เขย่าแก่งกระจาน "ฉก.ทส." ลุยสอบนายทุนรุกป่า-ราชพัสดุเกือบพันไร่ | คมชัดลึก

กลายเป็นประเด็นร้อนที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ต้องส่งชุดเฉพาะกิจเข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน กรณีกลุ่มนายทุนบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และที่ราชพัสดุ ในตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยพบร่องรอยการทำลายและขุดหน้าดินจนภูเขากลายเป็นดินลูกรัง

 

 

​ล่าสุด พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรี ทส. ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจฯ (ฉก.ทส.) พร้อมคณะทำงานนายเทวินทร์ มีทรัพย์, นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และ นายมงคล ไชยภักดี รวมถึงหน่วยงานหลักทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ ดีเอสไอ และศูนย์กลางทหารราบค่ายธนะรัชต์ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการถือครองเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. ที่กลุ่มนายทุนอ้างสิทธิ์

 

 

พบรุกป่าใหม่ "นอกเอกสารสิทธิ" เกือบพันไร่

 

​พื้นที่พิพาทนี้เดิมเป็นภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ภายใต้การดูแลของทหาร ก่อนที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะเข้าตรวจพบการบุกรุกเมื่อเดือนเมษายน 2567 และสั่งห้ามดำเนินการ

 

​ผลการตรวจสอบพบว่า แม้กลุ่มนายทุนจะอ้างเอกสิทธิ น.ส. 3 ก. ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 3,162 ไร่ (แบ่งเป็นในเขตราชพัสดุ 2,016 ไร่ และในเขตอุทยานฯ 1,146 ไร่) 

 

แต่การสำรวจของ ฉก.ทส. พบการ ลักลอบเปิดพื้นที่ป่าใหม่นอกเหนือเอกสารสิทธิ มากถึง 914 ไร่ (อุทยานฯ 81 ไร่, ราชพัสดุ 833 ไร่)

 

​นอกจากนี้ ยังพบการขุดดินไปใช้ประโยชน์อย่างหนัก จนภูเขาถูกแปรสภาพเป็นดินลูกรัง และมีการขุดบ่อปิดทางน้ำสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

 

พล.ต.ต.นันทชาติ เผยว่าได้รับมอบหมายจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทส. ให้เข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ พร้อมกำชับให้ดำเนินการด้วยความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและบริษัทนายทุนที่อ้างว่าซื้อที่ดินต่อมาจากธนาคารด้วยความสุจริต

 

​"ทางรัฐมนตรีสุชาติ สั่งให้ผมมา และบอกว่า ถ้าผิด ต้องเอาป่าของชาติคืน"

 

พล.ต.ต.นันทชาติ ย้ำคำสั่ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ที่ดินบริเวณนี้จริง ๆ แล้ว ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่า

 

​สำหรับข้ออ้างของนายทุนที่ระบุว่า ซื้อที่ดินมาจากธนาคารอย่างถูกต้องนั้น พล.ต.ต.นันทชาติ ชี้แจงว่า กระทรวงฯ มีหน้าที่พิสูจน์ความถูกต้องของที่ดินเท่านั้น หากพบว่าไม่ถูกต้อง และนายทุนซื้อมาอย่างสุจริตจริง ก็ต้องไปยื่นฟ้องแพ่งกันเอง ​เตรียมใช้ภาพถ่ายทางอากาศมัดตัว ลุยสอบย้อนหลังถึงผู้ออกสิทธิ ​มาตรการสำคัญที่ถูกสั่งการทันทีคือ การให้กรมอุทยานฯ อ่านแปรภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนการสอบสวนและกระบวนการยุติธรรม

​

ขณะนี้ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจและยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. แล้ว และ DSI อยู่ระหว่างการพิจารณานำเรื่องเข้าเป็นคดีพิเศษ นอกจากนี้ยังจะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึง ผู้ออกเอกสารสิทธิ ด้วย

​

ลั่นวาจาไม่กลัวอิทธิพล - ห่วงช้างป่า 300 ตัว

 

​เมื่อถูกถามถึงกระแสข่าวว่าอาจมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง เพราะเจ้าหน้าที่ที่เคยตรวจสอบบางรายถูกโยกย้าย พล.ต.ต.นันทชาติ แสดงความเชื่อมั่นว่า รมว.สุชาติ จะคืนความเป็นธรรมให้กับทุกคน และยืนยันหนักแน่น

 

“ส่วนอิทธิพล ผมพูดได้เลยว่า ไม่ต้องไปกลัว... เราต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน หากเรากลัว ก็จบ ประเทศนี้ก็จบ”

 

​เขาทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกไม่สบายใจที่ ป่าถูกทำลาย และเน้นย้ำถึงผลกระทบต่อ ช้างป่ากว่า 300 ตัว ในพื้นที่แก่งกระจาน หากปล่อยให้การบุกรุกดำเนินต่อไป ช้างจะหนีเข้าพื้นที่เกษตรกร และเสี่ยงถูกทำร้าย ดังนั้น "เราต้องเอาป่า เอาต้นไม้ คืนมา" เพื่อให้ช้างเหล่านี้มีบ้านอยู่