
รวบ "พ่อเฒ่า" คาป้อม! ละเมิด "หลานสาว" วัย 11 ขวบ กลางสวนยาง
หลานสาววัย 11 ขวบ รักตาเหมือนพ่อแท้ๆ หลงเชื่ออุบายชวนไปหากบ ก่อนถูกบังคับขืนใจในสวนยางพารา ซ้ำข่มขู่ห้ามบอกใคร สุดท้ายตาไม่รอด ถูกตำรวจจับคาป้อม
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 1 ราย คือ นาย สมบัติ อายุ 58 ปี บริเวรหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 38/2568 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้น อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะ ยินยอมหรือไม่ก็ตาม , กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม , พาบุคคลอายุไม่ เกินสิบห้าปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม"
ก่อนเกิดเหตุ นายสมบัติกับภรรยาได้ส่งเสียเลี้ยงดูเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นหลาน ตั้งแต่อายุ 4 ปี เนื่องจากพ่อแม่ของเด็กหญิงเอ มีปัญหาหย่าร้างกัน ซึ่งเด็กหญิงเอ มีความสนิทสนมคุ้นเคย และรักนายสมบัติ เหมือนกับพ่อแท้ ๆ ของตน จนกระทั่งเด็กหญิงเอ อายุ 11 ปี และเป็นเด็กหญิงที่หน้าตาน่ารัก ซึ่งนายสมบัติ มักจะชวนเด็กหญิงเอ ไปกรีดยางพาราที่สวนเพียงสองคนช่วงเวลากลางคืนบ่อยครั้ง
ต่อมา นายสมบัติ ได้ล่อลวงเด็กหญิงเอไปหากบที่สวนยางพาราท้ายหมู่บ้านเพียงสองคน โดยนายสมบัติ ก่อนที่จะใช้กำลังบังคับข่มขืนเด็กหญิงเอ ก่อนข่มขู่ห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกกับยายเด็ดขาด หากนำเรื่องดังกล่าวไปบอกยาย จะไม่ให้เงินกินขนม และจะไม่พาไปเที่ยวหากบอีกต่อไป จากนั้นนายสมบัติ เริ่มเกิดความย่ามใจ และได้ล่อลวงเด็กหญิงเอฯ ไปข่มขืนกระทำชำเราที่สวนยางพาราท้ายหมู่บ้านอีกหลายครั้ง
ต่อมาโรงเรียนของเด็กหญิงเอ ได้ทำการตรวจร่างกายเด็กภายในโรงเรียน โดยเด็กหญิงเอ ได้บอกกับครูว่ามีอาการเจ็บที่อวัยวะเพศ จากนั้นครูจึงได้สอบถามจนทราบว่าเด็กหญิงเอถูกนายสมบัติ ซึ่งเป็นตาล่อลวงข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง ครูจึงได้รีบบอกกับยายของเด็กหญิงเอ
ซึ่งภายหลังทราบเรื่องดังกล่าว ยายของเด็กหญิงเอ จึงรีบเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายสมบัติให้ถึงที่สุด เมื่อนายสมบัติ ทราบว่าภรรยาของตนได้เข้าแจ้งความ จึงได้รีบหนีออกจากพื้นที่ทันที จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายสมบัติได้หลบหนีคดีมาอยู่ที่กรุงเทพและเข้าทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบนายสมบัติจึงได้แสดงตัว แสดงหมายจับ และอ่านข้อความในหมายให้ นายสมบัติทราบ และตรวจสอบ ซึ่งนายสมบัติ ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีนี้มาก่อน
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้นายสมบัติ ทราบ ซึ่งเบื้องต้น นายสมบัติให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาในชั้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวนายสมบัติ ผู้ต้องหาส่งมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบึงกาฬ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



