบกพร่องต่อหน้าที่ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 124 มาตรา 179 และมาตรา 180 แห่ง พรบ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกอบกับ กฎ ก.ตร.ว่าด้วยอำนาจการลงโทษข้าราชการตำรวจ อัตราโทษ และการลงโทษภาคทัณฑ์ณฑ์ ทัณฑกรรม กักยาม กักขัง หรือตัดเงินเดือน จึงให้

1.ยุติเรื่องการดำเนินการทางวินัย พ.ต.ท.พิเชษฐไชย ,พ.ต.ท.จตุพลพัฒช์ ,พ.ต.ท.อเสก และ พ.ต.ท.โชคทวี  

2.ลงโทษว่ากล่าวตักเตือน พ.ต.อ.ภูวรา  

3.ลงโทษภาคทัณฑ์ ร.ต.อ.เดชาวัต