
ญาติผู้ป่วยจอดกระบะขวางรถฉุกเฉิน ขณะเตรียมส่งผู้ป่วยโรคหัวใจ สุดท้ายไม่รอด
รถกระบะจอดกีดขวางรถพยาบาล ญาติคนไข้ป่วยกฤตคุกเข่าอ้อนวอน ขอให้เลื่อนรถออก เพื่อเคลื่อนย้ายไปรพ.กระบี่ สุดท้ายไม่ทัน คนไข้หัวใจขาดเลือดเสียชีวิต
18 ก.ค. 2568 โรงพยาบาลปลายพระยา โพสต์ข้อความกรณีได้มีรถจอดกีดขวางรถพยาบาลจนไม่สามารถนำผู้ป่วยขึ้นรถได้ และสุดท้ายผู้ป่วยรายดังกล่าวได้เสียชีวิตเมื่อไปถึง รพ.ด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและมีภาวะหายใจล้มเหว
ซึ่งในแถลงการณ์ ทาง รพ.ปลายพระยาและบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และมีภาวะการหายใจล้มเหลว เข้ารับการรักษาพยาบาลโรงพยาบาลปลายพระยา เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2568
โรงพยาบาลปลายพระยา ขอชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาผู้ป่วยดังกล่าว
- เวลา 23.10 น. วันที่ 16 ต.ค. 2568 ภายในห้องฉุกเฉินโซนผู้ป่วยวิกฤต เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ พนักงานเปล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กำลังให้การช่วยเหลือและช่วยชีวิตผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและมีภาวะการหายใจล้มเหลว ซึ่งต้องมีการใส่ท่อช่วยหายใจ หลังจากนั้นย้ายผู้ป่วย เพื่อส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลกระบี่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายที่มีศักยภาพการรักษาที่สูงกว่า
- เวลา 23.15 น. รถยนต์กระบะ4ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล คันที่จอดปิดท้ายรถพยาบาล นำส่งผู้ป่วยหญิงวัย 69 ปี รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง มีอาการเวียนศีรษะตาลาย ญาติเข็นผู้ป่วยหญิงรายนั้นเข้าห้องฉุกเฉินเอง และได้พบกับพยาบาลหัวหน้าเวรห้องฉุกเฉิน ซึ่งกำลังจัดเตรียมเอกสารและประสานการส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลกระบี่อยู่
พยาบาลหัวหน้าเวรได้อธิบายให้ญาติผู้ป่วยทราบว่า ขณะนี้มีคนไข้อาการหนักกำลังเตรียมส่งต่อไปโรงพยาบาลกระบี่ ให้รอสักครู่ และให้ญาติเข็นผู้ป่วยไปนอนบนเตียง จากนั้นพยาบาลหัวหน้าเวรก็ได้เข้าไปชักประวัติและประเมินอาการผู้ป่วยที่เตียง แต่ญาติก็ยังโวยวายเรื่องที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลมารดาของตน
- เวลา 23.16 น. ขณะเคลื่อนผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตออกจากห้องฉุกเฉินเพื่อขึ้นรถพยาบาล พบว่า มีรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล จอดกีดขวาง ปิดท้ายรถพยาบาล ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลได้ พยาบาลได้แจ้งให้เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวมาเลื่อนรถออก แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าวได้กล่าวเอะอะโวยวายเสียงดัง ด้วยท่าทีที่โมโห กรณีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาบริการมารดาตนเอง
ขณะเดียวกันญาติของผู้ป่วยวิกฤตที่กำลังจะส่งต่อ ได้ร้องไห้พร้อมนั่งทรุดลงกับพื้นและยกมือไหว้ ร้องขอให้เจ้าของรถกระบะช่วยเลื่อนรถออก แต่ยังคงมีปากเสียง เอะอะโวยวายกับเจ้าหน้าที่และญาติผู้ป่วยบริเวณท้ายรถนำส่งผู้ป่วยต่อเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นถึงจะเดินไปเลื่อนรถกระบะของตนออก เจ้าหน้าที่จึงได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นรถพยาบาลเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลกระบี่ได้ แต่ก็เสียชีวิต
จากกรณีนี้ทางผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง นายแพทย์ณัฐพงษ์ ดูงาม ผอ.รพ.ปลายพระยา ให้ข้อมูลว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นทาง รพ.ปลายพระยา เตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่มาขัดขวางการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยรายนี้แล้ว แม้ว่าจะมีการเคลื่อนย้ายรถให้ แต่กรณีนี้ผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจสามารถที่จะนำส่งไปยัง รพ.กระบี่ ซึ่งได้มีการเปิดศูนย์รักษาโรคหัวใจโดยเฉพาะ มีแพทย์ประจำเปิดมาได้ 2 เดือนกว่า หากไปถึงเร็วแม้ 1 นาทีก็มีความหมายอย่างมาก เพราะหากเปิดสวนเส้นเลือดได้เร็วคนไข้ก็พ้นวิกฤติ
ซึ่งขณะนี้กำลังให้ทางนิติกรไปดำเนินการ ส่วนทางญาติของผู้ป่วยที่เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ก็ทราบว่าจะเอาเรื่องกับผู้ที่ขวางการเคลื่อนย้ายด้วยเช่นกัน ขณะที่ครอบครัวได้นำศพนายสมควร พานิชย์ อายุ 67 ปี ผู้ป่วยที่เสียชีวิต มาประกอบพิธีทางศาสนา จัดเตรียมสถานที่ ที่บ้านพัก ตำบลคีรีวงศ์ อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและญาติๆ
น.ส.ภัทราพร พานิชย์ ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ที่ก้มกราบของร้องให้ชายคนดังกล่าวถอยรถ เนื่องจากต้องการให้พ่อส่งตัวถึงโรงพายาบาลกระบี่ เร็วที่สุด แต่ต้องเสียเวลากับเหตุการณ์ดังกล่าว กว่า 15 นาที เชื่อว่าหาพ่อถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกระบี่เร็วกว่า นี้คงจะไม่เสียชีวิต เสียใจมากกับเหตุการณ์แบบนี้ ฝากไปยังผู้ที่ก่อเหตุ อย่าไปกระทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก