
รวบ "ไอ้ป้อม" ลวงเยาวชน 13 ปี อนาจาร ชาวบ้านแค้นรุมย้ำเกือบสลบคาทุ่งนา
ตำรวจ ล้อมจับกุมรวบ "ไอ้ป้อม" ลุงข้างบ้าน ล่อลวงเยาวชน 13 ปี กระทำอนาจาร ชาวบ้านสุดแค้นรุมประชาทัณฑ์จนเลือดอาบ
10 ต.ค.2568 ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่าได้จับกุมผู้ต้องหาลวง ด.ญ.(แดง) นามสมมุติ วัย 13 ปี ไปข่มขืน ผู้ต้องหาได้หลบซ่อนตัวในบ้านหลังหนึ่งซอยจันทร์อุดม ม.2 ต.ท่าซัก อ.เมืองนครศรีธรรมราช ส่วน ดญ.วัย13ปี ได้ถูกนำไปทำบาดแผลที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชก่อนหน้านี้แล้ว
สอบสวนทราบผู้ต้องหาคนดังกล่าวชื่อ นายกิตติศักดิ์ หรือไอ้ป้อม ท่าซัก อายุ 40 ปี เคยติดคุกคดีจำหน่ายและเสพยาเสพติด 2 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาได้ไม่นาน เมื่อกำลังตำรวจจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และชาวบ้านกำลังคุมตัว ไอ้ป้อม รอตำรวจพาจะขึ้นรถยนต์ของชาวบ้านคนหนึ่ง เพื่อจะคุมตัวไปโรงพัก
ปรากฏขณะนั้นมีชาวบ้านและญาติของ ดญ.วัย13ปี ผู้เสียหาย โกรธแค้นพยายามจะเข้ารุมประชาฑัณฑ์ ทำให้ไอ้ป้อม สะบัดมือวิ่งหลบหนีเข้าข้างทางแล้ววิ่งหนีหายไปในกลางทุ่งนาละแวกใกล้เคียงอย่างรวดเร็วทันที แม้ตำรวจและชาวบ้านจะพยายามวิ่งไล่ตามก็ตามแต่ไม่ทัน เนื่องจากไอ้ป้อมมีความชำนาญในพื้นที่ ได้กระโดดหลบหนีหายไปกลางทุ่งนาทันที
จากนั้น พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รองผกก.ป.สภ.เมืองนคราศรีธรรมราช วิทยุขอกำลังเสริมจากตำรวจสายตรวจต่างๆกว่า 20 นาย และตำรวจนอกเครื่องแบบ และจนท.กู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ ไประดมโอบล้อมจับกุมไอ้ป้อม ซึ่งคาดว่ายังคงหลบซ่อนตัวในทุ่งนาห่างจากจุดที่เกิดเหตุไม่มากนัก
หลังจากเจ้าหน้าที่กว่า 20 นายได้ปิดล้อมกลางทุ่งนาอยู่นานประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อขู่จำนวนหลายนัด ทำให้ไอ้ป้อม ตกใจเสียงปืนได้ลุกขึ้นหนีออกจากที่ซ่อนตัวพยายามจะวิ่งหลบหนี แต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตะครุบได้ทันควัน ก่อนหิ้วตัวออกจากกลางทุ่งนา ปรากฏว่าระหว่างทางได้มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่โกรธแค้นได้ฮือเข้ารุมประชาทัณฑ์ไอ้ป้อมจนอ่วมปากแตกเลือดอาบ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันชาวบ้านออกแล้วรีบพาตัวขึ้นรถมูลนิธิประชราร่วมใจไปยังสภ.เมืองนครศรีธรรมราช
จากการสอบสวนปากคำไอ้ป้อม ยังปากแข็งให้การปฏิเสธอ้างไม่ได้ข่มขืน ดญ.วัย 13 ปี ที่อยู่ข้างบ้านตามที่ถูกกล่าวหา แต่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันว่าไอ้ป้อมลงมือข่มขืนจริง โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นยายของ ดญ. ใช้ให้หลานสาวไปซื้อข้าวสารที่ร้านค้าในหมู่บ้าน แต่หายไปนานกว่า 1 ชม. ปรากฏว่าหลังจาก ด.ญ.ขี่รถจยย.กลับมาบ้านในสภาพสะบักสะบอมเนื้อต้วเปื้อนโคลนทั้งตัว ยายได้ถามว่าไปทำอะไรมา ซึ่งด.ญ.ได้ตอบว่าล้มรถมา แต่ยายไม่เชื่อ จึงพยายามเค้นสอบถามหลานสาวจนรับสารภาพว่าถูกไอ้ป้อมซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียงกัน ลวงไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่
ขณะที่ ด.ญ.กำลังขี่รถจยย.จะไปซื้อข้าวสารให้ยาย ระหว่างทางไอ้ป้อม ได้ดักเรียกและอ้างรถเสียขออาศัยรถจยย.ไปซื้อของ ซึ่งด.ญ.ก็ยอมให้นั่งซ้อนท้ายรถจยย.ไปด้วย เนื่องจากรู้กันดีเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน จนกระทั่งขี่รถจยย.ไปตามถนนในหมู่บ้านห่างประมาณ 1 กม.ไอ้ป้อมได้ใช้กำลังบังคับไม่ให้ขัดขืน ก่อนบังคับเข้าไปในป่าข้างทางปลอดสายตาผู้คน ทำการข่มขืน ด.ญ. จนสำเร็จความใคร่ แล้วปล่อย ด.ญ. กลับบ้านในสภาพสะบักสะบอมเนื้อตัวเปื้อนโคลนเต็มไปหมด ส่วนไอ้ป้อม ทำตีเนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกลับเข้าบ้าน



