
ทหารกัมพูชา รุกล้ำดินแดนไทย ก่อนยิงปืนยั่วยุทหารไทย
กองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบ ทหารกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทย ก่อนยิงปืนยั่วยุ แต่ทหารไทยไม่ได้ตอบโต้ ยังไม่เกิดการปะทะ ถืออีกฝ่ายเป็นการละเมิดหยุดยิง
23 ก.ย. 2568 กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. ตรวจพบทหารกัมพูชาทำการยิงปืนเล็กจำนวน 3 – 5 นัด เข้ามายังแนวลวดหนามป้องกันตนเองของฝ่ายไทย ในพื้นที่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ทั้งนี้คาดว่าเป็นการยิง เพื่อยิงทดสอบปฏิกิริยาการโต้ตอบของฝ่ายไทย ทั้งนี้ฝ่ายไทยไม่ได้มีการยิงโต้ตอบ และยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ทหารกัมพูชามีลักษณะท่าทางจะเข้ามาในอธิปไตยไทย ใกล้กับเขตรั้วลวดหนาม จากนั้นทหารไทยแจ้งเตือน ทำให้ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กประจำกายยิงขึ้นฟ้า เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงได้ยิงตอบโต้ กระทั่งทหารกัมพูชา ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจำนวน 2-3 นาย ได้ล่าถอยกลับไป
ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่ 23 กันยายน 2568 (เวลา 14.00 น.)
สถานการณ์โดยรวม ฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยเวลา 13.22 น. ทหารกัมพูชาจำนวน 4 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภูผี ได้เข้ามาเกาะแนวรั้วลวดหนามบริเวณตรงข้ามฐานป่ามัน ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนเล็กยาวยิงจำนวน 3 นัด ซึ่งคาดว่า เป็นการยิงเพื่อตรวจสอบปฏิกิริยาของฝ่ายไทย ทั้งนี้ฝ่ายไทยมิได้มีการตอบโต้กลับ และไม่มีความสูญเสียใด ๆ เกิดขึ้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขาดความจริงใจของกองทัพกัมพูชาในการปฏิบัติตามพันธกรณี ที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันลงนามไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC)
มีการตรวจพบความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชา โดยตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่ซำแต 1 ลำ ปัจจุบันกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตนเอง ฝ่ายไทย จัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม และเตรียมความพร้อม ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์
กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เนื่องจากปัจจุบันมีสิ่งบอกเหตุหลายอย่างที่จะนำไปสู่สถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อป้องกันการรับข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน เพื่อป้องกันการรับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน บิดเบือน หรือข่าวปลอม (Fake news) ขอให้ประชาชน โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสาร และติดตามข้อมูล จากช่องทางอย่างเป็นทางการจากส่วนราชการ ซึ่งสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา