
คกก. มีมติ 8:2 ไม่ยื่นอุทธรณ์คดี 112 "ทักษิณ”หมิ่นสถาบันฯ ส่ง อสส.เคาะ
คกก.คดี112 มีมติ 8:2 ไม่ยื่นอุทธรณ์คดี "ทักษิณ" หมิ่นสถาบันฯ ส่ง อสส. พิจารณาก่อน 1 ต.ค. หากไม่ยื่น คดีสิ้นสุดลง
26 ก.ย. 2568 มีรายงานข่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการพิจารณาคดี 112 ของอัยการ มีการพิจารณาเเละมีมติไม่ยื่นอุทธรณ์คดี ที่อัยการสูงสุด (นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์) โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 กรณีนายทักษิณเคยให้สัมภาษณ์สื่อทีวีประเทศเกาหลีใต้มีเนื้อหากระทบสถาบันฯ ซึ่งศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2568
เนื่องจากศาลมองว่า คนที่ได้รับฟังคลิปวิดีโอ ล้วนเข้าใจตรงกันว่าจำเลยให้สัมภาษณ์โจมตีการยึดอำนาจและรัฐประหาร โดยพาดพิงถึงนายสุเทพกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และองคมนตรีเท่านั้น ไม่ได้พาดพิงหรือสื่อความหมายถึงสถาบันฯว่าอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติรัฐประหาร การสืบพยานหลักฐานโจทก์ไม่สมกับภาระการพิสูจน์ในคดีอาญาว่าจำเลยกระทำความผิด จึงรับฟังไม่ได้
มีรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายไพรัช มีคำสั่งให้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณากลั่นกรอง ของคณะกรรมการคดี 112 ของอัยการที่มี นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด ว่าที่อัยการสูงสุด 1 ต.ค.2568 นี้เป็นประธาน
โดยที่ประชุมมีมติ 8-2 เห็นควร "ไม่อุทธรณ์" ก่อนส่งให้นายไพรัชอัยการสูงสุด พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ซึ่งนายไพรัชยังมีเวลาพิจารณาก่อนจะพ้นวาระก่อน 1 ต.ค.นี้
สำหรับคณะกรรมการพิจารณาคดี 112 คือ คณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั่วราชอาณาจักร ประกอบไปด้วย รอง อสส.ที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน ปัจจุบันคือ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รอง อสส. ส่วนเลขาคณะกรรมการชุดนี้คือ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาโดยตำเเหน่ง ในส่วนคณะกรรมการ จะมาจากอัยการที่ดำรงตำเเหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ,อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี เเละอธิบดีอัยการสำนักงานอาญาอื่นๆ เพราะถือว่าเป็นสำนักงานที่ต้องรับคดีประเภทนี้โดยตรง นอกจากนี้ยังมีอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนด้วยเนื่องจากบางคดีมีสำนวนที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักร รวมถึงผู้ตรวจการอัยการบางคน เเละมีระดับรองอธิบอัยการบางสำนักงาน รวมกัน 10 กว่าคน (จำนวนไม่เเน่ชัด) ขึ้นอยู่กับอัยการสูงสุดในขณะนั้นตั้งขึ้น ทำหน้าที่พิจารณาสำนวนคดี 112 จากทั่วประเทศ เรียกว่าคดี 112 คดีใดจะสั่งฟ้องหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการชุดนี้
เเต่สำหรับคดีนี้ ซึ่งตามขั้นตอนคดี 112 ของนายทักษิณเป็นคดีนอกราชณาจักรอำนาจพิจารณายื่นอุทธรณ์เป็นของอัยการสูงสุด การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคดี 112 จึงเป็นการกลั่นกรองให้อัยการสูงสุด ไม่ใช่การสั่งคดีเหมือนในชั้นพิจารณาคดี 112 ทั่วไป
สำหรับขั้นตอนต่อไปหากอัยการสูงสุดไม่ยื่นอุทธรณ์ตามความเห็นของคณะกรรมการคดี 112 จะส่งผลให้คดีของนายทักษิณสิ้นสุดลงในศาลชั้นต้น เเต่หากยื่นอุทธรณ์คดีจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ต่อไป