"สุชาติ" สั่งสอบพฤติกรรมเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ปมเงินวัด-สีกากอล์ฟ | คมชัดลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 ก.ย.2568 นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 294/2568 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยมีข้อความว่า 

ด้วยได้รับข้อร้องเรียนประกอบกับมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามหลวงในทางเสื่อมเสียที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายและความเสื่อมศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งสมควรจะได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้ถี่ถ้วน เพื่อป้องกันมีให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนา 

ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อร้องเรียนดังกล่าว อาศัยอำนาจตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 278/2568 เรื่องมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 2 กันยายน 2567 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดโสธรรรารามวรวิหาร โดยมีองค์ประกอบหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ 

1.องค์ประกอบ 

1.1 ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานกรรมการ 
1.2 นางรื่นฤดี สุวรรณมงคล กรรมการ 
1.3 นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา กรรมการ 
1.4 ผู้กำกับการสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา กรรมการ 
1.5 ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดฉะเชิงเทรา กรรมการและเลาขานุการ 
1.6 นายอนุชิต แสงใสย์ 

2. หน้าที่และอำนาจ 

2.1 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ตามที่มีข้อร้องเรียนและที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ 
2.2 เชิญผู้เกี่ยวข้อง หน่วยงานของรัฐ มาชี้แจง ให้ข้อมูล และมีอำนาจเรียกเอกสารหรือพยานหลักฐานที่ที่เกี่ยวข้องจากผู้ครอบครอง เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมข้อเท็จจริง 
2.3 คณะกรรมการอาจแต่งคณะอนุกรรมการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเท่าที่จำเป็น เพื่อพิจารณาศึกษาปฏิบัติการอย่างได้อย่างหนึ่ง ตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ 
2.4 ดำเนินการอื่น ๆ ที่จำเป็นหรือตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้ทำเนินการตามหน้าที่และอำนาจบรรลุผลสำเร็จ 

ทั้งนี้ให้คณะกรรมการตรวจข้อเท็จจริง เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประธานกรรมการรับทราบคำสั่ง ในกรณีที่คณะกรรมการไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาได้ ให้คณะกรรมการรายงานเหตุที่ทำให้ดำเนินการไม่แล้วเสร็จต่อผู้มีคำสั่งแต่งตั้ง เพื่อให้พิจารณาขยายระยะเวลาดำเนินการตามความจำเป็น ครั้งละไม่เกิน 15 วัน จนกว่าการดำเนินการจะแล้วเสร็จและรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้มีคำสั่งเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป